เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 659

บทที่ 659 ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงประหลาดใจ

ณ พระราชวังต้องห้าม ห้องทรงพระอักษร

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงประทับบรเก้าอี้มังกร สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เป็นมาก่อน

ด้วยเมื่อครู่องครักษ์ชุดดำเพิ่งมารายงาน

คณะทูตจากเป่ยตี๋เพิ่งเข้าประตูเมืองหลวงก็เกิดความขัดแย้งกับฉินเฟิง จนลุกลามกลายเป็นเหตุการณ์นองเลือด

ทหารที่ติดตามคณะทูตจากเป่ยตี๋ถูกสังหารทั้งหมด

ผู้นำทูตเจรจาสันติภาพของเป่ยตี๋ หลู่หลีผู้ดำรงตำแหน่งจู้กั๋วตกจากหลังม้าและถูกจับเป็นตัวต่อหน้าธารกำนัล

คณะทูตผู้เจรจาสันติที่เหลือถูกทุบตีไม่น้อย

กล่าวได้ว่า การเจรจาสันติภาพพังไม่เป็นท่า ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้น

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงทรงกริ้วนัก!

เขาไม่โกรธฉินเฟิง แต่โกรธคณะทูตของเป่ยตี๋ที่ไร้วิสัยทัศน์กว้างไกล

เรื่องใหญ่อย่างการเจรจาสันติภาพระหว่างแคว้น ก็ยังคิดจะใช้เล่ห์กลชั่วช้า

ถ้าเป็นคณะทูตจากแคว้นอื่นก็คงลงจากหลังม้า เดินเท้าตั้งแต่ยังไม่ถึงเมืองหลวงเสียด้วยซ้ำ

และแม้มาถึงประตูเมืองหลวง พวกเขาก็ล้วนไม่กล้าเดินเข้ามาโดยพลการ แต่จะรอจนทหารรักษาการณ์เข้ามารายงานเสียก่อน

เพื่อแสดงถึงความจริงใจในการเจรจาสันติภาพ

แต่คณะทูตเป่ยตี๋กลับทำตรงกันข้าม!

ถึงกับกล้าควบม้าฝ่าฝูงชน เหยียบย่ำราษฎรจนบาดเจ็บ กล่าวว่า ‘ป่าเถื่อน’ ยังเบาไป พวกเขาช่าง ‘หยาบช้าสามานย์’ นัก!

การที่ฉินเฟิงออกไปขัดขวางจนเกิดเหตุนองเลือด แม้ไม่เหมาะสมนัก

แต่ถ้าปล่อยให้คณะทูตเป่ยตี๋ได้ใจ ก็ไม่ต่างอะไรกับการแสดงความอ่อนแอของแคว้นต้าเหลียง

ถึงตอนนั้น พอถึงยามนั่งโต๊ะเจรจา แคว้นต้าเหลียงย่อมไร้อำนาจต่อรอง แล้วทุกอย่างก็จะเป็นไปตามความต้องการของคณะทูตเป่ยตี๋

ถ้าผู้ใดไม่รู้ก็คงคิดว่าเป่ยตี๋เป็นฝ่ายชัยสงคราม ต้าเหลียงจึงต้องก้มหัวให้สมกับเป็นผู้แพ้

“น่าโมโหนัก น่าเจ็บใจจริง ๆ!”

“ตั้งแต่เป่ยตี๋ก่อตั้งขึ้นมา พวกมันก็ขยายอำนาจด้วยกำลังทหาร รุกรบไปทั่วสารทิศ ไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้”

“ตอนนี้พ่ายต้าเหลียงของข้า กลับยังวางท่าเย่อหยิ่ง เหยียดหยามต้าเหลียงครั้งแล้วครั้งเล่า”

“พวกมันสมควรถูกสังหารแล้ว!”

ฮ่องเต้ต้าเหลียงตบโต๊ะเสียงดัง

ทว่า…แม้ใจหนึ่งจะปลอดโปร่ง แต่ก็อดถอนหายใจยาวไม่ได้

การเจรจาสันติภาพล้มเหลว ย่อมหมายถึงดาบจะต้องถูกชักออกจากฝักอีกครั้ง

หากมองในแง่ของกำลังพล ความเข้มแข็งทางทหาร ถ้าสงครามอุบัติขึ้นอีก ต้าเหลียงย่อมรับมือไหว

แต่ราษฎรจะทนไหวหรือ?

ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมยิ่ง

ตอนนั้นเอง…

หลังฉากกั้น องครักษ์ชุดดำปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

“ทูลฝ่าบาท ฉินเฟิงออกคำสั่งสามประการ”

“หนึ่ง สั่งระดมพลชายแดนเหนือ บุกโจมตีเป่ยตี๋ทันที”

“สอง ปิดข่าวเหตุการณ์ที่เกิดในเมืองหลวง”

“สาม ให้เหล่าบัณฑิตแต่งเรื่องราวการเจรจาที่ลุล่วงไปด้วยดี แล้วขันขานออกไป”

พอได้ฟังแบบนี้ ดวงตาของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงพลันประกาย

สมกับเป็นฉินเฟิง แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้รวดเร็วจริง ๆ

พอสั่งสอนคณะทูตเป่ยตี๋เสร็จ ก็สั่งจัดทัพในทันที

“จางซิวเย่ นำแผนที่ชายแดนเหนือมาให้เจิ้น!”

ขณะที่จางซิวเย่คลี่แผนผังออก นัยน์ตาของฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงเป็นประกาย

“ดี!”

“แคว้นเป่ยตี๋ไม่มีใจจะเจรจาสันติภาพ เช่นนั้นก็โบยตีมันให้เจ็บปวดเสีย!”

“แม้จะไม่มีใครปรารถนาจะเห็นสงครามและการนองเลือด แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่อาจตำหนิแคว้นต้าเหลียงได้!”

พอเห็นฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงตื่นเต้น จางซิวเย่ก็สงสัยขึ้นมา

“ฝ่าบาท สงครามครั้งก่อน ต้าเหลียงใช้ความได้เปรียบด้านภูมิประเทศ แต่ก็ยังยากลำบากยิ่ง”

“ตอนนี้คิดจะบุกเข้าเขตแดนเป่ยตี๋ จะไม่ยิ่งยากเย็นกว่าเดิมหลายเท่าหรือพ่ะย่ะค่ะ”

จางซิวเย่พูดอย่างระมัดระวัง

ในสายตาเขา กลยุทธ์บุ่มบ่ามเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับการส่งคนไปตาย

เขตชายแดนเป่ยตี๋ที่ติดกับต้าเหลียงเป็นทุ่งราบโล่งทั้งหมด เหมาะแก่การอาละวาดของกองทัพทหารม้าเป่ยตี๋

และที่นั่นก็เป็นถิ่นของเป่ยตี๋…

แต่ขนาดจางซิวเย่ยังรู้ในจุดนี้ ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงจะไม่รู้ได้อย่างไร

บทที่ 659 ฮ่องเต้แคว้นต้าเหลียงประหลาดใจ 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ