เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 596

บทที่ 596 บิดาคนที่สอง

ภายใต้การนำทางของผู้คุม ฉินเฟิงมาถึงส่วนลึกที่สุดของคุกใหญ่

ตามกฎแล้ว ยิ่งใกล้เวลาประหารชีวิต นักโทษก็จะยิ่งถูกจองจำในคุกที่ลึกเข้าไปด้านใน

เซี่ยปี้จะถูกประหารในอีกห้าวันข้างหน้า เขาจึงถูกขังอยู่ในคุกชั้นในสุด

ตอนแรกฉินเฟิงคิดว่า ก่อนนักโทษประหารจะถูกประหาร พวกเขาจะต้องได้พักผ่อนและกินอาหารดี ๆ

อย่างไรแต่โบราณมาก็มีคำกล่าวที่ว่า ‘มื้อสุดท้ายก่อนตัดหัว*[1]’ อยู่

แต่ความจริงโหดร้ายมาก

ในยุคที่ยังคงมี ‘หลิงฉือ*[2]’ จะมีใครกล้าปฏิบัติต่อนักโทษอย่างดีเล่า

คุกด้านในสุดถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต มีลักษณะเป็นทรงกระบอกตามแนวนอน

ผนังคุกด้านข้างเรียบมาก ทำให้นักโทษไม่สามารถใช้แรงพังจากด้านในได้

นอกจากนี้ คุกสูงเพียงสี่ฉื่อ นักโทษไม่สามารถยืนตรงได้ และคอของพวกเขายังถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กไว้กับด้านบนของคุกด้วย

ทำให้นักโทษต้องอยู่ในท่าทางที่ทรมาน กึ่งยืนกึ่งนั่ง

ทำให้ช่วงเวลาก่อนจะถูกลงโทษ นักโทษรู้สึกว่าตายเสียดีกว่า

เซี่ยปี้ผู้เคยดำรงตำแหน่งขุนนางระดับสูง ไม่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษใด ๆ เขากึ่งยืนกึ่งนั่งอยู่ในคุก

แม้เซี่ยปี้จะเป็นหนึ่งในสี่ยอดฝีมือแห่งเมืองหลวง มีวรยุทธ์แกร่งกล้า

แต่หลังจากถูกทรมานมาหลายวัน ร่างกายก็อ่อนแรงจนแทบจะหมดสติ ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ ขาทั้งสองข้างสั่นระริกไม่หยุด

เห็นฉินเฟิงมาหา เซี่ยปี้ไม่ประหลาดใจสักนิด บนใบหน้าแสดงความปลื้มปีติออกมาเล็กน้อย

“เฟิงเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้ข้ายังคิดอยู่ว่า เจ้าเด็กนี่จะมาเมื่อไหร่?”

ถึงเซี่ยปี้จะพยายามแสดงออกว่าสบายใจ แต่ฉินเฟิงก็ยังเจ็บปวดใจนัก

เดิมทีเขาเป็นถึงหนิงกั๋วกง รุ่งโรจน์ตั้งเท่าไหร่ ตอนนี้กลับตกอยู่ในสภาพเช่นนี้…

และสาเหตุแท้จริงที่เซี่ยปี้ต้องเป็นเช่นนี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับเขา…ฉินเฟิง

ฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไรกับเซี่ยปี้ เขาหันมองผู้คุมด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว

ถึงจะไม่พูดสักคำ แต่สายตาอำมหิตของนายน้อยฉิน ก็ทำให้ผู้คุมถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เย็นวาบไปทั้งแผ่นหลัง

พอเห็นแบบนี้ เซี่ยปี้ก็หัวเราะออกมา

“เฟิงเอ๋อร์ อย่าโทษผู็คุมเลย พวกเขาก็แค่ทำตามคำสั่ง”

ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่ฐานะเดิมของเซี่ยปี้สูงส่งตั้งเพียงใด ต่อให้เป็นนักโทษ ก็ควรได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษไม่ใช่หรือ?

ทว่าตอนนี้ เซี่ยปี้ไม่แตกต่างไปจากนักโทษประหารทั่วไปเลย

ตอนนี้ ภายในคุกใหญ่นี้ กลับใช้กฎเกณฑ์ ‘ฮ่องเต้ทำผิดมีโทษเท่าสามัญชน’ ช่างน่าขันเสียจริง!

ฉินเฟิงไม่สนใจคำของเซี่ยปี้ จ้องมองผู้คุม แล้วตะโกนเสียงต่ำ “ รีบเปลี่ยนห้องขังท่านลุงเซี่ยเดี๋ยวนี้!”

ผู้คุมลำบากใจ เขากำลังจะปฏิเสธ

แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกหนิงหู่คว้าไว้ทันที

หนิงหู่ออกแรงเล็กน้อย ผู้คุมก็แทบจะเท้าลอยจากพื้นแล้ว

หนิงหู่ขึงตาใส่ “คิดให้ดีก่อนพูด!”

ผู้คุมรู้ดี ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจยั่วโมโหท่านผู้นี้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น การปล่อยให้ทั้งสองเข้ามาในห้องขัง เป็นคำสั่งจากผู้คุมใหญ่ แม้จะมีการสอบสวน ก็ไม่เกี่ยวกับตัวเขา

คิดได้แบบนี้ ผู้คุมไม่ลังเลอีก รีบคว้ากุญแจห้องขัง ปลดล็อกโซ่ตรวนที่คอของและเซี่ยปี้

“หนิงกั๋วกง เชิญขอรับ”

ผู้คุมรีบผายมือ ทำท่าเชิญ

แต่เซี่ยปี้กลับไม่ได้เดินออกจากห้องขัง เพียงนั่งลงกับพื้น แล้วโบกมือเบา ๆ

“ไม่จำเป็น ข้าจะที่นี่แหละ ไม่ไปไหนทั้งนั้น”

ได้ยินแบบนี้ ผู้คุมถอนหายใจโล่งอก สายตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและขอบคุณ

ฉินเฟิงรู้ว่าเซี่ยปี้เห็นใจผู้คุม เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉินเฟิงก็ไม่บังคับ เขาจ้องมองผู้คุม แล้วสั่งเขาสั้น ๆ

“ต่อไปนี้ถ้าไม่มีคนอื่นอยู่ก็ปลดโซ่ตรวนของท่านลุงเซี่ยซะ ให้ท่านได้ขยับร่างกายบ้าง”

“ถ้าว่าพรรคพวกขององค์ชายรองมาตรวจ ก็ค่อยล่ามโซ่ตรวนกลับ…”

บทที่ 596 บิดาคนที่สอง 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ