บทที่ 610 ใช้กำลังก่อนแล้วค่อยใช้มารยาท
เสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงดังออกมาจากห้องทรงพระอักษร กังวานไปทั่วพระราชวังต้องห้าม
“เจิ้นเห็นแล้วว่า อำนาจเจิ้นถูกทำลายไปเท่าไหร่!”
“กองทัพชั้นยอดของเมืองหลวงที่ตระกูลหลี่ภาคภูมิใจนัก ถูกฉินเฟิงสังหารอย่างไร้ปรานี!”
“ไม่ถึงครึ่งเดือน เรื่องนี้จะเล่าลือไปทั่วแคว้นต้าเหลียง”
“ผู้นำทหารจากชายแดนเหนือ ตระกูลใหญ่ทางใต้ เป่ยตี๋ ต่างจะมองว่าเจิ้นและการป้องกันเมืองหลวงทั้งหมดเป็นเพียงเด็กเล่นขายของ”
“ผู้เอาอย่างจะตามมาไม่ขาดสาย ทุกคนที่มีอำนาจบัญชาการทหารจะต้องมาลองของเมืองหลวงแห่งนี้”
“วันนี้ฉินเฟิงเอาชนะเจิ้นได้ พรุ่งนี้ก็จะมีคนอยากลากตัวเจิ้นออกไปแขวนคอ!”
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ กวาดกองฎีกาบนโต๊ะทำงานจนกระจัดกระจายเต็มพื้น
จางซิวเย่ตกใจจนตัวสั่นรีบก้มลงเก็บ
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงจ้องมองหลี่เฉียนกับไท่เป่าหลิน สายตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“ครึ่งหนึ่งของราชสำนักต่างเชื่อฟังตระกูลฉิน ตระกูลใหญ่และเชื้อพระวงศ์ทั่วแผ่นดินต่างจับตามองเมืองหลวง ”
“หากเจิ้นเชื่อคำยุยงของพวกเจ้า สังหารฉินเฟิงในคุก ผู้คนทั่วหล้าจะดูถูก หัวเราะเยาะเย้ยเจิ้นว่าเป็นคนใช้แต่วิธีต่ำช้า!”
“ในฐานะฮ่องเต้ การสูญเสียอำนาจหมายความว่าอะไร?”
“เมื่อถึงเวลานั้น สิ่งที่เจิ้นต้องเผชิญไม่ใช่แค่ฉินเฟิงอีกต่อไป แต่ทั้งชายแดนเหนือจะพลิกผัน แผ่นดินจะวุ่นวาย!”
หลี่เฉียนทรุดลงกับพื้น ใบหน้าซีดเผือด
เขาคิดถึงผลในเรื่องนี้ที่ไหนกัน
เมื่อได้รู้ว่าฉินเฟิงฆ่าทหารรักษาพระราชวัง และองครักษ์หลวงจนหมดสิ้น หลี่เฉียน เพียงแต่ตกตะลึงในความเก่งกล้าของทหารใต้บังคับบัญชาของฉินเฟิง
แต่ลืมไปว่า ทหารรักษาพระราชวังและองครักษ์หลวงเป็นตัวแทนของอำนาจอันสูงส่งของฮ่องเต้
คดีเซี่ยปี้เป็นเบี้ยชั้นดี เพียงแค่คุมขังเซี่ยปี้ไว้ในคุกตลอดไป ก็สามารถค่อย ๆ บั่นทอนฉินเฟิงได้
ถึงแม้จะต้องลงมือจริง ๆ ก็ต้องส่งกองทัพหนักออกไปกำจัดฉินเฟิงให้สิ้นซากในคราวเดียว ไม่อาจปล่อยให้เขามีโอกาสต่อต้าน
แต่ตอนนี้ หลี่เฉียนจับจ้องแต่ตำแหน่งรัชทายาท เร่งรีบเกินไป จึงสูญเสียความระมัดระวัง
เบี้ยถูกทำลายไปอย่างน่าเสียดาย
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงเคยคาดหวังกับหลี่เฉียน คอยสนับสนุนหลี่เฉียนอยู่ ในอนาคตหากหลี่เฉียนสืบทอดบัลลังก์ จะสามารถพึ่งพาอำนาจของในมือ ถ่วงดุลกองกำลังต่าง ๆ ทั้งในและนอกราชสำนักได้
แต่เห็นได้ชัดว่า หลี่เฉียนไม่มีความสามารถนี้ และยิ่งไม่มีคุณสมบัติ
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงเพียงแค่มอบอำนาจให้เล็กน้อย ความทะเยอทะยานของหลี่เฉียนก็พองตัวอย่างรวดเร็ว เวลาเพียงไม่กี่วัน ก็บีบบังคับให้ฉินเฟิงกับตระกูลฉินที่อันตรายที่สุด ลุกขึ้นต่อต้าน
หลี่เฉียนเหมือนจะยังไม่ได้เรียนรู้แม้แต่ผิวเผินของกลยุทธ์การถ่วงดุลอำนาจเลย
ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงจ้องมองหลี่เฉียน ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ถ้าเจิ้นให้ทหารสองหมื่นคนแก่เจ้า ถ้าจะกำจัดตระกูลใหญ่ทางใต้ได้สิ้นต้องใช้ทหารหนึ่งหมื่นคน”
“แต่หากต้องการกำจัดกองกำลังชายแดนเหนือ จะต้องใช้กำลังทหารทั้งหมดสองหมื่นคน”
“เจ้าจะใช้กำลังทหารสองหมื่นคนกำจัดทั้งตระกูลใหญ่ทางใต้ และกองกำลังชายแดนเหนือให้สิ้นซากได้อย่างไร?”
สายตาหลี่เฉียนร้อนรน สมองหมุนวนคิดอย่างรวดเร็ว แต่ยิ่งคิด ก็ยิ่งสับสน
สุดท้ายก็ได้แต่ฝืนใจ พูดอย่างร้อนรนว่า “เสด็จพ่อ..กระหม่อมคิดว่า ควรกำจัดฝ่ายที่เป็นภัยต่ออำนาจไปก่อน”
“ควรใช้กำลังทั้งหมดโจมตีชายแดนเหนือ เมื่อกำจัดภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ค่อย…”
ยังไม่ทันที่หลี่เฉียนจะพูดจบ ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงก็ขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “องค์ชายรอง ความหวังสุดท้ายที่เจิ้นมีต่อเจ้า หมดสิ้นแล้ว”
หลี่เฉียนตัวสั่นเทิ้ม เงยหน้าขึ้นมองไปที่ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียง สีหน้าไม่ยอมจำนน
“ฝ่าบาท กระหม่อมพูดผิดตรงไหน”
สายตาฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงอ่อนล้านัก ท่าทางไร้เรี่ยวแรง ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดอาลัยตายอยาก
“ถ้าเป็นเจิ้นจะส่งทหารหนึ่งหมื่นคนไปที่ชายแดนเหนือ ที่เหลืออีกหนึ่งหมื่นคนเก็บไว้ในมือ”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ