บทที่ 917 ข่าวจากสามทิศทาง
เหตุผลง่ายมาก เมื่อเข้าสู่สนามรบ จุดประสงค์มีเพียงอย่างเดียว…สังหารฝ่ายตรงข้าม
ทุกการโจมตีจึงต้องทุ่มเทสุดกำลัง
ภายใต้สถานการณ์ที่เข้มข้น พละกำลังจะหมดลงอย่างรวดเร็ว
แม้แต่จางเจิ้นไห่ผู้เป็นแม่ทัพที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาร้อยศึก ก็ยังทรุดลงกับพื้นราวกับโคลนเหลว
ฉินเฟิงยืนอยู่กลางทางแยก คอยปกป้องจางเจิ้นไห่ที่อยู่เบื้องหลัง พยายามต้านทานกองกำลังทหารศัตรูที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างยากลำบาก
มองฉินเฟิงที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด จางเจิ้นไห่ยันตัวลุกขึ้นยืน แต่หลังของเขาก็โดนไม้ฟาดเข้าอย่างจัง ทำให้ทั้งร่างล้มลงกับพื้นอีกรอบ
ผู้ที่ลงมือไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นฉินเฟิง
ฉินเฟิงควงแหลนพลางตะโกนดุเสียงดัง “นอนนิ่ง ๆ เร่งฟื้นฟูพละกำลังเร็วเข้า จะได้ไปเปลี่ยนตัวกับหลิ่วหมิง”
“แม้หลิ่วหมิงจะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่ไม่ถนัดการต่อสู้ซึ่งหน้า คงทนไม่ได้นาน”
จางเจิ้นไห่พลิกตัว นอนลงบนพื้น มองฉินเฟิงที่กำลังต่อสู้กับศัตรูไม่หยุด อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง “ฮ่า ๆๆ ท่านโหว ท่านเป็นถึงโหวอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าเหลียง เจ้าผู้ปกครองชายแดนเหนือ แต่ท่านกลับมาต่อสู้ในแนวหน้าด้วยตัวเอง ท่านคงเป็นโหวที่น่าอับอายที่สุดในประวัติศาสตร์แล้วกระมัง?”
เผชิญหน้ากับคำเยาะเย้ยของจางเจิ้นไห่ ฉินเฟิงก็ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงฟาดฟันแหลนในมือ กระทั่งแหลนถูกตัดขาด เขาจึงต้องทิ้ง เปลี่ยนมาใช้ดาบต่อสู้กับศัตรู
“ใกล้ตายแล้วยังพูดมากอีก!”
“หุบปากเสีย อย่าเสียแรงเปล่า พอกลับไปอำเภอเป่ยซีข้าจะให้สวีโม่แขวนเจ้าไว้ และเฆี่ยนเจ้าสามวันสามคืนแน่”
แม้จะถูกฉินเฟิงสาปแช่ง แต่จางเจิ้นไห่กลับยิ้มเต็มหน้า ชาตินี้ที่ได้ติดตามเจ้าคนเช่นคนน้อย ร่วมเป็นตายด้วยกัน ก็นับว่าเป็นโชคดีของเขาแล้ว
กลับไปอำเภอเป่ยซีหรือ? ยังจะกลับไปได้หรือ? หากสามารถกลับไปได้… เขาจะต้องขอลาพักยาว ๆ พักผ่อนให้เต็มที่สักหลายวันหน่อย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จางเจิ้นไห่ก็ยิ้มโง่ ๆ ออกมา
หน้าประตูศาลบรรพชนที่ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน หลี่เซียวหลานมองทหารศัตรูที่กำลังกระโดดปีนป่ายอยู่บนหลังคาอย่างไม่หยุดหย่อน ในใจนางรู้ดี สถานการณ์ได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว แนวป้องกันถูกทะลวงได้ทุกเมื่อ
หลี่เซียวหลานสูดหายใจลึก ค่อย ๆ ยกมือขวาขึ้น
องครักษ์ค่ายเทียนจีที่อยู่ข้าง ๆ ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ชักมีดสั้นออกจากเอว แล้วยื่นให้หลี่เซียวหลาน องครักษ์ค่ายเทียนจีสองคนสบตากัน แล้วพร้อมใจกันคุกเข่าลง ก้มศีรษะคำนับหลี่เซียวหลานสามครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้น แล้วพุ่งตัวไปยังแนวหน้าของสนามรบโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
หลี่เซียวหลานกำมีดสั้น ดวงตาไม่มีแววหวาดกลัวแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กลับเต็มไปด้วยความแน่วแน่อย่างที่สุด
เมื่อแนวป้องกันถูกทะลวง ช่วงเวลานั้น ก็จะเป็นเวลาที่หลี่เซียวหลานจะปลิดชีพตัวเอง
นางจะไม่ยอมให้ตัวเองตกไปอยู่ในมือของศัตรูเด็ดขาด ในฐานะสตรี นางรู้ดีว่าตนเองจะถูกปฏิบัติอย่างไร นางไม่เพียงแต่ต้องปกป้องความบริสุทธิ์ของตนเอง แต่ยังต้องรักษาชื่อเสียงของตระกูลฉิน และฉินเฟิงด้วย
ช่วงเวลาเดียวกัน นอกหมู่บ้าน ทหารส่งสารสามคนจากสามทิศทางที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงพุ่งเข้ามาหาหลู่หลีพร้อมกัน “จู้กั๋วมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นแล้ว มีกองทัพบุกมาจากจากเมืองฉางสุ่ย!”
“จู้กั๋ว แม่ทัพเฉินซือนำทหารบุกมาอย่างรวดเร็ว สังหารทหารสอดแนมและทหารส่งสารของพวกเราเป็นจำนวนมากตลอดทาง”
“จู้กั๋ว แนวหน้าสูญเสียอย่างหนัก ขวัญกำลังใจของข้าศึกแข็งแกร่ง ทหารของเราเริ่มแตกทัพอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่ทหารควบคุมที่ถูกฆ่าก็มีไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน”
“ทุกทางเข้าออกของหมู่บ้านเต็มไปด้วยซากศพแม่ทัพแนวหน้า วิงวอนจู้กั๋วให้ส่งทหารองครักษ์ออกไปรบด้วยตนเอง ขวัญและกำลังใจของทหารประจำการใกล้จะแตกสลายแล้ว”
เผชิญหน้ากับข่าวร้ายที่ทยอยมาอย่างต่อเนื่อง หลู่หลียังคงมีแววตาสงบนิ่ง ไม่มีคลื่นอารมณ์ใด ๆ ด้วยเขาคาดการณ์ทุกสิ่งไว้ล่วงหน้าแล้ว


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ