สรุปเนื้อหา บทที่ 1011 นกหวีดกระดูก – บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน
บท บทที่ 1011 นกหวีดกระดูก ของ บัญชามังกรเดือด ในหมวดนิยายแฟนตาซี เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย สวรรค์ไร้เทียมทาน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
รอให้ควันพวกนั้นเข้ามาใกล้ๆ ก่อนที่ฉินเทียนจะพบว่า พวกควันนั้นไม่ใช่ควันที่แท้จริง แต่เป็นแค่หมอกแมลงที่มองไม่เห็น
พวกแมลงที่บินอยู่นั้นเอง ขนาดแต่ละตัวน่าจะมีประมาณหนึ่งมิลได้ และตัวนั้นโปร่งใส จะเห็นเพียงแค่สีปีกเท่านั้นที่มีสีฟ้าจางๆ
มองไกลๆแล้ว ก็เลยเหมือนกลุ่มควันที่มีชีวิต
แท้จริงแล้วก็เป็นแค่สัตว์ปีกตัวใสสีเล็กๆที่รวมกลุ่มกันบินนี่เอง
ส่วนกลุ่มงูที่อยู่ที่พื้นนั้น โดนเฉพาะพวกที่ชอบกินแมลงเล็กๆน้อย ถึงจะคลานได้อย่างรวดเร็ว
แต่ว่าไม่นานนัก ฉินเทียนนั้นก็พบว่าตนเองนั้นคิดผิด
พวกแมลงพวกนั้นที่ได้บินไปล้อมบนตัวของจินถังนั้น ส่วนงูด้านล่างนั้นก็เข้าไปล้อมไว้เหมือนกัน
พวกมันไม่เพียงแต่จะอ้าปากเท่านั้น แต่เหมือนเดินเข้ามาด้วยความเกรี้ยวกราด ราวกับว่าเป็นพวกแมลงที่กำลังสับสนอยู่
รอให้เหล่างูนั้นเข้าใกล้ พวกแมลงพวกนั้นถึงได้จากไป ก่อนที่พวกกลุ่มน้อยที่รวมตัวกันเป็นร้อยนั้น ก่อนที่จะตกลงไปอยู่บนตัวของงู
หลังจากนั้นพวกกลุ่มงูที่ดูจะมึนงงพวกนี้นั้น ได้อ้าปาก แล้วพุ่งเข้ามาเพื่อที่จะกัดจินถังและฉินเทียน!
ฉินเทียนถึงเข้าใจ ว่าเขานั้นคิดผิดแล้วจริงๆ!
ว่าพวกแมลงพวกนั้นที่อ่อนแอเหมือนจะโดนกลืนนั้น จริงๆแล้วอยู่เบื้องหลังการจัดการกลุ่มงู!
นี่มันแมลงอะไรกันแน่ ถึงได้มีพลังที่น่ากลัวขนาดนี้?
ราวกับว่าสามารถมองเห็นถึงความตกใจของฉินเทียน ก่อนที่หญิงสาวที่มีผ้าคลุมหน้านั้นจะหัวเราะออกมาแล้วเอ่ย “เหมือนเปิดโลกเลยไหมล่ะ?จะบอกอะไรให้นะ นี่ก็คือหนอนเจาะของฉัน!พวกมันนั้นมีกลิ่นแปลกๆ จะมีกลิ่นหอมที่สามารถจะควบคุมพวกฝูงงู ตามที่ใจของฉันอยากจะทำ”
“วันนี้ พวกเจ้าไม่ว่าคนไหนก็อย่าคิดที่จะหนีไปแล้ว วันนี้พวกเจ้าจะต้องชดใช้คืนกับการที่ทำร้ายเจ้าเขียวของข้า !”
หญิงสาวผ้าคลุมหน้านั้นหัวเราะออกมาเสียงดัง ด้วยใจที่เต็มไปด้วยความพอใจและสบายใจ
อีกทั้งรวมกับที่เธอนั้นเพิ่งจะเอ่ย และไม่อยากที่จะทำให้จินถังและฉินเทียนนั้นตายที่นี่ เพียงแค่อยากให้พวกเขานั้นบาดเจ็บทำเท่านั้น
ฉินเทียนคิดไปมา ก่อนที่จะพยายามสร้างความสันติ
แต่ว่าอยากที่จะหาความสงบจากสาวเช่นนี้ จะต้องหาพลังและแข็งแกร่งมากกว่าเธอมาให้เธอดู!
“ดังเช่นนี้ ก็เหมือนทำให้ไม่พอใจแล้ว!”
ฉินเทียนนั้นใช้แขนทั้งสองข้างนั้น ตบเข้าไปในกลุ่มงูพวกนั้น !
ก่อนที่เขานั้นจะใช้ลม แล้วจัดการให้งูพวกนั้นลอยกระจายกันออกไปหมด
แต่ว่าในรอบนี้ ฉินเทียนนั้นยังควบคุมพลังได้อย่างดี
เขานั้นทำให้แค่งูนั้นลอยออกไป และไม่ได้จงใจที่จะฆ่าแต่อย่างใด
เร็วๆนั้น บนพื้นนั้นได้มีงูที่นอนสงบมึนอยู่หลายตัว และบนตัวนั้นต่างก็เห็นท้องสีขาวๆ มองไปแล้วน่าสงสาร
หญิงสาวผ้าคลุมหน้าคนนั้นตะลึง ก่อนที่จะเอ่ยมองไปที่ฉินเทียน “เจ้าทำได้ยังไงกัน?ไม่มีใครที่สามารถที่จะจัดการกับฝูงงูพวกนี้ได้”
ฉินเทียนนั้นยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแล้วเอ่ยเบาๆ “ก็ใช้เพียงแค่สองแขน ถ้าหากท่านอยากที่จะสลายปัญหาพวกนี้นั้น ข้านั้นก็ยินยอมที่จะช่วยนะ”
หญิงสาวผ้าคลุมหน้านั้นที่เพิ่งจะโดนเหตุการณ์เมื่อสักครู่นั้น จนทำให้นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยอย่างไม่เต็มใจ “ชะนีขาวนั้นขโมยของก็ไม่ถูก แต่ว่าฉันนั้นได้ด่าจนร้องไห้แล้วล่ะ”
หลังจากนั้นได้ชี้ไปยังไป๋หลิงที่ถูกแขวนอยู่บนอากาศ “เป็นเพราะเธอนั้นตามไม่ยอมปล่อย และอยากที่จะตัดแขนของชะนีขาวทิ้งส่ะ”
“แต่ชะนีขาวฉันนั้นเลี้ยงมาจนโตนะ เหมือนกับคนสนิทในครอบครัวนั่นแหละ ฉันคงทนไม่ได้ที่จะเห็นมันถูกรังแกง และไม่ต่อสู้กับ”
ฉินเทียนและจินถังมองไปที่ไป๋หลิง พวกเขานั้นทราบดี ว่าเป็นเพราะไป๋หลิงนั้นไม่ยอมที่จะปล่อยไป เลยทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
“หากเป็นเช่นนี้ พวกเราผิดไปแล้ว ขอโทษคุณหญิงด้วยก็แล้วกัน”ฉินเทียนเอ่ยด้วยความจริงใจ “ไป๋หลิงยังเด็ก ยังไม่ค่อยเข้าใจ เรื่องที่ทำผิดไป ขอให้ท่านนั้นอย่าเอามาคิดเลย”
“หึ!เธอยังเด็กหรอ?”หญิงสาวผ้าคลุมหน้านั้นเอ่ยอย่างไม่เต็มใจ “ฉันมองดูแล้วเหมือนเธอนั้นจะอายุมากกว่าฉันสะอีก อีกทั้งนิสัยยังโหดร้ายแบบนี้อีก น่าจะโดนสั่งสอนสะบ้าง!”
“เจ้าปีศาจ เธอเอ่ยว่าใครนิสัยไม่ดีกันนะ? หากแน่จริงก็ปล่อยฉันสิ มาให้ฉันนั้นลองดวลมือหน่อย พวกเรามาต่อสู้อย่างยุติธรรมกันสักทีสิ!”
เมื่อเอ่ยแล้ว เธอนั้นก็ได้เดินไปยังด้านชะนีขาว ก่อนที่จะเอ่ยชี้ “พี่เหยา พวกเราไปกันเถอะ!”
ชะนียาวนั้นได้จับไปที่หน้าอกก่อนที่จะพยักหน้า ราวกับว่าถอนหายใจกับหญิงสาวผ้าคลุมหน้าด้วย
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ชะนีขาว แต่ว่าก็มีจิตใจและรู้จักกับหัวหน้าของตนเองดี ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินเทียน
แต่ว่าที่ร่างกายเป็นสัตว์นั้นก็ได้เปรียบ เพราะสามารถมองเห็นถึงเจตนารมณ์ของความอาฆาตได้
มันรู้สึกไม่ถึงของความอาฆาตของฉินเทียนและจินถัง ดังนั้นจึงได้แต่นั่งมองอยู่ข้างๆ
เมื่อได้ยินดังนั้นก่อนที่จะจากไป และกระโดดแบบโลดเต้นดีใจ
เมื่อได้ยินหญิงสาวเรียกชะนีขาวว่าพี่เหยา ฉินเทียนและจินถังนั้นก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน
แต่ว่าพวกเขานั้นไม่ใช่คนที่ชอบเอ่ยอะไรมาก จึงทำได้แต่มองหนึ่งคนและหนึ่งชะนีขาวนั้นเดินจากไป
หญิงสาวผ้าคลุมหน้านั้นเดินไปได้สองก้าว ทันใดนั้นก็ได้หันหน้ามา ก่อนที่จะให้นกหวีดกระดูกหนึ่งอันกับฉินเทียน “เมื่อสักครู่เจ้านั้นช่วยพูดให้กับพี่เหยา ข้าชอบมากเลยนะ แล้วให้นกหวีดกระดูกกับเจ้าก็แล้วกัน หากเจ้านั้นได้เจอเหตุอันตราย สามารถเป่ามัน หากข้าอยู่ใกล้ๆ ข้าจะรีบมาช่วยเจ้าทันที”
เมื่อหญิงสาวเอ่ยจบแล้ว จินถังนั้นก็ดีใจมาก
เขานั้นรู้สึกว่าหญิงสาวคนนั้นไม่ได้มีแรงมากเท่าไหร่ ไม่ได้มีอะไร เมื่อสักครู่แค่การแสดงงูเท่านั้นนั่นแหละ
แต่ว่าฉินเทียนนั้นคือปรมาจารย์ขั้นสูงที่น่ากลัว อีกทั้งพวกอาวุธมากมาย แค่นี้จะมาให้เอช่วยด้วยหรอ?
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของจินถังแล้ว หญิงสาวมีผ้าคลุมหน้านั้นก็เข้าใจในความหมายของเขา
เธอนั้นเดินไปหาจินถังอย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะเงยหน้าเอ่ยถาม “เจ้าหัวเราะอะไร?สงสัยในพลังของฉันใช่ไหมล่ะ?”
“จะบอกอะไรเจ้าให้นะ ฉันนั้นเป็นถึง คนที่สามารถอยู่ยงคงกระพันเลยนะ!พวกคุณมันคนนอกเมือง หากว่าเธอนั้นไม่พอใจ สามารถที่จะใส่ร้ายได้ตลอดเลยน่ะ”
“เคยได้ยินเรื่องพิษกู่แห่งหลิ่งหนานไหมล่ะ?หากถึงแม้จำนวนจะเยอะ แต่ส่วนมากนั้นหากโดนก็ยากที่จะแก้พิษ!หากพวกคุณเจอล่ะก็ เก้าชีวิตยังไงก็ต้องตาย!”
เมื่อเอ่ยแล้ว หญิงสาวที่มีผ้าคลุมหน้านั้นก็ได้หันหน้าไปมองฉินเทียน ก่อนที่จะยืนมือไปจับนกหวีดกระดูก ที่เพิ่งออกไปให้แล้วเอ่ย “เจ้าก็คิดเช่นนี้หรือเปล่าล่ะ?ฉันเปลี่ยนใจแล้ว!รีบเอานกหวีดกระดูกคืนฉันมานะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...