เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 1093

บทที่ 1093 มังกรเหยียบย่ำงูเห่า

ในตอนนั้น ทหารยามที่ถูกจ้าวอวี้หลงจับไว้ก็หมดสติไปเพราะเสียเลือดมากเกินไป อีกทั้งยังทนความเจ็บปวดไม่ไหว

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น จ้าวอวี้หลงก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือ ภายใต้สายตาตกตะลึงของหวังฉีและหัวหน้าทหารยามอำเภอหมิง จ้าวอวี้หลงชักดาบสั้นออกมาจากเอวด้านหลัง แล้วฟันแขนขวาของทหารยามขาดในทันที

ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้หัวหน้าทหารยามตกใจจนหน้าซีด พวกคนเหล่านี้ไม่ใช่ทหารธรรมดาเลย พวกเขาโหดเหี้ยมยิ่งกว่าโจรที่ไม่เกรงกลัวความตาย

หรือว่าพวกเขาไม่ใช่ทหารผ่านศึกที่ถอยร่นมาจากแนวหน้า แต่เป็นทหารศัตรูที่ปลอมตัวแทรกซึมเข้ามาในเขตแดนต้าเหลียง?

นี่คงอธิบายได้ว่าทำไมทหารกลุ่มนี้ที่ขอเดินผ่านถึงได้อหังการเช่นนี้

จ้าวอวี้หลงเก็บดาบสั้น โยนแขนที่ขาดลงบนตัวทหารยาม พูดเสียงเย็น “ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ!”

จ้าวอวี้หลงไม่สนใจทหารยามที่สลบไปอีก เขาย่อตัวลงมองหลิวอวิ๋นชิว ถามเสียงทุ้ม “ที่เจ้าพูดมาก่อนหน้านี้เป็นความจริงทั้งหมดหรือ?”

เมื่อรู้สึกถึงแววตาเยือกเย็นของจ้าวอวี้หลง หลิวอวิ๋นชิวก็กลัวจนตัวสั่น แม้นางยังเด็ก แต่อย่างที่ว่า ลูกคนจนต้องโตเร็ว วุฒิภาวะของนางจึงสูงมาก

แม้ทหารตรงหน้าจะน่ากลัว แต่ถ้าพวกเขาจากไป ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหวังหรือศาลว่าการอำเภอก็คงไม่ปล่อยพี่น้องทั้งสามคนไว้แน่

แม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลหลิวก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

นางไม่มีทางเลือก จำต้องทุ่มเทสุดตัว

“ทุกสิ่งที่ข้ากล่าวมาล้วนเป็นความจริง หากแม่ทัพไม่เชื่อ ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลหลิวทั้งหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดชีวิตสามารถเป็นพยานได้”

เพียงแค่คำพูดนี้ก็เพียงพอแล้ว จ้าวอวี้หลงไม่พูดอะไรอีก หมุนตัวเดินไปหาฉินเฟิง

หลิวอวิ๋นชิวคิดว่าจ้าวอวี้หลงกำลังจะจากไป สีหน้าของนางดูสิ้นหวังถึงขีดสุดในทันที ดูเหมือนว่านางจะเดิมพันผิดคนเสียแล้ว

ความหวังที่ว่านั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่ผ่านมาเพียงชั่วครู่…

จ้าวอวี้หลงเดินมาที่ใต้ม้าศึกของฉินเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “พี่ฉินข้าได้สอบถามเรื่องราวจนกระจ่างแล้ว”

“ชาวบ้านเหล่านี้ล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกคนมั่งมีในเมืองรังแก”

“ที่ว่าเป็นนักโทษหลบหนีนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงสาวใช้ที่ทนการดูถูกเหยียดหยามไม่ไหว จึงหนีออกมาจากบ้านคนมั่งมีเท่านั้น”

“สาวใช้คนนั้น เด็กสาว และหญิงสาวที่ถูกทำให้สลบ ทั้งสามคนเป็นพี่น้องกัน พวกนางแซ่หลิว เป็นคนจากหมู่บ้านตระกูลหลิว”

เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ฉินเฟิงพยักหน้าเบา ๆ เมื่อได้ยื่นมือเข้าช่วยแล้ว ก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด ทำบุญต้องทำให้ถึงที่

ฉินเฟิงควบม้าเข้ามาใกล้ฝูงชน มองลงมาจากที่สูงไปยังหลิวอวิ๋นชิวที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน

“เด็กน้อย เจ้าชื่ออะไร?”

หลิวอวิ๋นชิวมองดูฉินเฟิงแล้วหันไปมองจ้าวอวี้หลงในที่สุดนางก็เข้าใจว่าผู้นำที่แท้จริงของกองทหารม้านี้ก็คือชายหนุ่มที่ดูสุภาพผู้นี้

นางรีบคว้าโอกาสรอดชีวิตอีกครั้ง รีบตอบว่า “ข้าชื่อหลิวอวี๋ชิว เป็นบุตรีคนที่สามของตระกูล”

ฉินเฟิงพยักหน้าเบา ๆ หันไปมองกองทหารม้าทมิฬแล้วถามขึ้นว่า “แพทย์ทหารอยู่ที่ใด?”

ในชั่วขณะต่อมา ทหารม้าในชุดเกราะหนักที่ดูไม่แตกต่างจากกองทหารม้าทมิฬคนอื่น ๆ ก็รีบเดินเข้ามา

เมื่อเข้ามาใกล้ ทุกคนถึงเห็นชัดว่าทหารม้าผู้นี้มีเพียงแหลนม้าและดาบสั้นที่เอวเท่านั้น ไม่มีอาวุธอื่นใด

ทั้งบนหลังม้าและที่ว่างบนตัวเขาเต็มไปด้วยกล่องไม้และถุงผ้าขนาดต่าง ๆ

แม้แพทย์ทหารจะไม่เชี่ยวชาญการรักษาโรค แต่กลับชำนาญเรื่องบาดแผลภายนอกเป็นอย่างดี

ฉินเฟิงชี้ไปที่หลิวอวิ๋นชุนที่สลบไป พูดเบา ๆ ว่า “ไปดูหน่อย รักษาได้หรือไม่”

แพทย์ทหารรีบลงจากม้าวิ่งไปที่ข้างกายหลิวอวิ๋นชุน เมื่อฉีกเสื้อผ้าที่ถูกทุบตีจนพังออก แม้แต่แพทย์ทหารที่เคยเห็นเหตุการณ์ร้ายแรงมามากมายก็ยังต้องสูดหายใจเฮือก

บทที่ 1093 มังกรเหยียบย่ำงูเห่า 1

บทที่ 1093 มังกรเหยียบย่ำงูเห่า 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ