เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 81

บทที่ 81 ความผิดฐานกบฏ

เป็นจริงอย่างที่ฉินเฟิงกล่าว มากที่สุดคงทำได้เพียงตัดสินว่านี่เป็นการก่อเหตุทะเลาะวิวาทสร้างความวุ่นวายเท่านั้น

ฉินเฟิงหันไปโบกมือให้ชาวบ้านรอบ ๆ พลางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “พวกเจ้าก็แค่อยากมาร่วมสนุกเท่านั้น รีบแยกย้ายกันไปเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะ”

ตึก ตึก ตึก…

ชาวบ้านมากกว่าครึ่งหนีหายสลายตัวไปจากที่เกิดเหตุทันใด ส่วนอีกไม่ถึงครึ่งที่เหลืออยู่ ล้วนเป็นบ่าวรับใช้ของจวนตระกูลฉิน

ภายใต้การจ้องมองอันโกรธเกรี้ยว แต่ทำอะไรไม่ได้ของเกาซง ท่าทีของฉินเฟิงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาตะโกนใส่สวีโม่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“แม่ทัพสวี ข้าน้อยต้องการรายงานเกาซง ข้อหาแอบสะสมกองกำลังและอาวุธ เพื่อจุดประสงค์ชั่วร้ายขอรับ!”

เกาซงไม่คาดคิดว่าฉินเฟิงจะกัดเขากลับ นายน้อยเกาผงะไปครู่หนึ่ง และตะโกนขึ้นว่า “คนแซ่ฉิน เจ้าไร้ยางอายเกินไปกระมัง เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นฝ่ายรวบรวมผู้คนเพื่อสร้างปัญหา!”

ฉินเฟิงทำตัวคล้ายว่ากำลังถูกคุกคาม เขารีบซ่อนตัวข้างกายสวีโม่ พลางชี้ไปที่เกาซง ก่อนจะพูดอย่างกังวล “คนที่ข้าพามาล้วนเป็นองครักษ์จวนตระกูลฉิน หากเจ้าไม่เชื่อก็ไปตรวจสอบที่กรมขุนนางดูได้ว่า มีบ่าวรับใช้ของตระกูลฉินอยู่กี่มากน้อย ทว่าพรรคพยัคฆ์มังกรมีคนมากกว่าห้าสิบคนที่ไม่ได้เป็นคนของตระกูลเกา อีกทั้งพวกเขายังได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี และมีการแอบซ่อนอาวุธ เมื่อใดที่พรรคนี้วางแผนชั่วจะต้องเป็นภัยต่อความมั่นคงของเมืองหลวงอย่างแน่นอน”

สวีโม่รู้เรื่องการมีอยู่ของพรรคพยัคฆ์มังกรมาเป็นเวลานาน แต่มันเป็นเรื่องยากเกินกว่าตัวเขาจะตัดสินใจได้ เนื่องจากไม่มีคำสั่งจากเบื้องบนของหน่วยลาดตระเวน

ยามนี้พรรคพยัคฆ์มังกรตกเป็นเป้ารับปืนแล้ว สวีโม่ย่อมไม่ปล่อยให้เรื่องคลุมเครือ เขายกทวนขึ้นสูง ตะโกนบอกเกาซงว่า “นายน้อยเกา เจ้าจะอธิบายเรื่องพรรคพยัคฆ์มังกรนี้อย่างไร?”

เกาซงใบหน้าซีดเผือด เดิมทีเขาต้องการกล่าวหาว่าฉินเฟิงลอบก่อกบฏ ปรากฏว่าฉินเฟิงกลับสลัดข้อกล่าวหาไปได้อย่างหมดจด ทั้งยังวางอ่างอุจจาระไว้บนหัวเกาซงแทน

เกาซงไม่มีวันยอมรับโทษทางอาญานี้โดยเด็ดขาด!

ประการแรก เขากังวลว่าเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ จากนั้นเรื่องใหญ่ก็จะกลายเป็นหายนะ และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบิดาในที่สุด

ประการที่สอง เขาเข้าใจวิสัยของฉินเฟิง ตราบใดที่เขายอม ฉินเฟิงจะต้องคว้าโอกาสนี้รีดไถเขาอีกครั้งอย่างแน่นอน

แม้จ้าวฉางฟู่จะเตือนเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าได้แข่งปะทะฝีปากกับเจ้าสารเลวฉินเฟิง แต่เกาซงก็พลาดเสียแล้ว ในชีวิตเขาไม่เคยขายหน้าขนาดนี้มาก่อน ไม่ชิงหมั่นโถวก็ชิงลมปาก!*[1]

เกาซงไม่เชื่อว่าตัวเขาในฐานะบุตรชายของมหาเสนาจะจัดการฉินเฟิงตัวเล็ก ๆ ไม่ได้?

สวีโม่ลงมาจากหลังม้า และตบไหล่ฉินเฟิงหนัก ๆ “วางใจเถอะ แต่ไหนแต่ไรข้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม ไม่มีวันกล่าวหาคนบริสุทธิ์ หรือปล่อยให้คนเลวรอดไปได้ หากไม่มีหลักฐานก็ไม่มีใครจับเจ้าได้”

เกาซงโกรธจนสั่นไปทั้งตัว สวีโม่ เจ้าสารเลว! เขาเข้าข้างฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญอย่างโจ่งแจ้งแล้ว!

เมื่อเห็นใบหน้าอมทุกข์ของเกาซง ฉินเฟิงก็รู้สึกสะใจยิ่ง นายน้อยเจ้าสำราญจงใจกอดคอสวีโม่ต่อหน้าอีกฝ่ายอย่างซ้ำเติม

“แม่ทัพสวีเป็นวีรบุรุษผู้เที่ยงธรรม ทั่วทั้งเมืองหลวงใครบ้างไม่รู้เรื่องนี้? นอกจากนี้ยังมีชนรุ่นหลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะมีตำแหน่งขุนนางเช่นท่าน นี่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของท่านโดยแท้!”

หน่วยลาดตระเวนเป็นหนึ่งในหน่วยงานภายใต้กองทหารรักษาพระองค์ และมีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของเมืองหลวงเป็นหลัก ‘พี่น้อง’ ที่อยู่ในระบบทหารรักษาพระองค์ ฉินเฟิงย่อมต้องสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาเอาไว้ คนพวกนี้จะต้องมีประโยชน์ในอนาคตอย่างแน่นอน

ฉินเฟิงเปิดปากคราหนึ่งก็ ‘แม่ทัพสวี’ อย่างนั้นอย่างนี้ สวีโม่ได้ฟังก็หลงคารม รู้สึกเบิกบานใจยิ่งนัก

คนในเมืองหลวงมักจะเรียกสวีโม่ว่า ‘บุตรชายจิ้งอันโหว’ นั่นทำให้เขาโกรธ และค่อนข้างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่

ตอนนี้ฉินเฟิงไม่เอ่ยถึงจิ้งอันโหวเลยแม้สักครั้ง มากไปกว่านั้นยังยืนยันความสามารถของเขาอีกเล่า สวีโม่จึงรู้สึกสุขกายสบายใจอย่างหาใดเปรียบ

สวีโม่มองฉินเฟิงด้วยแววตาสดใสมากขึ้นเรื่อย ๆ “ฮ่าฮ่าฮ่า พี่ฉินชมเกินไปแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนภายในจวนจี้อ๋อง พี่ฉินทำให้ขุนนางฝ่ายบุ๋นที่เอาจริงเอาจังกับการตีความตามตัวอักษรพวกนั้นขายขี้หน้าจนแทบแทรกแผ่นดินหนีต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท ช่างน่าสะใจจริง ๆ คนแซ่สวีเลื่อมใสนัก ตอนนี้สงครามกับเป่ยตี๋ยังอยู่ในช่วงหารือ กล่าวได้ว่า พี่ฉินเป็นคนแรกที่มีส่วนร่วมผลักดันแล้ว”

บทที่ 81 ความผิดฐานกบฏ 1

บทที่ 81 ความผิดฐานกบฏ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ