บทที่ 493 ชั่วพริบตาแห่งความเป็นความตาย
วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการกำหนดจุดนัดพบล่วงหน้า
เวลาค่อย ๆ ผ่านไปอย่างเชื่องช้าเกือบหนึ่งถ้วยชาแล้ว แต่หน่วยสอดแนมที่ไปสำรวจเส้นทางยังไม่กลับมา
ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
ชั่วขณะที่ฉินเฟิงกำลังจะออกคำสั่งให้ถอยนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังมาจากด้านหน้า
หน่วยสอดแนมกลับมาแล้ว!
กระทั่งหน่วยสอดแนมอยู่ห่างจากฉินเฟิงไม่ถึงห้าจั้ง เขาถึงมองเห็นร่างของอีกฝ่ายได้ราง ๆ เมื่อระยะทางใกล้เข้ามา ฉินเฟิงกำลังจะถามสถานการณ์ข้างหน้า แต่พบว่าหน่วยสอดแนมคนนั้นก้มศีรษะขณะเดิน มีอาการหลังค่อมอย่างเห็นได้ชัด
ฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะพึมพำอยู่ในใจ ถ้าจำไม่ผิดหน่วยสอดแนมที่ส่งออกไปคือหน่วยองครักษ์เสื้อแพร
แต่ท่าทางการเดินของอีกฝ่าย เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่นั่งบนหลังม้าบ่อย ๆ เพราะกังวลว่าจะถูกลูกหลงจากธนูจึงมีนิสัยชอบนั่งหลังค่อม
“แย่แล้ว!”
หัวใจของฉินเฟิงเต้นรัว เขาเอื้อมมือชี้ไปที่หน่วยสอดแนมซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสามจั้งแล้วตะโกน “ยิงมันให้ตาย!”
หนิงหู่ที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ลังเล ยกธนูขึ้นง้าง แล้วยิงออกไปทันที
แม้จะมืดสนิทแต่ระยะทางก็ใกล้มาก ลูกธนูพุ่งปักเข้าที่หน้าอกของหน่วยสอดแนมอย่างแม่นยำ
หลังเสียงครวญครางอู้อี้ หน่วยสอดแนมคนนั้นก็ล้มคว่ำหน้าลงกับพื้น ฉากถัดมาทำให้แผ่นหลังของฉินเฟิงชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น แผ่นหลังของหน่วยสอดแนมคนนั้นมีก้านธูปติดอยู่! เมื่อไม่มีร่างกายบดบังอีกต่อไป จุดสีแดงเล็ก ๆ บนธูปจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจนในยามค่ำคืน!
ฉินเฟิงแทบไม่ลังเล ตะโกนจนสุดปอด “ออกไปจากที่นี่!”
ปฏิกิริยาของฉินเฟิงนั้นรวดเร็ว แต่น่าเสียดายที่มันยังช้าเกินไปจึงได้ยินเพียงเสียง ‘สวบสาบ’ ของท้องฟ้ายามค่ำคืนจากฝ่ายตรงข้าม
ครู่ต่อมา ฝนธนูก็ตกลงมาอย่างหนาแน่น
ทหารม้าของศัตรูที่ซุ่มโจมตีอยู่ข้างหน้าไม่เพียงแต่จับหน่วยสอดแนมและฆ่าทิ้งในทันที แต่ยังเปลี่ยนเสื้อผ้าและชุดเกราะ ปลอมตัวแทรกซึมเข้ามา ใช้หัวธูปที่อยู่ด้านหลังเขาเป็นจุดอ้างอิง ตราบใดที่หัวธูปหยุดนิ่งก็หมายความว่าหน่วยสอดแนมได้มาถึงหน้าขบวนของฉินเฟิงแล้ว เพียงยิ่งสุ่ม ๆ ไปทางก้านธูปก็พอ
อีกฝ่ายไม่ได้มาดีแน่นอน!
เพียงไม่นาน เสียง ‘ฉึก ฉึก ฉึก’ ก็ดังติด ๆ กัน ทหารหนึ่งในสามของฉินเฟิงถูกลูกธนูสังหาร ทหารมากกว่าสิบนายถูกยิงตกจากหลังม้าทันที
จากความหนาแน่นของลูกธนู สามารถตัดสินได้คร่าว ๆ ว่าคู่ต่อสู้มีจำนวนอย่างน้อยนับพันคน!
“นกฮูกราตรีรู้ที่อยู่ของเรา พวกเขาติดตามมาตลอดทางและซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ หนีเร็ว! หนี!”
ฉินเฟิงคำรามสุดเสียง พร้อม ๆ กับหันหัวม้าเปลี่ยนทิศทาง
เวลาเดียวกัน เสียงกีบม้าก็ดังมาจากทางชายแดน จากนั้นคบเพลิงก็สว่างขึ้น ทหารม้าของศัตรูอยู่ห่างจากฉินเฟิงไม่ถึงร้อยก้าว!
ห่าลูกศรยังคงไม่หยุดกระหน่ำ เหล่าทหารเองก็ถูกยิงล้มลงอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความตื่นตระหนก ในที่สุดขบวนก็หันหัวม้าและเริ่มเร่งความเร็วไปยังภูเขาชิงอวี้
ทว่าการซุ่มโจมตีนี้ได้เตรียมการไว้เป็นอย่างดี ก่อนทหารของฉินเฟิงจะวิ่งหนีไป ศัตรูก็ได้เปิดการโจมตีแล้ว ท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตินี้ บริเวรรอบ ๆ มีคบเพลิงถูกจุดขึ้นอย่างต่อเนื่องและโยนเข้ามาทางขบวนทัพของฉินเฟิง
ม้าศึกต่างตื่นตกใจ เหตุการณ์จึงยิ่งชุลมุนวุ่นวาย เมื่อขบวนทหารมีแสงส่องสว่าง ทหารม้าแนวหลังของศัตรูก็ยิงได้แม่นยำยิ่งขึ้น เพียงไม่กี่ลมหายใจ ทหารกว่าสิบนายก็ล้มลงอีก
ตอนนั้นเองทหารพรานจู่โจมก็มาถึงท้ายขบวนแล้ว ในมือพวกเขาถือแหลนม้ายาวสองจั้ง พวกเขาแทงโจมตีจากด้านหลัง ทหารหลายนายที่เร่งความเร็วไม่ทันถูกแทงตายคาที่
ฉินเฟิงกระทุ้งท้องม้า วิ่งไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวังพร้อมกับตะโกน “ไม่ต้องกลัวว่าม้าจะทนไม่ไหว แค่วิ่งให้เร็วเท่าที่ทำได้ก็พอ ห้ามลดความเร็ว ไม่เช่นนั้นจะถูกแหลนม้าของศัตรูแทงทะลุร่างได้!”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ