บทที่ 449 อย่าได้ลืมจุดธูปบอกบรรพบุรุษ
ไม่เพียงแต่หนิงหู่เท่านั้นที่หัวเราะ แต่ทหารค่ายเทียนจีสามร้อยนายก็หัวเราะไม่หยุดเช่นกัน เสียงหัวเราะนี้ดังก้องไปทั่วอำเภอเป่ยซี ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาหรือแรงงาน บ้างร้องไห้ บ้างคนก็หัวเราะไปพร้อมกับพวกเขา บ้างก็โศกเศร้า และแน่นอนว่าต้องมีผู้ที่จิตวิญญาณการต่อสู้พุ่งสูง
แล้วเสียงหัวเราะก็หยุดลงอย่างกะทันหัน หนิงหู่เอ่ยอย่างสบาย ๆ “ทหารค่ายเทียนจีล้วนเป็นลูกรักของพี่ฉิน ในเมื่อต้องการส่งทหารค่ายเทียนจีเข้ากองเพลิงก็เพียงพอที่จะทำให้เห็นถึงความร้ายแรงของสถานการณ์การศึก หากพวกเราไม่ไปเผชิญหน้ายามแคว้นตกอยู่ในอันตราย แล้วใครหน้าไหนจะไปเล่า?”
“รอวันที่พวกคนเถื่อนพ่ายแพ้ บารมีของต้าเหลียงได้ขจรไกล ถึงตอนนั้นก็อย่าลืมจุดธูปบอกบรรพบุรุษถึงความเสียสละของพวกข้าด้วย!”
หนิงหู่หันไปมองทหารค่ายเทียนจีสามร้อยนาย ก่อนจะตะโกนลั่น “เหล่าทหารหาญ พวกเจ้าเต็มใจที่จะร่วมตายไปกับข้าหรือไม่? หากเต็มใจจงก้าวขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าว!”
ทหารค่ายเทียนจีสามร้อยนายไร้ความลังเล พวกเขาก้าวมาข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียง และตะโกนพร้อมกันว่า “โจมตีกองทัพเป่ยตี้ ปกป้องแว่นแคว้น! พวกข้ายินดีแลกด้วยชีวิต!”
จากนั้น หนิงหู่ก็โบกมือเป็นสัญญาณ นำทหารค่ายเทียนจีสามร้อยนายออกจากเมือง ชาวบ้านที่อยู่เบื้องหลัง ต่างก็มองส่ง น้ำตานองหน้า
หลี่จางค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปบนกำแพงเมือง ทอดมองไปยังค่ำคืนที่มืดมิดนอกเมืองด้วยสายตาเปี่ยมปณิธานมุ่งมั่นแรงกล้า “ขุนนางในราชสำนักต่างสงสัยว่าเป่ยซีมีเจตนาชั่วร้ายในการสนับสนุนกิจการทหาร เช่นนั้นพวกเราก็ขอใช้โอกาสนี้แสดงความภักดี!”
ยามกลางดึก ฟ้ามืดมิด
จวบจนก่อนรุ่งสางไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม…
เฉินซือยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดพัก เขายืนอยู่นอกกระโจม หันมองไปทางอำเภอเป่ยซี เฉินซือรู้ดีว่ากุญแจสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ที่เมืองเป่ยซี ในการรบสองครั้งแรก อำเภอเป่ยซีบุกเข้ามาอย่างดุเดือด แต่ก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ชัดเจนว่า กระทำเพื่อลดแรงกดดันของกองกำลังชายแดน
ตอนนี้กองทัพแนวหน้าเป่ยตี๋และทหารรักษาการณ์ของแคว้นต้าเหลียงต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใครมาเป็นเวลาสามวันสามคืนแล้ว
กองทหารชายแดนต้าเหลียงอาศัยความได้เปรียบของเมือง ทว่าก็สูญเสียกำลังพลไปเกือบสองพันนาย ในขณะที่ทหารค่ายแนวหน้าเป่ยตี๋ที่โจมตีเมืองประสบกับความสูญเสียมากกว่าหนึ่งหมื่นนาย แต่ตราบใดที่ยังคงความรุนแรงของการโจมตีนี้ไว้ กองทหารชายแดนจะพังทลายหรือไม่ก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น เป่ยตี๋ได้เดิมพันทุกอย่างแล้ว ต่อให้ต้องสูญเสียทหารในสนามรบห้าหมื่นนายก็ต้องทนให้ได้! ส่วนกองทหารชายแดนของแคว้นต้าเหลียง สูญเสียทหารไปมากกว่าเจ็ดพันนาย ขวัญกำลังใจของพวกเขาย่อมพังทลายลง!
ช่วงเวลาเดียวกันนั้น กองทหารแนวหลังกำลังค่อย ๆ เข้าสู่แนวรบ เพื่อสกัดกั้นกำลังเสริมจากค่ายทหารของแม่ทัพทหารม้า
การโจมตีกองทหารชายแดนเป็นภารกิจหลัก การสกัดกั้นแม่ทัพทหารม้าเป็นส่วนเสริม ส่วนแม่ทัพรถม้าศึกไม่มีทางกล้าเคลื่อนพลโดยพลการ เนื่องจากต้องป้องกันไม่ให้กำลังทหารของเป่ยตี๋เข้ามาโจมตีชายแดนใต้เพื่อปล้นเสบียง ทั้งยังต้องแบ่งความสนใจไปตอบสนองแผนยุทธศาสตร์ของอำเภอเป่ยซีกับแนวหลังค่ายทหารของแม่ทัพทหารม้า ย่อมไม่อาจแบ่งกำลังมาได้
ตอนนี้สิ่งที่เฉินซือกลัวน้อยที่สุด คือการต่อสู้ที่ดุเดือด!
ด้วยสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการที่อำเภอเป่ยซีจะส่งกองกำลังไปก่อกวนต่างหาก ถึงเวลานั้น เป่ยตี๋ก็จำต้องส่งกองทหารไปเสริมกำลัง ซึ่งจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการบุกโจมตีของค่ายแนวหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เฉินซือปวดหัวกับอำเภอเป่ยซีอย่างมาก อำเภอเล็ก ๆ แห่งนั้นยากต่อการพิชิตมากกว่าเมืองสำคัญของกองทหารชายแดนหลายเท่านัก การสร้างแนวป้องกันเมืองแตกต่างจากเมืองสำคัญอื่น ๆ ของต้าเหลียงโดยสิ้นเชิง ตามรายงานของทหารที่ล้อมโจมตีพบว่า อำเภอเป่ยซีแบ่งออกเป็นสองเขต คือ เมืองชั้นในและเมืองชั้นนอก และจริง ๆ แล้วมันมีสามชั้น!
เมืองชั้นในจัดเก็บเสบียงและยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ครอบคลุมทุกด้านของกิจการทหาร ความเป็นอยู่ของผู้คน กิจการเมือง และเรื่องอื่น ๆ นับว่าเป็นศูนย์กลางของอำเภอเป่ยซี
ส่วนเมืองชั้นนอกเป็นสถานที่ที่ผู้คนอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่อายุน้อยและแข็งแรง สามารถสนับสนุนงานกรรมกรหรือการสงครามได้ตลอดเวลา และด้านนอกสุดก็มีกำแพงเมืองรอบนอกซึ่งได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา
หากอยากโจมตีเมืองชายแดนที่สำคัญต้องใช้กองกำลังห้าหมื่นนาย แต่หากอยากโจมตีอำเภอเป่ยซี เกรงว่าแม้แต่ทหารหนึ่งแสนนายก็ไม่อาจเอาชนะได้ แม้จะปิดล้อม ไม่โจมตี แต่อาศัยศักยภาพในการสงครามของอำเภอเป่ยซีก็สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างน้อยสามถึงห้าปีแล้ว!
อำเภอเป่ยซี เมืองหน้าด่านสำคัญที่ไม่สามารถบดขยี้ได้ ทั้งยังอาจส่งกองกำลังทหารออกมาลอบโจมตีได้ตลอดเวลา เป็นปัจจัยที่ไม่มั่นคงที่สุดในสงครามครั้งนี้
กระนั้นตอนนี้เฉินซือก็มีทหารราบห้าพันนายอยู่ในมือ เพียงพอที่จะต้านทานการลอบโจมตีจากอำเภอเป่ยซีได้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ