บทที่ 617 นี่ท่านโง่หรือข้าโง่
หลิ่วหงเหยียนซ่อนตัวในกลุ่มคน กลับมาเมืองหลวงพร้อมกับหลี่เซียวหลาน ตอนนี้นางออกมาขวางทางเซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ที่กำลังตื่นตระหนก
แม้ในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ หลิ่วหงเหยียนก็ยังคงมีสีหน้าสบาย ๆ
“อวิ๋นเอ๋อร์ อย่าตื่นตระหนก”
“หากมีเพียงท่านพ่อของเจ้าคนเดียวอยู่ในห้องโถง เจ้าวิ่งออกไป ข้าจะไม่ขวางเจ้าเด็ดขาด”
“แต่อย่าลืม ที่นั่นยังมีเฟิงเอ๋อร์อยู่ด้วย”
“เฟิงเอ๋อร์กับหลี่เฉียนต่อสู้กันทั้งต่อหน้าและหลับหลังมาตลอด เขารู้จักหลี่เฉียนดี ย่อมสามารถรับมือได้แน่นอน”
“เวลานี้สิ่งเดียวที่พวกเราต้องทำคือ อดทนอดกลั้น อย่าไปเป็นภาระให้เฟิงเอ๋อร์ อย่าทำให้แผนเขาเสีย”
เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ที่กำลังร้อนใจเห็นความมั่นใจในแววตาของหลิ่วหงเหยียน นางถอนหายใจออกมา
ตราบใดที่มีฉินเฟิงอยู่ แม้ฟ้าจะถล่ม ก็ไม่มีทางทับคนข้าง ๆ ได้แน่
ความรู้สึกร้อนรนของเซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์สงบลงในทันที นางแอบมองฉินเฟิงผ่านช่องประตู
เห็นฉินเฟิงทำหน้าสบาย ๆ ทั้งยังมีท่าทีเหมือนเด็กเกเร เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ก็เหมือนกับได้กินยาระงับความปั่นป่วน
มีกำลังใจขึ้นมา
ตอนหลี่เฉียนกับไท่เป่าหลินต้อนเซี่ยปี้ให้จนมุม พวกเขาก็คิดว่าคดีของเซี่ยปี้แน่นอนแล้ว การประหารเซี่ยปี้ก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น
ตอนั้นเอง เสียงหัวเราะของฉินเฟิงดังขึ้นอย่างกะทันหัน ดังก้องไปทั้งศาลาว่าการ
ผู้บัญชาการศาลต้าหลี่หยิบค้อนปลุกสติขึ้นมา เคาะโต๊ะเบา ๆ “เงียบ!”
หลี่เฉียนใจหายวาบ ในที่สุดฉินเฟิงก็เคลื่อนไหว เขามักจะมีความคิดแปลก ๆ ไม่ทำตามหลักการปกติ ทำให้ป้องกันไม่ได้
“ฉินเฟิง เจ้าหัวเราะกระไร?”
“หรือคิดว่าคดีนี้ไม่มีหวังจะพลิกแล้ว เลยคิดปล่อยไปตามยถากรรม”
ไม่เพียงผู้บัญชาการศาลต้าหลี่กับหลี่เฉียน แม้แต่เซี่ยปี้ก็ยังขมวดคิ้ว สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย
รับรู้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยการตำหนิของผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ ฉินเฟิงก็สำรวมเล็กน้อย
แต่ใบหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ผู้ใดบอกว่าถ้าหาคนลอกเลียนลายมือไม่เจอ จะไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้”
“เฉินซือออกจากเมืองหลวงไปก่อน จากนั้นจึงมีการค้นพบจดหมายลับ ห่างกันหลายวัน”
“ถ้าเซี่ยปี้มีแผนการทรยศจริง ทำไมถึงไม่ฉวยโอกาสตอเฉินซืออยู่ที่เมืองหลวงส่งจดหมายลับออกไป”
“ประเด็นนี้ กลัวว่าจะอธิบายไม่ได้”
พอได้ยินคำแก้ต่างของฉินเฟิง ผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง เสียงตะโกนเย็นชาของไท่เป่าหลินก็ดังขึ้นแล้ว
“เฉินซือเป็นทั้งแม่ทัพใหญ่ของเป่ยตี๋ ทั้งยังเป็นผู้นำราชทูตในการเจรจาสันติภาพครั้งนี้ เขาย่อมถูกองครักษ์ชุดดำเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด”
“ต่อให้เซี่ยปี้อยากจะส่งจดหมายลับ เฉินซือก็ไม่มีทางหลบสายตาขององครักษ์ชุดดำ ได้”
“เซี่ยปี้จึงได้แต่มองตาปริบ ๆ จนเฉินซือจากไป พลาดโอกาสจะส่งจดหมาย”
พอคำพูดนี้หลุดออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าฉินเฟิงยิ่งกว้างขึ้น
นายน้อยฉินมองไท่เป่าหลิน สายตาราวกับกำลังมองคนโง่
ไท่เป่าหลินใบหน้าดำคล้ำ พูดอย่างไม่พอใจ “หรือข้าพูดผิดเล่า?”
ฉินเฟิงยักไหล่ ไม่ตอบ เขาย้อนถาม
“ขอถามไท่เป่า จดหมายฉบับนี้ทำจากวัสดุชนิดใด”
ไท่เป่าหลินหัวเราะเบา ๆ ตอบโดยไม่ต้องคิด “แน่นอนว่าเป็นกระดาษ”
ได้ยินคำตอบของไท่เป่าหลิน ฉินเฟิงแสร้งทำเป็นประหลาดใจ ใบหน้าฉงน
“ที่แท้ก็เป็นกระดาษ หากไม่ใช่ไท่เป่าหลินช่วยบอก ข้ายังคิดว่าจดหมายลับฉบับนี้ทำจากเหล็กกล้า”
“กันดาบกันหอก ไม่กลัวน้ำไม่กลัวไฟ”
ไท่เป่าหลินขมวดคิ้ว รู้ดีว่าฉินเฟิงกำลังวางแผนบางอย่างอยู่แน่
แต่ตอนนี้ก็ได้แต่ฝืนโต้แย้ง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ