บทที่ 1075 เรื่องราวที่ผิดพลาด
เมื่อขบวนรถม้าเดินทางมาถึงชายแดนต้าเหลียง ทายาทตระกูลเฉินก็ถูกองครักษ์เสื้อแพรพาตัวไปแล้ว
ขณะที่ภาระอันหนักอึ้งได้หายไป ขบวนรถม้ากำลังจะแล่นไปตามถนนหลวง กองทหารม้าที่ดูน่าเกรงขามก็ปรากฏขึ้นในสายตาอย่างกะทันหัน
ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนไม่มาก คาดว่าประมาณสิบคน แต่กลับแผ่อำนาจอย่างเต็มที่ เห็นได้ชัดว่าเป็นกองกำลังชั้นยอด ทุกคนสวมเกราะ
เมื่อกองทหารม้าอยู่ห่างจากขบวนรถม้าราวยี่สิบลี้ก็มีสัญญาณเตือนภัยส่งมาถึงฉินเฟิงอย่างต่อเนื่อง
“ท่านโหว มีกองกำลังที่ไม่ทราบที่มากำลังบุกเข้ามา!”
“ท่านโหว ความเร็วของกองกำลังฝ่ายศัตรูอยู่ในระดับปานกลาง น่าจะเป็นกองทหารม้าเกราะหนัก”
“แม่ทัพอู๋ รีบพาท่านโหวหลบภัยโดยเร็ว ที่นี่เป็นชายแดนต้าเหลียงย่อมมีทหารประจำการคอยสกัดกั้นกองกำลังพวกนี้”
เมื่อกองทหารม้าอยู่ห่างจากขบวนรถม้าไม่ถึงสิบลี้ ขบวนของฉินเฟิงก็ได้หลบเข้าไปในป่าแห่งหนึ่งภายใต้การคุ้มกันของอู๋ถัง
ขณะเดียวกัน สองข้างทางหลวงก็มีกำลังพลนับร้อยซุ่มอยู่
เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามเป็นกองทหารม้าติดเกราะหนัก แม้แต่องครักษ์ค่ายเทียนจีก็ไม่กล้าประมาท จึงร่วมมือกับหน่วยอาวุธมืดในการป้องกัน โดยได้ง้างธนูไว้พร้อมยิง
ส่วนทหารเป่ยซีภายใต้การนำของอู๋ถังก็ขี่ม้าคอยคุ้มกันอยู่ข้างขบวนรถม้า หากฝ่ายศัตรูเข้ามาใกล้ขบวน อู๋ถังก็จะให้ฉินเฟิง และสตรีลงจากรถ โดยให้ทหารเป่ยซีพาขี่ม้าหนีออกจากที่นี่อย่างเร็วที่สุด
“อีกห้าลี้!”
องครักษ์เสื้อแพรวิ่งมารายงานอีกครั้ง
“ทหารประจำการกองทหารม้าได้มาสนับสนุนแล้ว แต่ชัดเจนว่าไม่ทันการณ์ ทหารม้าหนักของศัตรูบุกอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีใครต้านทานได้”
“ท่านโหว ทหารม้าเบาหน่วยที่อยู่ใกล้ที่สุดได้เริ่มสกัดกั้นแล้ว”
“ท่านโหว ทหารม้าเบาเก้าสิบนายพ่ายแพ้แล้ว ทหารม้าหนักของศัตรูไม่มีใครบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว ห่างจากขบวนรถไม่ถึงสองลี้แล้ว”
เนื่องจากข่าวร้ายที่ส่งมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกองทหารม้าหนักกลุ่มนี้ก็มีกำลังรุนแรงเกินไป
ทหารม้าเบาเก้าสิบนาย เพียงแค่ปะทะก็แตกพ่าย ต้องรู้ไว้ว่ากองทหารม้าเบาเมื่อเผชิญหน้ากับกองทหารม้าหนักมีความได้เปรียบโดยธรรมชาติ แม้สู้ไม่ได้ก็สามารถล้อมโจมตีรบกวน ค่อย ๆ ทำให้กองทหารม้าหนักอ่อนล้าจนตายได้
ฝ่ายตรงข้ามสามารถเอาชนะกองทหารม้าเบาที่มีจำนวนมากกว่าได้อย่างง่ายดาย มีคำอธิบายเดียวคือ ความแตกต่างของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ห่างชั้นกันเกินไป
เกราะของกองทหารม้าหนักชุดนี้แข็งแกร่งจนน่าตกใจ อีกทั้งธนูม้าก็มีพลังเหนือกว่า อาศัยการยิงธนูสังหารอีกฝ่ายจนหมด
ฉินเฟิงตัดสินใจ กระโดดลงจากรถม้าพลางตะโกนว่า “ชิงฉือ เสี่ยวหลาน เชียนอิ่ง… พวกเจ้าลงจากรถทั้งหมด!”
“อู๋ถัง เจ้ารีบจัดการให้ทหารเป่ยซีพาสตรีหลบหนี ไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด แล้วค่อยรวมตัวกันภายหลัง”
“ทหารหลักของศัตรูไม่อาจต่อกรได้!”
“รีบออกคำสั่ง ให้องครักษ์ค่ายเทียนจีและหน่วยอาวุธมืด ถอยกลับมาทั้งหมด ร่วมมือกับกองทหารม้าเป่ยซีที่เหลือป้องกัน”
เมื่อฉินเฟิงออกคำสั่ง ทุกคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน แม้หลี่เซียวหลานและเหล่าสตรีจะไม่อยากจากไป แต่พวกนางเข้าใจดีว่า ยามคับขันเช่นนี้ ไม่อาจเป็นภาระให้ฉินเฟิงได้ จึงรีบถอยออกไป
สาเหตุที่ฉินเฟิงเรียกองครักษ์ค่ายเทียนจีและหน่วยอาวุธมืดทั้งหมดกลับมา เพราะการซุ่มโจมตีระหว่างทางเท่ากับการฆ่าตัวตาย
กองทหารม้าของศัตรูสวมเกราะแน่นหนา แทบไม่มีอาวุธใดทำลายเกราะของพวกมันได้
หากทั้งสองฝ่ายปะทะกัน กองทหารม้าแม้ไม่ต้องใช้ธนู เพียงขี่ม้าเหยียบย่ำก็สามารถสังหารองครักษ์ค่ายเทียนจีหน่วยอาวุธมืดได้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ