บทที่ 595 หนทางมีมากกว่าอุปสรรค
ตกดึก ฉินเฟิง หนิงหู่ และฉินเสี่ยวฝู มายังศาลต้าหลี่ เพื่อเยี่ยมเซี่ยปี้ในคุกนักโทษประหาร
ผู้คุมคุกนักโทษประหารได้รับคำสั่งจากหลี่เฉียนไว้ก่อนแล้ว
เมื่อเห็นพวกฉินเฟิง เขาก็รีบเรียกมือปราบเจ็ดแปดคนมาเข้าล้อม และขวางประตูคุกอย่างแน่นหนา
ทำท่าทีราวกับพร้อมจะสู้จนตัวตาย
ผู้คุมวัยสี่สิบปีจ้องฉินเฟิงอย่างเย็นชา กล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวยิ่ง
“ท่านโหวฉิน กลับไปเสียเถิด!”
“ผู้บัญชาการศาลต้าหลี่มีคำสั่ง หากฝ่าบาทไม่อนุญาต ผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์เยี่ยมเซี่ยปี้”
นายน้อยฉินย่อมรู้ดีว่าคงไม่อาจพบเซี่ยปี้ได้ง่าย ๆ
เมื่อเผชิญการขัดขวางของผู้คุมและมือปราบ นายน้อยฉินไม่ได้มีท่าทีร้อนรน เขาตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ
“สหายผู้คุม เจ้าช่วยผ่อนผันให้ข้าหน่อยเถิด”
“เจ้าก็รู้ว่าข้ากับท่านลุงเซี่ยมีสายสัมพันธ์กันเช่นไร อีกห้าวันท่านลุงเซี่ยก็จะต้องรับโทษประหารแล้ว”
“ในฐานะหลานชาย ข้าย่อมต้องมาส่งท่านลุงเป็นครั้งสุดท้าย”
ตอนแรกผู้คุมพร้อมปะทะหน้ากับฉินเฟิงเต็มที่ เพราะชื่อเสียงของนายน้อยฉินในเมืองหลวงเลวร้ายนัก
แต่บัดนี้ พอเห็นท่าทีสุภาพเรียบร้อย มีมารยาท แตกต่างจากคำเล่าลือที่ว่า ฉินเฟิงเป็นนักเลงเจ้าสำราญ
ผู้คุมถอนหายใจโล่งอก สีหน้าดูดีขึ้นมาก ทั้งยังก้มคำนับอย่างให้เกียรติ์
“ท่านโหวฉิน ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากผ่อนปรน แต่เรื่องนี้ยากจะทำจริง ๆ”
“ทั้งองค์ชายรอง ไท่เป่าหลิน กระทั่งใต้เท้ากรมกายุติธรรม ต่างก็จับตาดูที่นี่อยู่”
“หากข้าปล่อยให้ท่านเข้าไป ข้าคงต้องเสียหัวแน่ ท่านโหวฉินโปรดเห็นใจ”
ดังคำกล่าวที่ว่า อย่ายื่นมือไปตีหน้าคนที่ยิ้ม ยิ่งกว่านั้น ผู้คุมคุกนักโทษของเมืองหลวงมีสถานะที่พิเศษ
ถึงบรรดาศักดิ์จะไม่สูง แต่มีอำนาจมาก เพียงผู้คุมคุกนักโทษพยักหน้า แม้แต่สามขุนนางใหญ่มาเอง ก็ยังยากจะบุกเข้าไปได้
ผู้ใดบังอาจบุกรุก ก็ไม่ต่างจากโจรปล้นคุก ประหารชีวิตได้ทันที
ตอนนี้เมืองหลวงมีเรื่องมากพออยู่แล้ว ฉินเฟิงไม่อยากแบกรับความผิดฐานปล้นคุกอีก
คิดไปคิดมา ฉินเฟิงกวาดตามองไปรอบ ๆ แล้วกระซิบเสียงต่ำ
“เอาอย่างนี้ เจ้าปล่อยข้าเข้าไปเงียบ ๆ ข้าจะอยู่ข้างในเพียงครู่เดียว พอเสร็จธุระก็จะออกมาทันที จะไม่ก่อปัญหาให้เจ้าแน่นอน”
ขณะพูด ฉินเฟิงก็เอาบางอย่างออกมาจากแขนเสื้อ นี่เป็นเงินพันตำลึง
เห็นฉินเฟิงเงินมาให้ ผู้คุมตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว พลางโบกมือปฏิเสธไม่หยุด
“ใต้เท้าฉิน โปรดอย่าล้อเล่นเช่นนี้เลย”
“หากข้าเงินนี้ ข้าคงไม่รอดถึงรุ่งสางแล้ว”
“ยิ่งไปกว่านั้น ใต้เท้าในเมืองหลวงล้วนรู้กันหมดแล้วว่าท่านมาที่นี่”
“ถึงข้าจะอยากผ่อนปรน ก็ยากจะปิดหูปิดตาผู้คนได้”
“อย่างว่าแต่หนึ่งถ้วยชา กระทั่งชั่วอึดใจก็ไม่ได้ นี่เป็นหน้าที่ของข้า ท่านโหวโปรดเข้าใจ”
หนิงหู่ที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่พอใจ เขาตะโกนใส่เสียงดัง
“เจ้านี่พูดมากนัก! บอกให้หลบไป ก็จงหลบไปซะ!”
“ถ้ายังพูดมากอีก ข้าจะตีเจ้าเสีย!”
ผู้คุมที่เมื่อครู่ยังยิ้มแย้ม พอได้ยินแบบนี้ก็โกรธทันที
เขาหันไปสั่งมือปราบข้าง ๆ ด้วยเสียงต่ำ
“ผู้ใดบังอาจบุกรุกคุกใหญ่ ลงโทษประหารชีวิตทันที!”
หนิงหู่อารมณ์ร้อน เห็นผู้คุมไม่เกรงใจเช่นนี้ก็ถกแขนเสื้อขึ้น เตรียมจะลงมือ
โชคดีที่ฉินเฟิงตอบสนองไว รีบดึงหนิงหู่ไว้
นายน้อยฉินจ้องหนิงหู่ สายตาไม่พอใจ “เจ้าเสือน้อยนี่ เจ้าสงบลงหน่อยเถอะ อย่าก่อเรื่องได้ไหม”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ