บทที่ 936 การระดมพลก่อนการรบ
กองพลพญาอินทรีกลายเป็นกำลังสำคัญที่สุดในการรักษาอำนาจการปกครองของฮ่องเต้เป่ยตี๋แล้ว
แต่ยังมีหลายสิ่งที่ฉินเฟิงต้องกังวล กองพลพญาอินทรีเป็นกองกำลังเดินทางไกล เชี่ยวชาญการรบที่โล่ง แต่ไม่ถนัดในการโจมตีป้อมปราการ การที่กองพลพญาอินทรีกลับมาเมืองหลวงเป่ยตี๋ ภารกิจสำคัญที่สุดย่อมเป็นการการช่วยเหลือฮ่องเต้เป่ยตี๋เสริมสร้างความมั่นคงในการปกครอง ไม่ใช่การโจมตีอำเภอฉางสุ่ย
ฉินเฟิงจึงเพียงแค่สังเกตการณ์กองพลพญาอินทรี ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น
เมื่อความมืดปกคลุม อำเภอฉางสุ่ยปรากฏสู่สายตาของฉินเฟิง ผู้คนในเมืองได้รับข่าวมาก่อนแล้ว เลยมีคนออกมารอต้อนรับนอกเมือง
ขณะที่ผ่านประตูเข้าเมือง ความตึงเครียดของทุกคนก็ผ่อนคลายลง ผู้บาดเจ็บรวมถึงหนิงหู่ด้วยถูกส่งไปยังศาลาว่าการอำเภอเพื่อรับการรักษา
ส่วนฉินเฟิงไม่ได้รีบไปยังศาลาว่าการอำเภอเพื่อพบกับเสิ่นชิงฉือและคนื่น ๆ แต่มุ่งหน้าไปยังค่ายทหารของศาลาว่าการอำเภอ
ตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วน กองทัพใหญ่อาจบุกมาได้ทุกเมื่อ ฉินเฟิงจำเป็นต้องใช้เวลาทุกวินาทีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตอนนี้ทหารมือปราบสองร้อยคนในเมืองถูกปลดอาวุธและรวมตัวอยู่ที่ลานฝึก โดยมีทหารจากเป่ยซีหลายสิบคนคอยเฝ้าอยู่รอบ ๆ และยังมีทหารอีกหนึ่งร้อยคนอยู่นอกค่าย
ทหารมือปราบเหล่านี้ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาสงสัยและกังวลใจ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ก่อนที่โหวฉินจะจากไป พวกเราต่างเรียกกันว่าพี่น้อง แต่พอโหวฉินจากไป พวกเราก็กลายเป็นนักโทษไปได้อย่างไร?”
“ไม่ใช่ว่าโหวฉินกบฏหรอกนะ?”
“กบฏรึ? เขาเป็นเพียงทูตต่างแดน จะกบฏได้อย่างไร?”
“พวกเจ้าหุบปากเสีย แม้ว่าฉินเฟิงจะต่อสู้กับราชสำนักก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา ใครไม่อยากตายก็ปิดปากเหม็น ๆ ของตนไว้ให้ดีเสีย”
ขณะนั้นเองฉินเฟิงก็ก้าวเข้ามาในลานฝึก เดิมพวกทหารมือปราบเหล่านี้ก็กังวลอยู่แล้ว พอเห็นฉินเฟิงเดินเข้ามา ทั้งยังห้อมล้อมไปด้วยองครักษ์ค่ายเทียนจี อีกทั้งร่างกายก็เต็มไปด้วยบาดแผล หัวใจของพวกทหารมือปราบพลันเย็นวาบ
แย่แล้ว คำพูดกลายเป็นจริงเสียแล้ว!
ฉินเฟิงไม่พูดอ้อมค้อม เขาตรวจกวาดตามองทหารมือปราบ แล้วพูดตรงประเด็น “ข้าได้รับพระบัญชาจากฝ่าบาทของพวกเจ้าให้เข้าเฝ้า และข้าก็นำความจริงใจเต็มเปี่ยมไปเพื่อเข้าเฝ้า แต่ระหว่างผ่านอำเภอชิงซานกลับถูกหลู่หลีดักสังหาร”
“หลังการต่อสู้อย่างดุเดือด แม้ข้าจะโชคดีหนีรอดมาได้ แต่ทหารใต้บังคับบัญชาของข้าหนึ่งร้อยสามเจ้ดคนต้องสังเวยชีวิตบนสนามรบ”
“พวกเจ้าไร้ความเมตตาก็อย่าได้โทษว่าข้าไร้คุณธรรม!”
“พวกเจ้าเป็นทั้งประชาชนของเป่ยตี๋และเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก มีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องเมืองและคุ้มครองท้องถิ่น ตามหลักการแล้ว ข้าควรจะสังหารพวกเจ้าเสีย!”
“แต่พวกเจ้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าได้เลือก”
“สำหรับผู้ที่จงรักภักดีต่อเป่ยตี๋ ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าออกจากเมือง ส่วนผู้ที่ต้องการร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับข้า นับจากนี้ไปจะกลายเป็นประชาชนของอำเภอเป่ยซีของข้า”
“ตอนนี้จงตัดสินใจเลือกเสีย!”
เหล่าทหารมือปราบมึนงง พวกเขายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กลับต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าฉินเฟิงไม่ได้ตั้งใจจะให้โอกาสพวกเขาได้ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน
ชั่วพริบตา เสียงถกเถียงก็ดุเดือดขึ้น
“อะไรกัน? ชักชวนให้ยอมจำนนหรือ?”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ