บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 1027

สรุปบท บทที่ 1027 อาศัยความมืดมิดสังหารคน: บัญชามังกรเดือด

สรุปตอน บทที่ 1027 อาศัยความมืดมิดสังหารคน – จากเรื่อง บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน

ตอน บทที่ 1027 อาศัยความมืดมิดสังหารคน ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง บัญชามังกรเดือด โดยนักเขียน สวรรค์ไร้เทียมทาน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“ใช่ครับ ข้าน้อยก็คืออาหนู”

อาหนูคำนับให้ฉีกงครั้งแล้วครั้งเล่า “อาจารย์ย่อมจำบทบาทเล็ก ๆ อย่างอาหนูนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ก่อนหน้าที่ถูกจัดการให้ไปดักซุ่มโจมตีที่เมืองไพ่ ก็คือข้าน้อยเอง”

ฉีกงยังไม่ได้พยายามค้นหาชื่ออาหนูนี้ในความทรงจำ พอได้ยินเขาเอ่ยถึงเมืองไพ่ จึงจะนึกขึ้นมาได้

“อ้อ ที่แท้ก็อาหนูนั่นเอง”

ฉีกงพูดขายผ้าเอาหน้ารอด แล้วเอ่ยถามตามประสา “จัดการให้นายไปเมืองไพ่ไม่ใช่เหรอ ? ทำไมจู่ ๆ กลับมาที่หลิ่งหนาน ล่ะ ?”

อาหนูยังคงคุกเข่าอยู่ด้วยความนอบน้อม และพูดอธิบายอย่างอดทน “อาจารย์ครับ อาหนูไม่กล้าพูดปด ที่กลับมาหลิ่งหนานเที่ยวนี้ ก็เพื่อปกป้องตัวเอง”

“ปกป้องตัวเอง ?”

“น่าขัน ! ใครช่างมีความสามารถใหญ่โตถึงขนาดนั้น ที่สามารถบีบให้นายปกป้องตัวเอง ?”

ฉีกงชะงักไปเล็กน้อย แม้ว่าเขาจำชื่อของอาหนูไม่ได้ กลับรู้ว่าเที่ยวนี้ที่ถูกเขาส่งไป เป็นยอดฝีมือที่ชำนาญในการใช้พิษกู่

ทอดสายตามองทั่วพื้นที่ภาคกลาง ที่สามารถบีบให้ปรมาจารย์กู่ถอยกลับบ้านเกิดเพื่อปกป้องตัวเองได้ เกรงว่ามีไม่กี่คนหรอก !

“อาหนูไม่กล้าปิดบังอาจารย์ครับ การเดินทางไปเมืองไพ่เที่ยวนี้ ผมได้หว่านหนอนพิษกู่ในหูของซูเหวินเฉิง ตามคำสั่งแล้วครับ”

“อืม การวางกู่ เดิมทีก็เป็นทักษะพื้นฐานของปรมาจารย์กู่อย่างเรา ๆ ประเด็นนี้ ไม่มีอะไรให้น่าโอ้อวด” ฉีกงเค้นเสียงหึอย่างเย็นชา

“ใช่ครับ ใช่” อาหนูก้มหน้าด้วยความหวาดกลัว “อาหนูไม่กล้าถือว่าเป็นความดีความชอบของตัวเองครับ หลังจากไล่กวดซูเหวินเฉิงออกจากเมืองไพ่ตามคำสั่ง ผมก็อยู่ต่อ เพื่อรอการเรียกหาของอาจารย์”

“แต่นึกไม่ถึงเลยว่า ผมกับกลุ่มสหายจะถูกดักซุ่มโจมตีกะทันหันในคืนเมื่อวาน”

“กวงโถวโดนคนคนนั้นตัดหัวขาดไปเลย สหายที่เหลือก็ได้รับบาดเจ็บกันหมดด้วยเหมือนกัน มีเพียงผมที่อาศัยวิชากู่ได้ จึงสามารถหนีออกมาได้”

“หึ ! ไอ้สวะไร้ประโยชน์ เป็นใครที่ใจกล้าถึงขนาดนั้น กล้าไปดักซุ่มโจมตีพวกนายที่เมืองไพ่ ?” ฉีกงพูดด้วยความเหยียดหยาม “อีกฝ่ายมีกี่คน ? สิบคนหรือว่าร้อยคน ?”

อาหนูกลับส่ายหน้า “ไม่ใช่ทั้งคู่ครับอาจารย์ อีกฝ่ายมีเพียงตัวคนเดียว”

“อะไรนะ ? !”

คราวนี้ ไม่เพียงแค่ฉีกงเท่านั้น แม้กระทั่งฉีเวยก็ตกใจยกใหญ่ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน

อีกฝ่ายมีเพียงคนเดียว กลับสามารถตัดหัวของกวงโถวขาดได้อย่างง่ายดาย ทำให้หลายสิบคนบาดเจ็บ บีบให้อาหนูวิ่งหนีเพื่อปกป้องตัวเอง

เป็นใครกันแน่ ที่มีพลังมากขนาดนี้ ?

คงจะไม่ได้เป็นฉินเทียนนั่นอีกหรอกนะ ?

ไม่ ไม่มีทาง !

อาหนูบอกว่าเป็นเรื่องเมื่อคืน แต่ฉินเทียนมาถึงหลิ่งหนานแล้ว ไม่มีเวลาไปเมืองไพ่เลยด้วยซ้ำ !

“รีบว่ามา คนนั้นเป็นใครกันแน่ !” ฉีกงจับคอเสื้อของอาหนูเอาไว้ แล้วถามอย่างเสื่อมทราม

อาหนูถูกทำให้ตกใจกลัวจนใบหน้าซีดเผือด “ไม่……ไม่ทราบว่าเขาชื่ออะไร รู้แค่ว่าเป็นชายวัยกลางคนผอม ๆ สูง ในมือถือดาบแหลมคมอยู่เล่มหนึ่งครับ”

“คนนั้นลึกลับซับซ้อน เราก็ไม่ได้สังเกตเลย กวงโถวก็โดนตัดหัวไปแล้ว !”

เหมือนนึกถึงฉากที่น่าหวาดกลัวเมื่อคืน อาหนูก็พูดด้วยตัวสั่นเทา “รอให้เรามาพบ สหายหลายคนก็ติดกับไปแล้ว”

“แต่ว่าอาจารย์วางใจได้ครับ แม้คนนั้นจะเก่งกาจมาก กลับโดนพิษกู่ของผมเข้าแล้ว ! ทนได้ไม่ถึงสามวัน จะต้องตายโหงแน่นอน !”

คราวนี้ฉีกงผลักอาหนูออก “หากคราวหน้าเกิดเรื่องพรรค์นี้ขึ้นอีก ให้ยอมรับผิดด้วยความตาย ! อย่าหนีกลับหลิ่งหนาน เดี๋ยวตระกูลฉีจะขายหน้าเอา !”

“ครับ ครับ……” อาหนูขานรับเบา ๆ คลานขึ้นมาแล้วหดตัวอยู่ในมุม เดี๋ยวชีวิตน้อย ๆ จะตายเอา

ฉีกงไล่อาหนูไป คราวนี้จึงจะมองฉีเวย “นายน้อย แม้ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนสังหารกวงโถว แต่จากมุมมองของผม จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับฉินเทียนอย่างแน่นอน !”

“ฉินเทียนที่ใจดำอำมหิตนั่น มีแต่แผนสกปรก บางทีเวลายิ่งนานอุปสรรคจะยิ่งมากตาม ให้เขามีชีวิตอยู่ถึงคืนนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด !”

หลังจากพวกเขาไป ในห้องโถงยังคงครึกครื้นมากอยู่ดี ยกเหล้าและพูดคุยกันอย่างรื่นเริง

ที่หลิ่งหนาน ตระกูลฉีก็คือพระเจ้า ก็คือกฎหมายที่ปกครองบ้านเมือง !

ฉินเทียนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง มาถึงเขตอิทธิพลของพวกเขา กลืนกินจนถึงเศษไม่ให้เหลือได้ง่าย ๆ เลยน่ะสิ !

ฉีเฟยกับอาหนูเดินเรียงแถวหน้าหลัง ตอนที่จะออกจากตระกูลฉี ฉีอวี่ตามมาหา “พี่ พี่จะไปฆ่าคนอีกแล้วเหรอ ?”

“ไร้สาระ !” ฉีเฟยถลึงตาใส่ฉีอวี่แวบหนึ่ง “อยากจะมีหน้ามีตา ก็ต้องกลายเป็นคนเหนือคน ! จะกลายเป็นคนเหนือคนยังไง ? นั่นก็คือการเหยียบหัวของคนอื่นขึ้นมาทีละก้าวทีละก้าวไง !”

“บนโลกนี้ก็คือผู้ที่อ่อนแอเป็นเนื้อสมันผู้แข็งแรงเป็นเสือสมิง ใครเขาจะยอมอ่อนข้อให้นาย !”

“ไป ไป ไป อย่าขวางหูขวางตาฉันอยู่ที่นี่ หากไม่ใช่ว่าพวกเขาหวาดกลัวฉัน นายคงตายไปไม่รู้กี่รอบนานแล้ว”

ฉีอวี่โดนด่าซะเละเทะเลย จึงปลุกความกล้ามองไปยังฉีเฟย “พี่ การสังหารและการสร้างกรรมมากเป็นสิ่งไม่ดี เราร่ำเรียนวิชากู่ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ฆ่าคนซะหน่อย”

“หรือว่าใช้มาช่วยคน ? ไอ้โง่อย่างแกเนี่ย ลืมจุดจบของตาเฒ่ากากที่ถ้ำหมื่นศพนั่นแล้วหรือไง !” ฉีเฟยถีบฉีอวี่ออกไป “ออกไป อย่าขวางทางฉัน ซวย !”

“อีกอย่างนะ ฉันขอเตือนนายไว้ เก็บจิตใจพระโพธิสัตว์นั่นของนายเอาไว้ วันนั้นนายแอบไปถ้ำหมื่นศพตามฉัน อย่านึกว่าฉันไม่เห็น”

“อยากมีชีวิตอยู่ แกล้งทำเป็นใบ้หูหนวกซะ ไม่อย่างนั้นเกิดเหตุเข้า ฉันปกป้องนายไม่ไหวเหมือนกัน !”

ว่าแล้ว ฉีเฟยถลึงตามองอาหนูอย่างโหดเหี้ยม “เมื่อกี้นายได้ยินอะไรบ้างไหม ?”

อาหนูตัวสั่นเทาไปทั้งตัว แล้วก้มหน้าอย่างเฉลียวฉลาด “กระผมไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นครับ และก็ไม่เห็นอะไรด้วยครับ”

“นับว่านายรู้จักเอาตัวรอด” ฉีเฟยเงยหน้าอย่างลำพองใจ แล้วมองฉีอวี่ “เห็นไหม นี่จึงจะเรียกว่าความสามารถ ! ขอเพียงนายมีอำนาจเพียงพอ จึงจะทำให้ทุกคนยอมศิโรราบนาย !”

“เรียนรู้หน่อย ไอ้โง่ ต้องมีสักวัน ที่นายต้องพึ่งพาตัวเอง”

พูดจบ ฉีเฟยบุ้ยปากให้อาหนู “เราไปกัน !”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด