บทที่ 1074 บทบาทของผู้นำ
พูดถึงตรงนี้ ฉินเฟิงก็ถอนหายใจยาว ในใจลึก ๆ เขารู้สึกผิดต่อหลิ่วหมิงอยู่บ้าง ตลอดมา หลิ่วหมิงแบกรับภาระหนักที่สุด ทำงานที่อันตรายและเหนื่อยที่สุด อีกทั้งยังได้รับการลงโทษมากที่สุดด้วย
หากไม่ใช่เพราะหลิ่วหมิงนำองครักษ์เสื้อแพรออกสืบข่าวทั่วสารทิศ ทำงานสกปรกมืดมนมากมายที่ฉินเฟิงไม่อาจเอ่ยปาก แล้วฉินเฟิงจะมายืนออกคำสั่งอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
การวางหลิ่วหมิงไว้ในตำแหน่งที่เขาควรอยู่ นับเป็นความกรุณาเพียงอย่างเดียวที่ฉินเฟิงมีให้หลิ่วหมิง แต่เสิ่นชิงฉือกลับเกือบทำให้ตำแหน่งของหลิ่วหมิงเปลี่ยนไป
การขัดขวางฉินเฟิง เสี่ยงตายเพื่อทัดทาน แก้ไขความผิดพลาด เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นหน้าที่ของหลี่จาง
อย่าว่าแต่หลิ่วหมิงเลย แม้แต่หนิงหู่และสวีโม่ก็ไม่อาจพูดจาส่งเดช
หลิ่วหมิงในฐานะหัวหน้าสายสอดแนมตำแหน่งละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง จู่ ๆ มาก้าวก่ายแย่งงานของหลี่จาง ผลที่ตามมาย่อมคาดเดาได้
ฉินเฟิงไม่ฆ่าเขาก็ไม่พอจะวางอำนาจ แต่ถ้าฆ่าเขาก็จะเสียผู้ใต้บังคับบัญชาที่จงรักภักดีไป
การกระทำที่หวังดีของเสิ่นชิงฉือจึงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง แต่ฉินเฟิงก็ได้แต่นิ่งเงียบ แบกรับความผิดทั้งหมดแทนครอบครัว ยกเว้นให้เสิ่นชิงฉือและหลิ่วหมิงเป็นกรณีพิเศษ
ผู้บัญชาการในสนามรบ ผู้นำนอกสนามรบ และสมาชิกครอบครัวในชีวิตประจำวัน ฉินเฟิงต้องคิดจนหัวแทบแตกเพื่อรักษาสมดุลระหว่างสถานะทั้งสามที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนี้ หลี่เซียวหลานและจิ่งเชียนอิ่งต่างพากันปลอบประโลมเสิ่นชิงฉือ
“พี่หญิงใหญ่ ความผิดพลาดคือบทเรียน ท่านเพียงจดจำไว้ว่า เรื่องที่นอกเหนือจากการใช้ชีวิต ไม่ยุ่งเกี่ยวก็พอ”
“ใช่แล้ว พวกเราเป็นสตรีก็ควรรู้จักที่ทางตน ยิ่งยื่นมือเข้าไปยุ่งมาก สถานการณ์ของฉินเฟิงก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นเท่านั้น”
เสิ่นชิงฉือก้มหน้าลง นางตระหนักถึงความผิดพลาดของตนเองอย่างลึกซึ้งแล้ว และในที่สุดนางก็เข้าใจว่า ทำไมเรื่องสำคัญอย่างการกำจัดตระกูลเฉิน หลี่เซียวหลานและจิ่งเชียนอิ่งจึงคอยแต่ดูอยู่ห่าง ๆ ไม่เคยแสดงความคิดเห็นใด ๆ
นั่นแหละคือการกระทำที่ฉลาดที่สุด หลี่เซียวหลานรู้ว่าฉินเฟิงกังวลว่าจะพูดแรงเกินไป ทำให้เสิ่นชิงฉือเสียใจ
แต่เพื่อให้นางเข้าใจถึงความได้เสียในเรื่องนี้มากขึ้น ในฐานะพี่น้องนางจึงเอ่ยปากพูดสักหน่อย
“พี่หญิงใหญ่ ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดตั้งแต่โบราณมา ฮ่องเต้จึงระแวงญาติฝ่ายหญิงที่สุด”
ญาติฝ่ายหญิง…เมื่อได้ยินคำนี้ เสิ่นชิงฉือก็เข้าใจแล้ว ในที่สุดก็ตระหนักว่า ตนเองเกือบจะก่อเรื่องใหญ่ให้ฉินเฟิง
สตรีรอบกายฉินเฟิงทุกคนล้วนแต่ต้องวางตัวเป็นแค่แจกันดอกไม้จึงจะดีที่สุด อย่างมากก็แค่ทำหน้าที่ของตน ห้ามก้าวก่ายเด็ดขาด
หากก้าวก่าย ก็มีโอกาสสูงที่จะถูกอำนาจภายนอกแทรกแซง จนกลายเป็นการแย่งชิงอำนาจและการลดทอนอำนาจไปทีละขั้น
หากหลิ่วหมิงทำตามคำสั่งของเสิ่นชิงฉือ ฆ่าคนตระกูลเฉิน ต่อไปเมื่อหลิ่วหมิงเจอเรื่องคล้ายกันนี้ เขาก็จะไม่ถามฉินเฟิงแล้ว แต่จะมาหาเสิ่นชิงฉือโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงจะไม่ทำร้ายเสิ่นชิงฉือไม่ว่าด้วยวิธีใด เมื่อเสิ่นชิงฉือออกคำสั่ง หลิ่วหมิงก็สามารถ ‘บังคับใช้กฎหมาย’ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ดังคำกล่าวที่ว่า ดึงผมเส้นเดีย สะเทือนไปทั้งร่าง! การกระทำด้วยความปรารถนาดีของเสิ่นชิงฉือเกือบทำให้ตำแหน่งของทุกคนสั่นคลอน และทำให้ฉินเฟิงตกอยู่ในอันตราย
เสิ่นชิงฉือเงยหน้า สายตาที่มองมาที่ฉินเฟิงเปลี่ยนไปมาหลายครั้ง
“เฟิงเอ๋อร์ ข้าขอโทษ ข้ารู้ตัวแล้วว่าทำผิด”
“เจ้าวางใจได้ ข้าจะไม่มีวันกลายเป็นญาติฝ่ายภรรยาข้างกายเจ้า”
เมื่อได้ยินคำขอโทษจากพี่สาวใหญ่ ฉินเฟิงยิ้มอย่างเข้าอกเข้าใจ แล้วดึงเสิ่นชิงฉือเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก
อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิดและละอายใจ เสิ่นชิงฉือจึงไม่ดิ้นรนขัดขืนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อเป็นเช่นนี้ฉินเฟิงย่อมฉวยโอกาส เขาลูบไล้ไปมาถือโอกาสลวนลาม ปากก็ปลอบประโลม น้ำเสียงแกล้งทำเป็นจริงจัง
“พี่หญิงใหญ่ ในเมื่อท่านเข้าใจถึงความได้เสียในเรื่องนี้ก็พอแล้ว ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเรา ข้าจะไปติดใจอะไรอีกเล่า?”
“แต่ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ