เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 1124

บทที่ 1124 การเตรียมพร้อมรบที่ชายแดนใต้

ฉินเทียนหู่รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ราวกับว่าตนได้อยู่ร่วมเห็นวีรกรรมทั้งหมดที่ฉินเฟิงได้กระทำมาตลอดทาง

แต่เขาก็มีเหตุผลที่จะภูมิใจ หากมองทั่วทั้งต้าเหลียงมีผู้ใดบ้างที่มีทายาทเก่งกาจเช่นบุตรชายของตน?

แม้กระทั่ง

ทุกครั้งที่เข้าเฝ้า ในท่ามกลางขุนนางทั้งหลาย ไม่มีผู้ใดที่จะยืนอกผายไหล่ผึ่งได้เท่าฉินเทียนหู่

สามแม่ทัพย่อมรู้ดีถึงความสามารถทางการทหารของฉินเฟิงเพราะครั้งหนึ่งพวกเขาเคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันต่อสู้กับกองทัพเป่ยตี๋

แต่สำหรับพวกเขาแล้ว ฉินเฟิงก็ยังคงสร้างความประหลาดใจให้พวกเขาไม่หยุดหย่อน

บางครั้ง พวกเขาก็แยกไม่ออกว่านี่คือความประหลาดใจหรือความตกใจกันแน่

เสิ่นชิงฉือและเหล่าสตรีทั้งหลาย รู้สึกทั้งขัดใจและขบขัน ในที่สุดพวกนางก็เข้าใจแล้วว่า ที่ฉินเทียนหู่อ้อมค้อมมากมายขนาดนี้ ก็เพื่อจะโอ้อวดว่า ‘พ่อเสือย่อมไม่มีลูกเป็นสุนัข’

แม้พวกนางจะตกใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ตำหนิฉินเทียนหู่

ด้วยในฐานะที่เป็นบิดา มีบุตรชายที่ ‘เก่งกาจ’ เช่นนี้ ย่อมต้องดีใจเป็นธรรมดา

เมื่อทหารจู่โจมเจ็ดสิบนายจากแคว้นเยว่จ้าวถูกฉินเฟิงกำจัดไปแล้ว ความกังวลในใจของเหล่าสตรีก็หายไปหมดสิ้น

เพราะพวกนางรู้ว่า ไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้งฉินเฟิงได้อีกแล้ว ต่อจากนี้เพียงรอคอยอย่างสงบเท่านั้น

ต้าเหลียง เมืองกูซูแห่งเจียงหนาน

เมืองที่เคยรุ่งเรืองในอดีต บัดนี้กลับปกคลุมไปด้วยบรรยากาศอันหนักอึ้ง เนื่องจากการเตรียมรับศึกที่ยาวนาน ชาวบ้านต่างปิดประตูไม่ออกจากบ้าน พ่อค้าแม่ค้าพากันเลี่ยงเส้นทางผ่าน

แม้จะเป็นเวลากลางวัน แต่เมืองกูซูกลับดูเงียบเหงาผิดปกติ

บนท้องถนน สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือเหล่าทหารที่เดินกันเป็นกลุ่ม

แม้ว่าหน่วยงานบริหารของเมืองกูซูจะยังคงดำเนินการอยู่อย่างฝืดเคือง แต่ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงแค่ชื่อไม่มีอำนาจจริง

สิ่งที่มีอิทธิพลและสามารถชี้เป็นชี้ตายต่อความเป็นความตายของเมืองกูซูได้ กลับกลายเป็นเรือนอู๋อวี้เก๋อที่สร้างขึ้นด้วยเงินทุนของตระกูลหลิน

เมื่อเทียบกับที่ว่าการเมืองที่เงียบเหงา เรือนอู๋อวี้เก๋อกลับมีทหารคอยเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ผู้คนเดินเข้าออกไม่ขาดสาย วุ่นวายเป็นอย่างยิ่ง

ศาลาอวี่เอี้ยนที่ใหญ่ที่สุดในเรือนอู๋อวี้เก๋อได้มีผู้คนมานั่งกันจนเต็มแล้ว

นอกจากสมาชิกของตระกูลหลินแม่ทัพใหญ่แห่งเจียงหนานและแม่ทัพประจำการแล้ว คนที่เหลือล้วนเป็นตัวแทนที่ตระกูลใหญ่ทางใต้ส่งมา

แม้ว่าจะใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีนเข้ามาทุกที แต่เมืองกูซูกลับยังคงมีแสงแดดสดใสราวกับอยู่ในฤดูร้อน

ทุกคนแต่งกายดูผ่อนคลาย

ตัวแทนที่ตระกูลหนานกงส่งมาคือบุตรชายคนโตของตระกูล เป็นชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบกว่าปี รูปร่างหน้าตาไม่ได้ดูสง่าผ่าเผย เพียงแต่ดูแข็งแรงกว่าคนทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น

บุตรชายคนโตตระกูลหนานกง จ้องมองเจ้าภาพที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานด้วยดวงตาคู่คมกริบ นางคือหลินเวินหว่าน อดีตกุ้ยเฟยและผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลหลิน

“ท่านหญิงหลิน หากนับตามเวลาแล้ว ฉินเฟิงคงกลับถึงเมืองหลวงแล้ว”

“หลังจากฉินเฟิงอภิเษกสมรส กองทัพคงจะยกทัพลงใต้ เมื่อถึงเวลานั้น ไฟสงครามจะเผาผลาญดินแดนทางใต้ทั้งหมด”

“เมืองกูซู เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ทั้งสองฝ่ายต้องแย่งชิง ห้ามมีข้อผิดพลาดใด ๆ หากเมืองกูซูถูกยึด กองทัพของฉินเฟิงจะบุกลงใต้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินแดนทางใต้ทั้งหมดตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบอย่างยิ่ง”

“เพื่อสกัดฉินเฟิงไว้ทางเหนือของเมืองกูซู ตระกูลหนานกงของข้ายินดีสนับสนุนเสบียงอาหาร!”

ภายใต้การนำของตระกูลหนานกง ไม่เพียงแต่ตระกูลใหญ่ทางใต้แต่ยังรวมถึงกลุ่มอำนาจต่าง ๆ ทางใต้ที่มาร่วมประชุมต่างก็แสดงจุดยืน

“เมืองกูซูคือป้อมปราการสำคัญของดินแดนทางใต้ เสียไปไม่ได้เด็ดขาด”

“ตระกูลหลินสามารถทุ่มเทสู้รบกับฉินเฟิงได้อย่างเต็มที่ ข้าจะสนับสนุนด้านการเงิน”

“ตระกูลหวังของข้า หลายปีมานี้ได้สะสมอาวุธและเกราะไว้มากมาย ย่อมจะมอบให้ทั้งหมดอย่างไม่หวงแหน”

บทที่ 1124 การเตรียมพร้อมรบที่ชายแดนใต้ 1

บทที่ 1124 การเตรียมพร้อมรบที่ชายแดนใต้ 2

บทที่ 1124 การเตรียมพร้อมรบที่ชายแดนใต้ 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ