บทที่ 366 พันธมิตรเชิงกลยุทธ์
การดำเนินกิจการก็เป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นใช้มารยาทก่อนแล้วจึงโจมตี หรือโจมตีก่อนแล้วใช้มารยาท ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญก็คือการประเมินสถานการณ์
ฉินเชาที่ทำตัวเหมือนสุนัขบ้าเมื่อครู่ ตอนนี้กำลังโค้งคำนับให้กับฮ่องเต้แคว้นที่ราบสูง
“ฝ่าบาททรงปราดเปรื่อง กระหม่อมเชื่อว่าการแลกเปลี่ยนระหว่างค่ายเทียนจีและแคว้นที่ราบสูงจะดำเนินไปอย่างราบรื่น ตามคำพูดนายน้อยฉิน เงินทุกคนช่วยกันหา บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นถึงจะเป็นชัยชนะที่แท้จริง”
ฮ่องเต้แคว้นที่ราบสูงและขุนนางบุ๋นบู๊ที่อยู่ ณ ที่นั้นต่างประหลาดใจ
หรือว่า ทุกคนในค่ายเทียนจี… ไร้ยางอายเช่นนี้กันทุกคน?
แต่ว่า…
แม้คำพูดหยาบช้า แต่เหตุผลนั้นไม่ผิด
ในบรรดาแคว้นทางตอนเหนือทั้งหมด มีแคว้นใดบ้างที่ไม่เคยได้ยินชื่อค่ายเทียนจี?
ค่ายเทียนจีที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในอดีตค่อย ๆ กลายเป็นองค์กรการค้าชั้นนำในต้าเหลียง
ยิ่งไปกว่านั้น ค่ายเทียนจียังสนับสนุนการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างอำเภอเป่ยซีและเป่ยตี๋ด้วยตัวเอง ไม่เพียงแต่ไม่มีทีท่าว่าจะล่มสลายแต่ยังแข็งแกร่งขึ้นทุกวันที่ผ่านไป
กระดูกแข็งที่เป่ยตี๋ไม่สามารถเคี้ยวได้ เพียงพอที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของค่ายเทียนจี
ค่ายเทียนจีเพียงฝ่ายเดียวสนับสนุนสงครามชายแดนซึ่งเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้นขณะที่สนับสนุนสงคราม ค่ายเทียนจีก็ยังมีพื้นที่สำหรับส่งกองคาราวานผ่านการปิดล้อมมากมายของเป่ยตี๋มาดำเนินการแลกเปลี่ยนยังแคว้นที่ราบสูง
ล่าสุดมีข่าวลือว่าค่ายเทียนจีกำลังเตรียมการหลายอย่าง ไม่เพียงแต่ขยายเมือง แต่ยังจัดการพื้นที่ผลิตน้ำตาลและจัดทำผังเชิงพาณิชย์ในพื้นที่เจียงหนานซึ่งเป็นพื้นที่ที่ร่ำรวยที่สุดในต้าเหลียง
ในแง่ของความแข็งแกร่งที่ครอบคลุม พลังอันแข็งแกร่งของค่ายเทียนจีเพียงแห่งเดียวอาจเกินกว่าพลังของแคว้นที่ราบสูงทั้งแคว้นเสียอีก
ฮ่องเต้แคว้นที่ราบสูงตกตะลึง ขณะเดียวกันพระองค์ก็ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
หากสามารถเป็นหุ้นส่วนของค่ายเทียนจีได้ สิ่งที่ฉินเชาเรียกว่า ‘พันธมิตรเชิงกลยุทธ์’ ย่อมจะเป็นข่าวดีสำหรับการพัฒนาแคว้นที่ราบสูงและความต้องการสินค้าของแคว้นในภายภาคหน้า
ฮ่องเต้แคว้นที่ราบสูงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกให้ฉินเชาและกองคาราวานค่ายเทียนจีคนอื่น ๆ ออกจากกระโจมใหญ่ไปก่อน โดยบอกว่าต้องการหารือเรื่องนี้กับขุนนาง
เมื่อไม่มีคนนอกในกระโจมใหญ่ ฮ่องเต้แคว้นที่ราบสูงก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ตรัสถามอย่างรวดเร็วว่า “ขุนนางทุกท่านคิดเห็นอย่างไร”
แม่ทัพผู้สวมชุดเกราะทนความเย็นอันเป็นเอกลักษณ์ของแคว้น ก้าวไปข้างหน้าและตะโกนลั่น “ไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”
“พ่อค้าในค่ายเทียนจีพูดจาหยาบคายต่อฮ่องเต้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้จริงจังต่อแคว้นของเรา แม้เราจะเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ทางตอนเหนือ แต่ก็ยังเป็นแคว้น เราจะยอมให้ผู้อื่นดูถูกเราแบบนี้ได้อย่างไร?”
“กระหม่อมคิดว่าคาราวานพ่อค้าค่ายเทียนจีทุกคนควรถูกประหารชีวิตเพื่อเป็นการตักเตือน! แม้ว่าทหารค่ายเทียนจีจะดูดุร้าย แต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก ไม่สามารถเดินทางไกลมาถึงแคว้นของเราได้ ไม่ว่าเจ้าเด็กฉินเฟิงจะโกรธแค่ไหน แต่ก็อยู่นอกเหนือขอบเขตกำลังของเขา เขาไม่สามารถทำอะไรได้! ถึงแม้ว่าจะมา กระหม่อมก็มั่นใจว่าจะฆ่าคนของฉินเฟิงได้ทั้งหมด!”
ฮ่องเต้แคว้นที่ราบสูงไม่สงสัยในคำพูดของแม่ทัพผู้ภักดี
ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อมองไปยังแคว้นโดยรอบทั้งหมด การต่อสู้บนที่ราบสูงก็ไม่มีใครสามารถอยู่เหนือพวกเขาได้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ