บทที่ 555 ฝ่าบาททรงกริ้ว
พลพรรคเถาหลินและเหล่าขุนนางสมควรตายพวกนี้สมควรประหารให้สิ้นซากโดยมิต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมใดจริง ๆ
แม้องค์ชายรองจะโกรธแค้นแต่ก็มิอาจทำสิ่งใดได้
ขณะนั้นเองไท่เป่าหลินผู้ยืนอยู่ด้านหลังก็ก้าวออกมา เขาจ้องมองฉินเฟิงด้วยสายตาเย็นชา
“แม่ทัพใหญ่ทั้งสามของชายแดนเหนือขัดพระบัญชา ทั้งยังติดต่อกับอำเภอเป่ยซีอย่างใกล้ชิด นี่ยังไม่นับเป็นหลักฐานอีกหรือ?”
“ในราชสำนักแห่งนี้ก็มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แล้วพลพรรคเถาหลินมีใครบ้างไม่เชื่อฟังเจ้า ทำตามทุกอย่างที่เจ้าต้องการ นี่ยังไม่นับเป็นหลักฐานอีกหรือ?”
“ฉินเฟิง! หรือจะรอให้เจ้าเคลื่อนพลเข้าประชิดเมืองหลวง ใช้ดาบจ่อคอพวกเราเสียก่อนถึงจะนับว่ามีหลักฐาน?!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามดุดันของไท่เป่าหลิน ฉินเฟิงก็ยิ้มกริ่ม เผยสีหน้าไร้เดียงสา
“ข้ายังคงยืนกรานในคำเดิม มือข้าปราศจากอำนาจใด ๆ ท่านจะให้ข้าเป็นกบฏได้อย่างไร?”
ฉินเฟิงใช้กลยุทธ์เดิม นั่นคือการยืนกรานว่าตนเองไม่มีอำนาจ
ไท่เป่าหลินเบิกตากว้าง แผดเสียงดังขึ้นหลายเท่า
“เจ้าคนหน้าด้าน! เหล่าทหารในอำเภอเป่ยซีต่างเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า หากอำนาจทางทหารยังไม่นับเป็นอำนาจจริง ๆ แล้วสิ่งใดในแผ่นดินนี้จึงจะนับว่าเป็นอำนาจ?!”
ฉินเฟิงยังคงทำท่าทีไร้เดียวสา นายน้อยหนุ่มแบมือออกและเริ่มคำนวณอย่างจริงจัง
“ท่านไท่เป่าหลิน หากท่านไม่มีหลักฐาน เอาแต่พูดจาใส่ร้ายเช่นนี้ ข้าก็จะต้องฟ้องกลับว่าท่านใส่ความผู้บริสุทธิ์”
“ท่านกล่าวว่าอำเภอเป่ยซีอยู่ในการควบคุมของข้า ท่านลองตอบข้ามาเถิดว่า ในอำเภอเป่ยซีข้าดำรงตำแหน่งใด?”
“นายอำเภอคือหลินฉวีฉี ค่ายทหารเป่ยซีก็เป็นหนิงหู่ สวีโม่ จ้าวอวี้หลง”
“หากท่านสามารถบอกตำแหน่งที่ข้าดำรงในอำเภอเป่ยซีได้ ข้าก็จะยอมรับความผิดข้อหากบฏ”
วาจานี้ทำเอาไท่เป่าหลินเกือบสำลักตาย
แท้จริงแล้ว ตลอดเวลาที่ฉินเฟิงอยู่ในอำเภอเป่ยซี เขามีเพียงชื่อเสียงเท่านั้น ไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดเลยจริง ๆ
ถึงคนทั้งใต้หล้าจะรู้ดีว่าอำเภอเป่ยซีเป็นเขตอิทธิพลของฉินเฟิง
แต่ก็ไม่สามารถเอาผิดเขาได้
เมื่อเห็นว่าไท่เป่าหลินพูดไม่ออก ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงผู้ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ใดก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
ความเจ้าเล่ห์ของฉินเฟิงยิ่งกว่าที่ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงคาดไว้เสียอีก!
เจ้าเด็กคนนี้กุมกองกำลังและการค้าค่ายเทียนจี
ขณะเดียวกัน ทหารทั้งหมดในอำเภอเป่ยซีก็เชื่อฟังคำสั่งของเขา
ภายในเมืองหลวง เขาก็เป็นหัวหน้าพลพรรคเถาหลิน
อำนาจในมือมากมายจนน่าตกใจ แทบจะปิดฟ้าด้วยมือเดียวได้ด้วยซ้ำ
กระนั้น… บุรุษผู้นี้กลับมีเพียงตำแหน่ง ‘โหว’
นอกจากนี้ก็ไม่มีตำแหน่งขุนนางอื่นใดอีก
แม้จะพยายามยัดเยียดข้อหากบฏให้ฉินเฟิงก็ยังไม่สามารถทำได้!
เจ้าเด็กนี่ไม่ต่างจากปลาไหล จับไม่ได้ไล่ไม่ทันจริง ๆ
ฮ่องเต้ต้าเหลียงส่งสายตาให้หลี่เฉียน
องค์ชายรองรีบลุกขึ้น ตวาดเสียงต่ำว่า “ฉินเฟิง เจ้าอย่าคิดใช้กลอุบายเช่นนี้!”
“เจ้าหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกข้าไม่ได้”
“แม้เจ้าจะไม่มีตำแหน่งใด แต่ทุกคนในอำเภอเป่ยซีก็จงรักภักดีต่อเจ้า”
“ตระกูลฉินนอกจากเจ้ากับบิดา คนทั้งหมดล้วนอาศัยอยู่ในอำเภอเป่ยซี เช่นนี้ยังไม่ชัดอีกหรือ?”
ฉินเฟิงยักไหล่ ทำหน้ากวนโมโห
“เพียงองค์ชายมีรับสั่งให้ข้ามีความผิดฐานกบฏ แม้จะไม่มีหลักฐานก็สามารถตัดสินให้ข้าผิดได้”
“เพราะอย่างไรเสียพระองค์ก็เป็นถึงองค์ชาย”
“แต่ในฐานะองค์ชาย ความคิดของพระองค์คับแคบนัก”
“เมื่อคืนองค์ชายเรียกข้าเข้าวัง ปรึกษาเรื่องการแย่งชิงบัลลังก์”
“เรื่องสำคัญเกี่ยวกับราชบัลลังก์และบ้านเมือง ข้าจะกล้าพล่ามไปเรื่อยหรือ?”
“ครั้นองค์ชายเกลี้ยกล่อมข้าไม่สำเร็จก็แค้นใจ หมายจะสังหารข้า หากองค์ชายเจ็ดไม่เสด็จมา เกรงว่าข้าคงกลายเป็นศพไปแล้ว”
“เดิมทีข้าคิดว่าตนเองโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ แต่แล้ววันนี้ องค์ชายกลับปรักปรำข้าฐานกบฏเพื่อแก้แค้น”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ