เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 200

บทที่ 200 ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชน

ฉีหยางจวิ้นจู่ทนไม่ไหวอีกต่อไป นางระเบิดเสียงหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว พลันเสียงหัวเราะนี้ก็ทำให้ตัวนางเองถึงกับสะดุ้ง นางจึงรีบเบือนหน้าหนี ปรับสีหน้า แล้วด่าออกไปยิ้ม ๆ “น่าตายนัก เจ้านี่มันตลกจริง ๆ!”

องค์ชายสามและองค์ชายสิบสามมองหน้ากัน อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไร้ยางอาย!”

หลังจากเยินยอจบแล้ว ฉินเฟิงก็ไม่รีรอ เขากล่าวอย่างเกียจคร้านพลางหาวออกมา “แม้ว่าข้อนี้จะยาก แต่หลังจากที่ข้าพยายามอย่างไม่ย่อท้อ และทุ่มเทมันสมองทั้งหมดแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้คำตอบ…”

“ลมพัดไปแล้วก็มา ห่านบินเฉียงหน้ายอดเขา”

“ ‘ลมพัดไปแล้วก็มา’ เมื่อแยกออกมามองดู ‘ลม’ (风 : เฟิง) พอพัดไปจะกลายเป็นคำว่า ‘จี่’ (几) แล้วก็มา คือลมพัดอีกครั้ง ก็เป็นคำว่า ‘โหย่ว’ (又 : อีกครั้ง) ลมพัดไปแล้วก็มา จึงกลายเป็นคำว่า ‘เฟิ่ง’ (凤 : นกฟีนิกซ์)

“ส่วน ‘ห่านบินเฉียงหน้ายอดเขา’ หน้า ‘ยอดเขา’ (峰 : เฟิง) คือตัวอักษร ‘ชาน’ (山 : ภูเขา)’ ห่านบินเป็นรูปคล้ายตัวอักษร ‘เหริน’ (人 : คน) บินเฉียง คือการเอียงตัวอักษร ‘เหริน’ (人) ก็จะกลายเป็นอักษรข้าง (亻) ฝูงห่านบินเฉียงหน้ายอดเขา จึงกลายเป็นคำว่า ‘เซียน’ (仙 : เทพเซียน)”

“ดังนั้น คำตอบของปริศนาข้อนี้ก็คือ ‘เฟิ่งเซียน’ เป็นชื่อของดอกไม้”

เนื่องจากคำถามสองสามข้อแรกล้วนเป็นการเดาตัวอักษร เมื่ออยู่ ๆ คำตอบก็กลายเป็นชื่อดอกไม้ ทุกคนจึงรับมือไม่ถูก

ปากของฉินเฟิงบอกว่ายาก แต่เขากลับไขคำตอบออกมาได้อย่างสบาย ๆ!

น่าตายนัก !

ชายคนนี้ไม่ได้แม้แต่จะคิด รอบกายเขารายล้อมไปด้วยสตรีตลอดเวลา ไม่หัวเราะด่าว่า ก็พูดคุยหยอกล้อกับพวกนาง

ทว่า…แค่เล่นไปเล่นมาก็สามารถชนะการแข่งขันได้แล้ว

สายตาที่ทุกคนมองฉินเฟิงไม่อาจบอกได้ว่าพวกเขาชื่นชมหรือกำลังหดหู่ใจ

ฉีหยางจวิ้นจู่ไม่แปลกใจเลย ท้ายที่สุดแล้วบุรุษผู้นี้ก็เป็นพวกมีมันสมองแปลกประหลาดมาโดยตลอด ปริศนากระจอก ๆ ไม่มีทางทำให้เขาล้มลงได้ นางประกาศเสียงดัง “ฉินเฟิงตอบคำถามถูกสี่ข้อ ชนะ!”

สถานที่นั้นระเบิดเสียงกึกก้องดังหนวกหูทันที

แต่นักขับร้องต่างก็ส่งเสียงยินดี อย่างไรหญิงสาวเหล่านี้ก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้บรรยากาศรอบ ๆ วุ่นวายไปมากกว่าเดิมอยู่แล้ว

สำหรับบรรดาบุตรหลานขุนนาง พวกเขาทั้งหมดเฝ้าดูหลินเฟยโม่โดยไม่พูดไม่จา

หลังจากนั้น…

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน

ฉินเฟิงวางท่าลอยหน้าลอยตา ส่ายหัวอย่างเชื่องช้ามองไปทางหลินเฟยโม่ “เดี๋ยวนะ ๆ เป็นไปไม่ได้กระมัง? นายน้อยหลินตอบคำถามไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว แพ้แบบสี่ต่อศูนย์เลยหรือนี่?”

ใบหน้าของหลินเฟยโม่มืดมนเข้าไปอีก เขาเริ่มหงุดหงิดงุ่นง่านมากขึ้นเรื่อย ๆ!

ตามที่นัดกันไว้ควรจะมีคนมาฆ่าฉินเฟิงก่อนที่เขาจะได้รับชัยชนะ แล้วเหตุใดถึงไม่มีการเคลื่อนไหวเลยเล่า?

ในเวลานี้หลินเฟยโม่ต้องการจะจากไปทันที เพราะเขาไม่สามารถรักษาหน้าตาไว้ได้ต่อหน้าคนจำนวนมาก แต่ก็ไม่สามารถทำได้

ภายใต้การจ้องมองที่ไม่พอใจของหลินเฟยโม่ ฉินเฟิงขยับเก้าอี้มานั่งข้างหน้าเขา นายน้อยฉินยิ้มตาหยีพลางเอ่ย “เสี่ยวหลินเอ๋ย ใครจะว่าเจ้าเป็นขยะก็ช่างมันไปเถอะ ท้ายที่สุดแล้วอาจารย์ย่อมไม่เก็บขยะมาเป็นศิษย์ เจ้าคุกเข่าลงแล้วยกน้ำชากราบอาจารย์เสีย ต่อไปเมื่อมาที่เมืองหลวง แค่เอ่ยนามของข้าก็เป็นใช้ได้”

หลินเฟยโม่แทบไม่เชื่อหูตนเอง เขาจ้องฉินเฟิงเขม็ง “เจ้า… เจ้ากล้าให้ข้าคุกเข่าลงรึ?!”

ประโยคนี้ทำให้บุตรหลานขุนนางที่อยู่รอบ ๆ กลัวจนเกือบตาย

ฉีหยางจวิ้นจู่กับองค์ชายอีกสองพระองค์ต่างมองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าไปก้าวก่าย

ฉินเฟิงโน้มตัวลง เหยียดนิ้วออกต่อหน้าหลินเฟยโม่ ก่อนจะนับทีละนิ้ว “ประการแรก เป็นจารีตที่จะคุกเข่าเพื่อมอบน้ำชากราบอาจารย์ในฐานะศิษย์ ประการที่สอง องค์ชายไม่จำเป็นต้องคุกเข่าเพื่อที่จะกราบอาจารย์ แต่เจ้าไม่ใช่องค์ชาย การให้เจ้าคุกเข่าทำให้เจ้าน้อยเนื้อต่ำใจรึ? หรือเจ้าอยากจะเท่าเทียมกับองค์ชาย?”

“นอกเหนือจากสองประการนี้ เจ้ายังมีอีกเหตุผลที่ต้องคุกเข่าลงอีก”

“ข้าไม่ชอบสายตาที่เจ้าใช้มองพี่หญิงของข้า ข้ารู้สึกไม่สบอารมณ์มาก ๆ เข้าใจไหม?”

บทที่ 200 ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชน 1

บทที่ 200 ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชน 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ