บทที่ 164 ปัญหาที่ไร้คำตอบ
ช่างหัวด่านกลยุทธ์นี่เถอะ ภายใต้ความช่วยเหลือจากฉินเฟิง สุดท้ายสวีโม่ก็เป็นผู้ชนะอย่างไร้ข้อกังขา
แต่คำถามที่ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงได้เตรียมไว้ล่วงหน้าจะไม่เอามาใช้ได้อย่างไร?
พระองค์จึงตรัสออกมาทันที “ทหารราบเกราะเบาสามพันนายต่อสู้อย่างดุเดือดในสนาม จะรับมือกับทหารม้าห้าพันนายได้อย่างไร”
ทันทีที่สิ้นประโยค ทั่วทั้งพื้นที่ก็เงียบสนิท
ผู้เข้าประลองตำแหน่งแม่ทัพทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา ในใจตื่นตะลึง คำถามนี้ของฮ่องเต้ยากเกินไปแล้ว
แม้แต่บรรดาแม่ทัพก็ยังตกใจกับคำถามที่ฝ่าบาทตรัสออกมา ระดับความยากนี้เกินไปจริง ๆ อย่าว่าแต่มือใหม่ที่ขาดประสบการณ์ในสนามรบ แม้แม่ทัพทหารผ่านศึกก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจเมื่อต้องเผชิญกับคำถามดังกล่าว
เวลาหนึ่งถ้วยชาผ่านไป ยังไม่มีผู้ใดที่ตอบคำถามนี้ได้
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงก็รู้สึกผิดหวัง พลางถอนหายใจเบา ๆ “แม้ว่าปัญหานี้จะยาก แต่ก็เป็นปัญหาที่ชายแดนมักจะเผชิญอยู่บ่อยครั้ง ทหารราบของต้าเหลียงเราล้วนกล้าหาญ เคยบุกเบิกดินแดน ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับทหารม้าเป่ยตี๋กำลังที่มีก็ไม่เป็นดั่งใจ นี่เป็นสิ่งที่ต้าเหลียงจนปัญญา ทั้งยังเป็นปัญหาในทางปฏิบัติที่ทั้งแม่ทัพและแม่ทัพรุ่นเยาว์จะต้องเผชิญในอนาคตด้วย”
ทันทีสิ้นประโยค ทั่วทั้งลานก็เงียบยิ่งกว่าเดิม
เพราะอย่างไรเสีย คำถามนี้ก็อิงจากสภาพความเป็นจริง อีกทั้งยังอาจส่งผลต่อรูปแบบการรบที่ชายแดนในอนาคต จะกล้าพูดอย่างบุ่มบ่ามได้อย่างไร
เดิมทีหลี่ซวี่ต้องการใช้โอกาสนี้ส่งต่อความเสี่ยงให้กับฉินเฟิง
น่าเสียดายที่ตอนนี้ถูกฝ่าบาทเพ่งเล็งจึงไม่กล้าพูดไร้สาระอีกต่อไป
ในตอนที่หลี่ซวี่กำลังประสบความยุ่งยากใจ เสียงขององค์ชายรองก็ดังเข้าหู หลี่ซวี่อดไม่ได้ที่จะตาเป็นประกาย
แม้ว่าองค์ชายรองจะมีใจอยากชักชวนฉินเฟิงเป็นพรรคพวก แต่ตราบใดที่มีโอกาสจะกำจัดคนผู้นี้ เขาย่อมไม่ปล่อยมันหลุดมือไปได้
คนเช่นนายน้อยฉินถ้าจะจับก็ต้องจับให้มั่น ถ้าจะบีบคั้นก็ต้องบีบคั้นให้ตาย!
องค์ชายรองยืนขึ้น โค้งคำนับฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง แสร้งทำเป็นถ่อมตัว แล้วพูดว่า “ฝ่าบาท คำถามยากเช่นนี้ อย่าว่าแต่ผู้เข้าประลองตำแหน่งแม่ทัพเลย แม้แต่แม่ทัพที่เคยเข้าร่วมในสงครามเป่ยตี๋ก็ยังยากจะรับมือ ในที่แห่งนี้เกรงว่าคงจะมีเพียงฉินเฟิงเท่านั้นที่ชาญฉลาดพอ ไม่สู้ให้เขาลองตอบดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ?”
คำพูดนี้เหมือนเยินยอ แต่แท้จริงแล้วกำลังเหยียบย่ำอย่างลับ ๆ
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงก็ได้แสดงความสามารถในด่านกลยุทธ์ทางทหารแล้ว ไม่ว่าเขาจะตอบหรือไม่ตอบคำถามของฝ่าบาทก็ไม่ส่งผลกระทบต่อผลการตัดสิน
แต่ถ้าตอบแล้วคำตอบดีจะถือเป็นคะแนนพิเศษ ทว่าคำถามนี้ จะตอบได้ดีอย่างง่ายดายได้อย่างไรเล่า?
มิหนำซ้ำหากตอบได้ไม่ดีก็อาจจะปล่อยไก่เอาได้ อย่าว่าแต่คะแนนก่อนหน้านี้จะถูกหักออกเลย เขาอาจจะถูกฝ่าบาทรังเกียจ เพราะตอบคำถามอย่างไม่ใส่ใจอีกด้วย
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับฉินเฟิง “ฉินเฟิง เจ้ามีกลยุทธ์ในการรับมือเรื่องนี้หรือไม่?”
ฉินเฟิงจะไม่รู้ทันแผนการร้ายกาจขององค์ชายรองได้อย่างไร คนผู้นี้หัวแข็ง แม้ว่าเบื้องหน้าจะยื่นไมตรีให้ แต่ในใจยังคงมีเจตนาชั่วร้ายคิดจะทำให้เขาตายให้ได้!
เรื่องที่ทำแล้วไม่ได้หน้าแบบนี้ ฉินเฟิงย่อมไม่อยากที่จะทำ
ชายหนุ่มจึงแบมือออกด้วยสีหน้าสับสนทันที “ฝ่าบาท ปัญหาระดับนี้ควรได้รับการจัดการโดยแม่ทัพ คนธรรมดาสามัญตัวเล็ก ๆ อย่างกระหม่อม จะมีคุณสมบัติถกปัญหาเกี่ยวกับเรื่องทางการทหาร และการเมืองได้อย่างไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงก็ไม่มีหนทาง ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงก็ผิดหวัง กำลังจะโบกพระหัตถ์เพื่อประกาศการสิ้นสุดด่านกลยุทธ์ทางทหาร แต่องค์หญิงใหญ่ก็ชิงพูดขึ้นหนึ่งประโยค
“ฉินเฟิงไม่จำเป็นต้องถ่อมตน เจ้าแค่ตอบคำถามตามความคิดก็พอแล้ว แม้ว่าจะตอบผิดก็ไม่เป็นอะไร”
เมื่อสัมผัสได้ถึงแผนการในสายตาขององค์หญิงใหญ่
ฉินเฟิงก็ได้แต่คิดกับตัวเอง ‘หากข้าหลงเชื่อท่านก็คงบ้าแล้ว ท่านเป็นสตรีที่ร้ายกาจนัก!’
นายน้อยฉินเตรียมหาทางหลบเลี่ยง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ