บทที่ 112 ผสมกลมกลืน
เมื่อได้ฟังคำของหลินฉีฉวี ฉินเฟิงกลับมีสีหน้าสับสน เขาเพียงคิดแค่ว่าอยากจะหาเงินเท่านั้น ในฐานะพ่อค้าย่อมต้องเข้ากับผู้อื่นได้ง่ายเป็นธรรมดา ดังสุภาษิตที่ว่า ‘ปรองดองก่อเกิดทรัพย์’
เหตุใดหลินฉวีฉีถึงเป็นเช่นนี้ ผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลมอันใดกัน? ไอหยา พวกท่องตำราทำเอาคนคาดเดาไม่ได้จริง ๆ
ในที่สุดเรื่องน้ำตาลอ้อยก็คลี่คลาย ฉินเฟิงจึงไม่มัวอ้อยอิ่งอยู่ข้างนอกอีกต่อไป ตอนนี้ชายหนุ่มจึงได้พาหลินฉวีฉีเดินทางกลับจวน
ระหว่างทางกลับจวน ฉินเฟิงมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ผู้คนต่างก็ชี้มาที่เขาเป็นครั้งคราว
หรือว่าเขาจะล่วงเกินคนมากเกินไปจนมีใครพยายามจะลงมือกับเขาแล้ว?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ นายน้อยฉินก็สาปแช่งอยู่ในใจและอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้า เพราะว่าตอนนี้ไม่มีจิ่งเชียนอิ่งหรือชูเฟิงอยู่ข้างกาย หากต้องปะทะกับคนเลว เขากับหลินฉวีฉีที่เป็นเพียงปัญญาชนกระจอก ๆ ทั้งคู่ไม่ต่างอะไรไปจากการเป็นผู้พิการระดับสาม*[1] แล้วเช่นนี้พวกเขาจะไม่ถูกผลักและลากไปมาอย่างนั้นรึ?
ผลคือหลังจากเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว จู่ ๆ ก็ชายสองคนรีบออกมาขวางทางไว้อย่างรวดเร็ว
ฉินเฟิงสะดุ้งโหยง และตะโกนด้วยความโกรธ “พี่หลินเจ้าขวางไว้ ข้าจะแยกไปก่อน! ต้องอดทนไว้จนกว่าข้าจะกลับมาพร้อมกับกำลังเสริมนะ”
ขณะที่เขาพูด ฉินเฟิงก็ตั้งท่ากำลังจะทาน้ำมันบนฝ่าเท้าของตนเองเพื่อวิ่งหนี
แม้ว่าระยะเวลาที่หลินฉวีฉีมีร่วมกับฉินเฟิงจะไม่นับว่านาน แต่เขาก็ดูออกว่าฉินเฟิงค่อนข้างคล่องแคล่วด้านการทอดทิ้งสหายนัก บัณฑิตหนุ่มทั้งโมโหทั้งขบขัน เขารีบคว้าตัวฉินเฟิงเอาไว้ทันที “พี่ฉินอย่าตกใจไป สองคนนี้ดูไม่เหมือนคนเลวเลย”
ฉินเฟิงหันกลับมามองอีกครั้ง และเห็นว่าชายทั้งสองแต่งกายเหมือนกับบัณฑิต สายตาที่ใช้มองเขาใช่เพียงไม่อาฆาตแต่ยังดูร้อนแรงอีกด้วย
บัณฑิตหนึ่งในนั้นโค้งคำนับฉินเฟิง “ข้าน้อยชื่นชมชื่อเสียงเรียงนามของนายน้อยฉินมานานแล้ว วันนี้โชคดียิ่งนักที่ได้พบกับท่าน ความรู้สึกนี้ไม่อาจหยุดไว้ได้ ดังนั้นจึงเข้ามาขวางทาง นายน้อยฉินโปรดอย่าได้ตำหนิพวกเรา รบกวนนายน้อยฉินลงลายมือชื่อให้ข้าน้อยได้หรือไม่?”
หา? เซ็นชื่อ?
ฉินเฟิงมีสีหน้าสับสน แม้ว่าเขาจะหล่อแต่ก็ยังห่างไกลจากการเป็นไอดอลอยู่มากโข อยู่ดี ๆ มาให้เซ็นชงเซ็นชื่ออันใดกันเล่า?
บัณฑิตผู้นั้นหยิบหนังสือออกมาจากอ้อมแขนของเขา บนปกมีคำว่า ‘บทกวีแคว้นต้าเหลียง’ เขียนอยู่ นอกจากนี้อีกฝ่ายยังยืมพู่กันกับหมึกจากร้านค้าใกล้ ๆ มอบให้กับฉินเฟิงด้วยความเคารพนอบน้อม
ฉินเฟิงเปิด ‘บทกวีแคว้นต้าเหลียง’ ที่แท้นี่เป็นหนังสือรวมบทกวี และบทกวีแรกที่ปากฏในหนังสือเล่มนี้ก็คือ ‘ออกด่าน’ ส่วนบทกวีที่สองคือ ‘เมาเงาบุปผา ม่านเมฆหมอกหนาทึบกังวลทั้งคืนวัน’
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน สีหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ชายหนุ่มถามขึ้นด้วยใบหน้าติดจะรำคาญ “ร้านหนังสือใดที่คัดลอก ‘บทกวีแคว้นต้าเหลียง’ เล่มนี้กัน? ให้ตายเถอะ ขนาดกับข้ายังกล้าละเมิดลิขสิทธิ์? ตอนที่รวบรวมบทกวีสองบทนี้ไม่แม้แต่จะมาขอกันเลยหรือ? ข้าจะฟ้องร้องมันให้สิ้นเนื้อประดาตัวเสียเลยคอยดู!”
ทันทีที่นายน้อยฉินเอ่ยออกมา เหล่าผู้คนพลันสะดุ้งไปตาม ๆ กัน ทุกคนต่างก็มองไปที่ฉินเฟิงด้วยสายตาหวาดผวา
หลินฉวีฉีก็ตกใจเช่นกัน เขารีบปิดปากของฉินเฟิง แล้วเอ่ยเตือนด้วยเสียงต่ำ “อย่าพูดจาพล่อย ๆ สิขอรับ! ตอนที่ข้าเข้าเมืองหลวง ข้าน้อยก็ซื้อสำเนาของ ‘บทกวีแคว้นต้าเหลียง’ มาเล่มหนึ่งเช่นกัน หนังสือเล่มนี้จัดทำโดยร้านหนังสือสังกัดกรมพิธีการ ตำราทั้งหมดที่ผลิตภายใต้การดูแลของกรมพิธีการจะต้องจัดทำใบสั่งซื้อเป็นชุด และจะต้องได้รับการตรวจสอบจากฮ่องเต้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ‘บทกวีแคว้นต้าเหลียง’ นี้ถูกสร้างขึ้นตามเจตนารมณ์ขององค์ฮ่องเต้!”
ฮ่องเต้?! ต่อให้เป็นจักรพรรดิก็ไม่สามารถละเมิดสิทธิ์ของข้าได้นะ! ฉินเฟิงโกรธจนแอบตัดสินใจว่า ครั้งต่อไปที่เขาเจอตาแก่ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงจะต้องให้เขาชดเชยค่าลิขสิทธิ์ให้จงได้!
ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเฟิงเพิ่งเริ่มเตรียมตัวสำหรับร้านหนังสือได้ไม่นานก็ถูกฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงชิงตัดหน้าไปก่อนเสียแล้ว ชายหนุ่มสงสัยยิ่งว่าฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงแอบส่งสายลับมาคอยติดตามรอบตัวเขา! กลับไปจะต้องสอบปากคำอย่างเข้มงวดดูเสียหน่อยแล้วว่า ใครกันที่ขายข้า คงเริ่มจากเสี่ยวเซียงเซียง ผิวบางเนื้อนุ่ม หึ ๆ
อะแฮ่ม…
ฉินเฟิงกระแอมไอเพื่อบรรเทาความกระอักกระอวน แล้วแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเซ็นชื่อลงบนกระดาษ และยื่นคืนให้บัณฑิตผู้นั้น “ไม่โทษผู้ไม่รู้ ถือเสียว่าทุกคนไม่ได้ยินสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปเมื่อครู่นี้ก็แล้วกัน อีกอย่าง… ในเมืองหลวงแห่งนี้มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ว่าข้ามีปัญหาทางจิต? อย่าได้ถือสาหาความกับคำพูดของคนบ้าเลย”
ผู้กินแตงที่อยู่รอบ ๆ เปลี่ยนจากตกใจเป็นชื่นชมทันที ต่างพากันโห่ร้องสรรเสริญไม่หยุด
ในแง่ของความไร้ยางอาย ต่อให้มัดวายร้ายทั้งหมดในเมืองหลวงเข้าด้วยกันก็ยังเทียบไม่ได้กับเศษหนึ่งส่วนหมื่นของนายน้อยฉิน


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ