บทที่ 739 โจมตีด้วยซากศพเน่า
ภายในป้อมปราการวุ่นวายอลหม่าน
ตอนแรกกองทัพป้องกันต่างคิดว่า ถังขนาดใหญ่ที่ท่านพี่ฉินเฟิงสั่งให้ทหารโยนเข้ามาบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง หมายจะเผาป้อม พวกเขาจึงเตรียมพร้อมดับไฟอย่างแข็งขัน
จนเมื่อถังใหญ่ทั้งสิบถังกระทบพื้นและแตกกระจาย น้ำสีดำข้นคลั่กพลันไหลทะลัก ฃส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง
ตอนแรกทหารบนกำแพงปราการเทืองเขาสยงอิงไม่รู้ว่าของเหลวสีดำคืออะไร บางคนคาดเดาว่าเป็นสิ่งปฏิกูล จนลงมือทำความสะอาดก็เห็นกระดูกจำนวนมากปะปนอยู่ในของเหลวสีดำเหม็นเน่าพวกนี้ พวกเขาถึงได้รู้ว่า สิ่งที่ท่านพี่ฉินเฟิงโยนเข้ามาในกำแพงล้วนแต่เป็นซากศพเน่าเปื่อย
“ฉินเฟิโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว เขาช่างทำเรื่องต่ำช้าได้ลงจริง ๆ”
เหล่าทหารเป่ยตี๋โกรธแค้นจนตัวสั่น บางคนชี้หน้าด่าทอไปยังทิศทางที่ฉินเฟิงยืนอยู่ บ้างก็วิ่งไปคว้าธนู ยิงไปยังกองทัพของฉินเฟิง ระบายความโกรธแค้น
“เพียงหวังจะยึดป้อมปราการเทือกเขาสยงอิง ฉินเฟิงถึงกับทำต่ำช้า!”
“กลยุทธ์โยนซากศพโจมตีมีเพียงแคว้นไร้อารยะเล็ก ๆ ที่ทำกัน ไม่คิดว่าแคว้นเหลียงที่อวดอ้างตนว่าเป็นแคว้นแห่งบัณฑิตเคร่งในมารยาทและขนบดีงามจะใช้วิธีการชั่วช้าเช่นนี้!”
“อย่าพูดเลย บนสนามรบ กลยุทธืใดทำให้เอาชนะได้ก็นับว่าเป็นยุทธวิธีที่ดี”
“ต้าเหลียงกับเป่ยตี๋ทำสงครามกันมาเนิ่นนาน ต่างฝ่ายต่างเสียไพร่พลไปมาก ต้าเหลียงเลือกใช้วิธีการเช่นนี้ก็เพื่อยุติสงครามโดยเร็วที่สุด ถึงจะโหดร้ายแต่ก็ฃเข้าใจได้”
“เจ้าพูดแทนศัตรู? หรือเจ้าคิดกบฏ!”
“ก็แล้วข้าพูดผิดตรงไหน?!”
“ยังกล้าปากแข็งอีก! เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะจับเจ้าแล้วรายงานท่านแม่ทัพ!”
“เชิญ! ข้าเดินตัวตรง ไม่กลัวเงาเอียง!”
บนกำแพงป้อมปราการปั่นป่วน จากความตกตะลึงกลายเป็นความโกรธแค้น เหล่าทหารเป่ยตี๋ไม่รู้จะจัดการกับฉินเฟิอย่างไร ทหารที่โกรธแค้นแทบจะก่อเรื่องราวใหญ่โต
โชคดีหม่าถิงอวิ๋นมาถึงทันเวลา แล้วออกคำสั่งให้ทหารคนสนิทควบคุมสถานการณ์ พร้อมกับสั่งให้รีบจัดการทำความสะอาด
“ทุกคนอย่าได้แตกตื่น!”
“ตอนนี้อากาศหนาวเหน็บ ศพจะแข็งตัวในไม่ช้า ไม่อาจแพร่เชื้อโรคได้แน่นอน”
“ไหน ๆ ฉินเฟิงก็โยนศพเข้ามาให้ถึงที่ พวกเราก็ไม่ต้องออกไปแย่งชิงให้ลำบากอีก กระดูกเหล่านี้ล้วนเป็นทหารหาญเป่ยตี้ที่สละชีพในสนามรบ ฝังอย่างสมเกียรติ”
ด้วยความพยายามของหม่าถิงอวิ๋น ป้อมปราการที่วุ่นวายก็ค่อย ๆ สงบลง
เหล่าทหารพยายามอดกลั้นกลิ่นเหม็นอย่างยากลำบาก กว่าจะขนย้ายกองกระดูกออกไปได้หมดก็เล่นเอาเหงื่อซก แต่รุ่งขึ้นก็ต้องผงะอีก เมื่อฉินเฟิงสั่งให้ทหารโยนถังบรรจุศพเน่าเข้ามาในกำแพงเมืองอีกยี่สิบถัง!
แม้แต่หม่าถิงอวิ๋นผู้หนักแน่นราวภูเขาไท่ซานก็ยังอดสบถด่าไม่ได้
“เจ้าเด็กเหลือขอฉินเฟิงเจ้าเล่ห์นัก เลือกตอนเที่ยงที่อากาศร้อนที่สุดโยนศพเข้ามาในป้อมปราการ ศพที่ถูกแช่แข้งเลยละลาย น้ำเหลืองเหนียวเหนอะไหลเยิ้มเน่าเหม็นไปทั่ว…”
“เจ้าคนน่าตายฉินเฟิง ตอนทำสงครามใหญ่กับท่านแม่ทัพเฉินซือก็มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ใช้กลยุทธ์ลึกล้ำ ไม่นึกเลยว่ากับการต่อสู้เล็ก ๆ ก็เชี่ยวชาญกลอุบาย”
“เห็นทีถ้ายังไม่มีกองหนุน เทือกเขาสยงอิงคงต้านได้อีกไม่กี่วันกระมัง?”
กลยุทธ์รบกวนข้าศึกของฉินเฟิงได้ผลชะงัด แม้ทุกครั้งที่โยนศพเข้าไป ศพจะถูกจัดการอย่างรวดเร็ว แต่น้ำเหลืองที่กระจายไปทั่วก็ซึมลงพื้น และติดอยู่ตามผนังบ้านเรือน
ส่งผลให้ทั่วทั้งป้อมปราการเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นสาบจนแทบหายใจไม่ออก ยิ่งในช่วงเที่ยงกลิ่นก็ยิ่งรุนแรงทวีคูณ
เหล่าทหารจำนวนไม่น้อยต้องใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกเอาไว้ กระนั้นตอนเที่ยงที่กลิ่นรุนแรงที่สุด ผ้าปิดจมูกก็ช่วยไม่ได้จนแทบเป็นลม

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ