เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 971

บทที่ 971 เจตนาทางการเมืองของเฉินเจิ้ง

เฉินเจิ้งสนใจแต่ผลลัพธ์ ไม่ได้สนใจวิธีการที่จะบรรลุผล ตราบใดที่สามารถสร้างอำนาจของฮ่องเต้ต้าเหลียงขึ้นมาใหม่ได้ มั่นใจว่าแคว้นเหลียงจะไม่เกิดการกบฏเนื่องจากอำนาจที่เพิ่มขึ้นของฉินเฟิง และรับประกันว่าประชาชนแคว้นเหลียงจะอยู่อย่างสงบสุข เฉินเจิ้งก็พอใจแล้ว

ความจริงเฉินเจิ้งก็รู้ดีว่า การส่งผู้คุมกองทัพไปยังแนวหน้าเป็นเพียงการแสดงท่าที ด้วยตำแหน่งและอำนาจของฉินเฟิงในปัจจุบัน หากเขาต้องการ เขาสามารถฆ่าผู้คุมกองทัพได้ทุกเมื่อ และไม่มีผู้ใดในราชสำนักกล้าแม้แต่จะเอ่ยปากต่อว่าด้วย

เฉินเจิ้งไม่มีทางเลือกจึงต้องเลือกเส้นทางที่แทบไม่มีความหวัง

แต่ตอนนี้ที่ได้พูดคุยกับหลิ่วหงเหยียน ปัญหาหนักใจได้คลี่คลาย พบทางออกที่ไม่คาดคิด แม้การส่งผู้คุมกองทัพจะล้มเหลว แต่การที่แม่ทัพใหญ่ทั้งสามคนของชายแดนเหมืองกลับมารายงานตัวที่เมืองหลวงนับว่ามีคุณค่าทางการเมืองมากกว่า

เฉินเจิ้งมองหลิ่วหงเหยียนที่รักษาท่าทีสงบนิ่งอยู่ตลอด แล้วถามอย่างระแวดระวัง “โหวฉินบอกเรื่องนี้กับคุณหนูรองไว้ตั้งแต่เมื่อใด?”

เมื่อครู่เขายังเรียกหลิ่วหงเหยียนว่าหลิ่วเอ๋อร์ แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนมาเรียกคุณหนูรองแล้ง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนหัวรั้นที่ไม่ยืดหยุ่น แต่ตั้งใจใช้ภาพลักษณ์หยาบกระด้างภายนอกปกปิดความคิดละเอียดรอบคอบไว้

เมื่อจุดประสงค์ทางการเมืองบรรลุ ท่าทีของเฉินเจิ้งก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

แน่นอนว่าหลิ่วหงเหยียนเข้าใจแผนการของเฉินเจิ้ง แต่กระทั่งฉินเฟิงเขาก็ไม่สนใจ แล้วนางที่เป็นเพียงสตรีธรรมดาจะทำอะไรได้?

“ใต้เท้าเฉิน ข้าไม่ได้บอกท่านไปแล้วหรือว่า เฟิงเอ๋อร์กำชับข้าไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะออกจากเมืองหลวงแล้ว ฮ่า ๆ ข้าขอพูดตามตรงสักเรื่อง หวังว่าใต้เท้าเฉินจะไม่ถือสา…”

“ด้วยนิสัยเที่ยงธรรมและไม่ยอมอ่อนข้อของใต้เท้า ข้าคาดการณ์ไว้แล้วว่าท่านจะมาก่อกวนในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้”

ก่อกวน?!

แม้คำนี้จะระคายหู แต่เฉินเจิ้งก็ไม่ได้ใส่ใจนัก เมื่อมุมมองต่างกัน สำหรับฉินเฟิง การที่เฉินเจิ้งก่อความวุ่นวายในราชสำนัก บีบให้ฮ่องเต้ต้าเหลียงส่งผู้คุมกองทัพไปยังแนวหน้าถือเป็นการก่อกวนจริง ๆ จึงไม่มีอะไรที่รับไม่ได้

เฉินเจิ้งยิ้มแล้วกล่าวว่า “เหมือนว่าโหวฉินจะเข้าใจข้าดีนัก จะว่าไป ข้าก็เข้าใจโหวฉินเช่นกัน หาไม่วันนี้ข้าคงไม่มาเยือนถึงที่”

“ข้าแค่ต้องการให้ฉินเฟิงให้คำอธิบาย เท่านั้นเอง”

“ข้าเป็นคนที่ระวังทั้งคนชั่วและคนดี ข้าสนใจแต่เรื่องจริงไม่สนใจเรื่องเพ้อฝัน แม้จะเป็นคำสัญญาที่น่าประทับใจเพียงใด ก็ไม่น่าเชื่อถือเท่ากับการลงมือทำสักอย่าง”

เมื่อเฉินเจิ้งตรงไปตรงมา หลิ่วหงเหยียนแย้มยิ้ม กล่าวว่า “เฟิงเอ๋อร์เคยกล่าวไว้ ในบรรดาขุนนางของราชสำนักจะขัดใจกับผู้ใดก็ได้ทั้งนั้น ยกเว้นก็แต่ใต้เท้าเฉิน”

“ใต้เท้าเฉินเป็นกำลังสำคัญของแคว้นต้าเหลียง ทุกอย่างล้วนคำนึงถึงผลประโยชน์ของแคว้นเป็นอันดับแรก ข้าน้อยชื่นชมนัก”

เซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์กับฉีหยางจวิ้นจู่ที่อยู่ข้าง ๆ สบตากัน แววตาของพวกนางชัดเจนว่าประหลาดใจ

ทั้งที่เมื่อครู่หลิ่วหงเหยียนกับเฉินเจิ้งยังเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด แต่ชั่วพริบตากลับเปิดอกคุยกันเสียแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยอวิ๋นเอ๋อร์ แม้แต่ฉีหยางจวิ้นจู่ ก็ยังนึกชื่นชมหลิ่วหงเหยียน ด้วยแม้จะเป็นสตรี แต่ความสามารถทางการเมืองกลับไม่ด้อยไปกว่าขุนนางเฒ่าในราชสำนัก เป็นสตรีที่เก่งกาจไม่แพ้บุรุษ

ครึ่งชั่วยามต่อมา จางซิวเย่เดินผ่านประตูพระราชวังต้องห้าม มุ่งหน้าไปยังห้องทรงพระอักษร

บทที่ 971 เจตนาทางการเมืองของเฉินเจิ้ง 1

บทที่ 971 เจตนาทางการเมืองของเฉินเจิ้ง 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ