บทที่ 836 สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
ตอนแรกฉินเทียนหู่ยังกังวลอยู่บ้าง เพราะในฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้มีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นญาติของราชวงศ์ หากชิงอำนาจอย่างไม่ระมัดระวังอาจก่อให้เกิดการกบฏของทหาร
แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงและการคาดการณ์ของฉินเฟิงก็พบว่า ตรงกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เหมือนว่าฉินเฟิงจะมองทะลุสถานการณ์ทั้งหมดของแคว้นต้าเหลียงไปแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้จะเสี่ยงเพียงใดฉินเทียนหู่ก็ตัดสินใจที่จะสนับสนุนฉินเฟิงอย่างเต็มที่
…
สิบวันต่อมา ฮ่องเต้ต้าเหลียงที่ประทับอยู่ที่วังบนภูเขาไท่ไม่ได้รอคอยขบวนรับเสด็จกลับเมืองหลวง แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับกองทัพที่ยกมาอย่างยิ่งใหญ่ เขาที่ยืนอยู่บนเขา มองเหล่าทหาร พวกเขาล้วนเป็นทหารประจำการณ์เมืองหลวง!
“เกิดอะไรขึ้น?”
เขาขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้
จางซิวเย่ที่คอยรับใช้อยู่ข้าง ๆ รู้ดีว่าทั้งหมดนี้ต้องเป็นการจัดการของฉินเฟิงแน่นอน แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นโกรธแค้นตะโกนด่าว่า
“ฉินเฟิงช่างบังอาจนัก! ชัดเจนว่าต้องการกักขังฝ่าบาทไว้ เขาคิดจะก่อกบฏหรืออย่างไร?!” เมื่อคำพูดนี้ถูกเอ่ยออกมา กลับทำให้ฮ่องเต้ต้าเหลียงตกใจไปชั่วขณะ หากฉินเฟิงต้องการก่อกบฏ ผู้ใดในใต้หล้าจะสามารถต้านทานได้?
แต่เมื่อครุ่นคิดอีกครั้ง ฮ่องเต้ต้าเหลียงก็โล่งใจ จากความเข้าใจที่เขามีต่อฉินเฟิง เขารู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่มีวันก่อกบฏอย่างแน่นอน
ขณะนั้นเอง องครักษ์เสื้อแพรหลิวเหยา พอนางติดต่อกับทูตส่งสารแล้ว ก็ประสานมือคำนับและรายงานฮ่องเต้ต้าเหลียง
“ทูลฝ่าบาท ตามคำสั่งของโหวฉิน แม่ทัพใหญ่ทั้งสามคนของค่ายตะวันออก ค่ายตะวันตก รวมถึงกองทัพรักษาการณ์ ได้ถูกถอดอำนาจแล้วเพคะ”
“ตอนนี้ ค่ายทหารทั้งสี่แห่งในเมืองหลวงอยู่ภายใต้การควบคุมของจ้าวหลี ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพมังกรซ่อนพยัคฆ์”
“กองทัพที่ประกอบด้วยทหารหนึ่งหมื่นคนนี้ได้รับการคัดเลือกมาจากค่ายทหารใหญ่ทั้งสี่ เพื่อปกป้องฝ่าบาทให้ปลอดภัย”
“ความหมายของโหวฉินคือ หากเกิดการกบฏในเมืองหลวง ฝ่าบาทก็ไม่จำเป็นต้องรีบเสด็จกลับ”
เมื่อได้ยินฮ่องเต้ต้าเหลียงก็อดรู้สึกสงสัย “เพราะเหตุใด?”
หลิวเหยาอธิบายเสียงเบา “ท่านมหาเสนาฉินเทียนหู่ได้ส่งคนไปยังจงหยวนเพื่อแย่งชิงอำนาจทางทหารของฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้เพคะ”
“ฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้ไม่น่าไว้วางใจอีกต่อไป และเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกำจัด พวกเขาอาจจะเข้าร่วมตระกูลหลินหรือตระกูลใหญ่ทางใต้ จึงต้องลงมือก่อนเพื่อความได้เปรียบ”
“ทว่าฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้มีทายาทตระกูลหลีอยู่ไม่น้อย เกรงว่าจะไม่สะดวกในการลงมือ จำต้องรบกวนฝ่าบาทชั่วคราว”
ฮ่องเต้ต้าเหลียงเข้าใจกระจ่างแจ้ง จิตใจที่แขวนลอยค่อย ๆ วางลง
ฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้สนับสนุนหลี่ยง ทำให้ฮ่องเต้ต้าเหลียงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
แม้ว่าฉินเฟิงจะไม่ลงมือ เมื่อเขากลับถึงเมืองหลวงก็จำเป็นต้องชำระบัญชีกับฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ฉินเฟิงลงมือก่อน หมายความว่า ฉินเฟิงต้องการอาศัยกำลังของฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้เพื่อต่อกรกับตระกูลหลิน
“ใช้เสือกินหมาป่า รักษากำลังของตนเองไว้ ส่วนกองทัพทางชายแดนเหนือก็ใช้ต่อกรกับทางใต้อย่างเป็นธรรมชาติ!”
ฮ่องเต้ต้าเหลียงอดยิ้มไม่ได้ “ฉินเฟิงผู้นี้ ช่างวางแผนรอบคอบไม่ตกหล่น แม้แต่ข้าก็ยังต้องชื่นชม”
“การที่ข้าอยู่ที่ภูเขาไท่ ประการแรก ทายาทฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้จะไม่สามารถใช้ข้าเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธการส่งมอบอำนาจทางทหารได้”
“ประการที่สอง เมื่อข้าไม่อยู่ในเมืองหลวง การประสานงานของกองทัพแต่ละฝ่ายก็จะลดความยุ่งยากลงไปได้มาก”
“เหมือนว่าฉินเฟิงตั้งใจแน่วแน่ที่จะกลืนกินทั้งตระกูลหลินและตระกูลใหญ่ทางใต้ในคราวเดียว”
จางซิวเย่ที่อยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะพึมพำเบา ๆ
“โหวฉินอยู่ที่เป่ยตี๋กำลังแบกรับภาระหนัก บัดนี้ยังต้องดูแลความวุ่นวายในแคว้นอีก เกรงว่าเขาจะแยกร่างไม่ทัน…”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ