เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ นิยาย บท 973

บทที่ 973 พลังอันน่าสะพรึงกลัวของพลาธิการ

กระโจมมีโครงสร้างที่เรียบง่ายมาก เพียงตั้งไม้สามท่อนลงบนพื้นแล้วคลุมด้วยผ้าสามารถกันลมได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถกันความหนาวได้

ด้านหน้าของกระโจมกันลมมีการจุดกองไฟ อาศัยเปลวไฟให้ความอบอุ่น

แต่ละกระโจมมีทหารห้าคนอัดกันอยู่ภายใน กองไฟเริ่มทำให้เกราะหนาบนร่างกายอบอุ่นแล้ว อุณหภูมิถูกส่งผ่านเสื้อกันหนาวหนาเข้าสู่ร่าง

กระโจมกันลมขนาดแตกต่างกันไป โครงสร้างดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับไม้สามท่อนที่รองรับ แต่ระหว่างกระโจมกันลมแต่ละหลังจะห่างกันเป็นมาตรฐานห้าถึงสิบก้าว ด้วยวิธีนี้จึงสามารถปกป้องซึ่งกันและกันได้ และยังเป็นอิสระต่อกันด้วย

กระโจมกันลมหันหน้าเข้าหาภูเขาอยู่ห่างจากเขาหนึ่งร้อยก้าว หากกองทัพศัตรูบุกโจมตีโดยไม่คาดคิด พวกเขาจะต้องเคลื่อนที่ผ่านระยะทางหนึ่งร้อยก้าวที่ไร้กำบัง แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น นอกจากนี้ทหารสองพันคนยังคอยผลัดกันเฝ้าระวัง แต่ละหน่วยส่งคนหนึ่งคนมารวมตัวที่แนวหน้า ผลัดเปลี่ยนกันทุกสองชั่วยาม ด้วยวิธีนี้จึงมีทหารสี่ร้อยคนที่อยู่ในสภาพพร้อมรบตลอดเวลา เฝ้าระวังไม่ให้ศัตรูบุก

ค่ำคืนมาเยือน ลมพัดกระโชก ทหารจากกองพลาธิการลากเกวียนม้าสองคันบนเกวียนม้าเต็มไปด้วยถังไม้ใหญ่บรรจุน้ำแกงเนื้อที่ต้มเสร็จใหม่

ทหารแต่ละคนได้รับแจกน้ำแกงหนึ่งชามและอาหารแห้งสองชิ้น

อาหารแห้งทำจากแป้งข้าวฟ่างแข็งราวกับหิน หากกินเพียงอย่างเดียวอาจทำให้ฟันหักได้ ทหารจึงแช่อาหารแห้งในน้ำแกงก่อน รอให้นุ่มลงจึงกินเหมือนกินโจ๊ก

อาหารแห้งจากข้าวฟ่างกับน้ำแกงสะดวกสำหรับการขนส่งของกองพลาธิการ ทหารอิ่มท้อง และมีคุณค่าทางโภชนาการ แม้รสชาติจะธรรมดา แต่ในสนามรบที่หนาวเหน็บ การได้ดื่มน้ำแกงร้อน ๆ สักชามถือว่าดีมากแล้ว เหล่าทหารที่ล้อมภูเขาอยู่แข็งแกร่งอยู่เสมอ

ส่วนทหารเป่ยตี๋บนภูเขาน่าสงสารมาก พวกเขาเร่งเดินทัพมาสกัดกั้นกองทัพเดินทางไกลเป่ยซีจึงติดอาวุธเบาและนำอาหารติดตัวมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ทหารเป่ยตี๋หลายสิบคนรวมตัวกันเป็นวงกลม จุดกองไฟ นำถุงน้ำที่แข็งเป็นน้ำแข็งมาวางข้าง ๆ เพื่อละลาย เมื่อน้ำแข็งละลายก็ส่งต่อกันดื่ม ส่วนอาหารในมือเป็นรำข้าวนึ่ง และต้องใช้น้ำช่วยกลืนลงคอ

แม่ทัพยืนอยู่บนยอดเขา มองทหารเป่ยซีที่ตั้งค่ายอย่างเป็นระเบียบเบื้องล่างก็อดสิ้นหวังไม่ได้

“จำนวนทหารของเราและศัตรูไม่ต่างกันมาก แต่กองทัพศัตรูมียุทโธปกรณ์ดีเยี่ยม ไม่เพียงแต่สวมเสื้อกันหนาวหนา ยังมีกระโจมกันลม สำคัญที่สุดคือ พวกเขาได้กินอิ่มและอุ่น”

“เจ้าฉินเฟิงคงกวาดเอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดของแคว้นต้าเหลียงเข้าคลังเป่ยซีหมดแล้วกระมัง? หาไม่กองทัพใต้บังคับบัญชาของมันจะร่ำรวยถึงเพียงนี้ได้หรือ?”

“ในฐานะกองทัพเดินทางไกล พวกมันบุกเข้ามาถึงใจกลางดินแดนของพวกเราชาวเป่ยตี๋ แต่กลับยังมีน้ำแกงเนื้อให้ดื่ม เรื่องบ้าบออะไรกัน?!”

ได้ยินคำสบถของแม่ทัพใหญ่ บรรดานายกองที่อยู่ข้าง ๆ อดถอนหายใจไม่ได้

“แม่ทัพ กองทัพนี้คือกองทัพเดินทางไกลแห่งเป่ยซี ตามข้อมูลที่ได้รับจากกรมกลาโหม จุดประสงค์แรกเริ่มที่ฉินเฟิงสร้างกองทัพเดินทางไกลเป่ยซีขึ้นก็เพื่อรบข้ามแดน กองทัพหนึ่งหมื่นคนมีสองพันคนรับผิดชอบด้านพลาธิการ มีเพียงแปดพันคนเป็นกำลังรบ”

“ยิ่งไปกว่านั้น การเคลื่อนทัพอ้อมมาคราวนี้ ทุกที่ที่ผ่านไม่เหลือแม้แต่ไก่หรือสุนัขสักตัว ไม่ว่าจะเป็นเสบียงหรืออาวุธยุทโธปกรณ์เป่ยตี๋เราล้วนถูกกองทัพเดินทางไกลเป่ยซีกวาดเก็บไปหมดสิ้น”

“เมื่อครู่ตอนเราถอยร่นขึ้นยอดเขา ข้าเห็นรถม้าของค่ายพลาธิการกองทัพศัตรูบรรทุกเสบียงเต็มคัน ช่างน่าอิจฉาจริง”

พลาธิการหรือ?

แม่ทัพขมวดคิ้วแน่น มองไปยังค่ายพักที่สว่างไสวด้วยกองไฟที่อยู่ไกล ๆ แล้วกล่าวอย่างงุนงง “เป็นไปได้อย่างไรที่กองทัพศัตรูจะนำหน่วยพลาธิการมาในสนามรบด้วย? หากเป็นจริง เหตุใดการเคลื่อนทัพจึงรวดเร็วนัก?”

บทที่ 973 พลังอันน่าสะพรึงกลัวของพลาธิการ 1

บทที่ 973 พลังอันน่าสะพรึงกลัวของพลาธิการ 2

บทที่ 973 พลังอันน่าสะพรึงกลัวของพลาธิการ 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ