บทที่ 78 ชี้แนะให้ทำดี
ในขณะที่หลงป้าเทียนและคนอื่น ๆ ตกตะลึง ผู้คุ้มกันของจวนตระกูลฉินก็ออกมาล้อมรอบปกป้องฉินเฟิงแล้ว
เมื่อมองไปยังนายน้อยฉินซึ่งอยู่ใกล้แค่เอื้อม หลงป้าเทียนก็รู้ดีว่ามีเพียงต้องจัดการสตรีที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น จึงจะสามารถโค่นตัวปัญหาได้! เขากระโดดขึ้นกลางอากาศ ฟันชูเฟิงด้วยดาบในมือทันที
แววตาของชูเฟิงฉายแววดูถูกเหยียดหยาม “หากเคลื่อนไหวเช่นนี้ ทั้งร่างมีแต่จะเผยจุดอ่อน ความสามารถระดับนี้ ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้ากลายเป็นหัวหน้าพรรคได้อย่างไร”
สิ้นประโยค ชูเฟิงก็ก้มตัวลงต่ำเพื่อหลบคมดาบ จากนั้นก็ยกขาขวาขึ้นกลางอากาศ และถีบเข้าที่ท้องของหลงป้าเทียนอย่างแรง
หลงป้าเทียนที่มีร่างกายใหญ่ยักษ์กระเด็นออกไป และล้มทับลูกน้องอีกสองคนที่อยู่ข้าง ๆ
หนึ่งกระบวนท่ากำหนดแพ้ชนะ นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้ฝึกวรยุทธ์กับอันธพาลในท้องถิ่น
แม้แต่หลงป้าเทียนยังดูอ่อนแอขนาดนี้ ลูกน้องที่เหลือย่อมไม่มีกะจิตกะใจต่อสู้อีก
ฉินเฟิงมองหลงป้าเทียนซึ่งกำลังโยกตัวลุกขึ้นอย่างช้า ๆ เขาหรี่ตาลง พลางหัวเราะเบา ๆ “ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ หากมือถืออาวุธก่ออาชญากรรมบนท้องถนน ตามกฎหมายต้าเหลียง สามารถฆ่าก่อนแล้วค่อยเขียนรายงานทีหลังได้”
หลงป้าเทียนยกมือกุมหน้าท้อง มองไปที่ชูเฟิงผู้แข็งแกร่งยากจะหาใครเปรียบ เขารู้ตัวว่าไม่มีโอกาสสู้กลับได้แล้ว รู้เพียงว่าความแข็งแกร่งทั่วร่างเหือดหาย และดาบเก้าห่วงในมือเขาก็ตกกระทบพื้น
เวลานี้ มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอคอยหลงป้าเทียนอยู่ สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดสั่งให้หลงป้าเทียนเมินเฉยเกาซงที่อยู่ข้าง ๆ ความโกรธเกรี้ยวของเขาถูกแทนที่ด้วยความกลัวอย่างสมบูรณ์แบบ ชายร่างใหญ่จึงเอ่ยอ้อนวอนขอความเมตตา “นายน้อยฉิน โปรดละเว้นข้าด้วย”
ใบหน้าของฉินเฟิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มราวกับเขาไม่รู้ว่า ‘ความโกรธ’ คืออะไร แม้กระทั่งตอนที่เขาจะถูกหลงป้าเทียนโจมตีก็ตาม “หากขอความเมตตา ก็ต้องทำให้ดูเหมือนกำลังขอความเมตตาหน่อยสิ?”
สิ้นประโยคนั้น หลงป้าเทียนก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เขาคุกเข่าลงพร้อมกับก้มศีรษะ “นายน้อยฉิน โปรดเมตตาละเว้นข้าด้วย”
ฉินเฟิงเหลือบมองสมาชิกคนอื่น ๆ ของพรรคพยัคฆ์มังกรที่อยู่รอบ ๆ พลางทำสีหน้าประหลาดใจ “ทำไมเล่า พวกเจ้าอยากจะสู้กับข้าต่อไปหรือ?”
ทันใดนั้น พรรคพยัคฆ์มังกรพลันตื่นจากความฝัน พวกเขาขว้างไม้ทิ้งแล้วคุกเข่าลงตามหัวทันที
“ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ขอร้องนายน้อยฉินโปรดเมตตา ละเว้นชีวิตสุนัขอย่างพวกเราด้วย”
ฉินเฟิงไม่ใช่เพชฌฆาตที่ฆ่าผู้คนได้โดยไม่กะพริบตา ยิ่งไปกว่านั้น การฆ่าลิ่วล้อเหล่านี้ ไม่ว่าจะนอนคิดหรือนั่งคิดก็ยังไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อันใด
แต่จะให้ปล่อยพวกเขาไปเฉย ๆ ก็ไม่ใช่นิสัยของนายน้อยเจ้าสำราญ
หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วน ฉินเฟิงผุดความคิดดี ๆ ขึ้น เขาสั่งให้ผู้คุ้มกันนำพู่กันกับกระดาษมาแจกจ่าย แล้วเอา ‘กฎหมายต้าเหลียง’ ออกมา
“ทุกคนคัดลอก ‘กฎหมายต้าเหลียง ม้วนกฎอาญา’ สิบจบ คัดลอกเสร็จแล้วก็ออกไปได้”
ขณะพูด นายน้อยฉินก็เรียกผู้คุ้มกันที่รู้หนังสือเข้ามาหนึ่งคน “เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ พอพวกเขาคัดลอกเสร็จก็ตรวจสอบให้รอบคอบ หากเขียนผิดหนึ่งตัว ลงโทษด้วยการคัดลอกอีกหนึ่งจบ คัดลอกเสร็จตอนไหน ก็ปล่อยไปตอนนั้น”
ในที่เกิดเหตุเวลานี้ มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังขึ้นเป็นระยะ
หลงป้าเทียนและคนอื่น ๆ เคยชินกับการวางอำนาจบาตรใหญ่ จะเอาเวลาที่ไหนมาอ่านหนังสือเขียนตัวอักษร สำหรับพวกเขา การถูกลงโทษให้คัดลอก ‘กฎหมายต้าเหลียง’ เลวร้ายยิ่งกว่าการถูกเฆี่ยนตีหลายสิบครั้งเสียอีก แต่เมื่อเห็น ‘ความปรารถนาดี’ ของฉินเฟิงที่ต้องการชี้แนะผู้คนให้ทำดี หลงป้าเทียนและคนอื่น ๆ ก็ไม่กล้าพูดจาหยาบคาย ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาอยู่ที่พื้น แล้วตั้งใจคัดลอก ‘กฎหมายต้าเหลียง’ต่อไป
ใบหน้าของเกาซงเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ กำหมัดแน่น ร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ