สำหรับการท้าของฉีเวย ฉินเทียนไม่มีความกลัวใดๆ ยินดีที่จะไป
ยังไงซะการที่อยากจะให้สุนัขเชื่อฟังก็ขาดไม้พลองไปไม่ได้
มีเพียงแค่ตีจนพวกมันกลัว มันถึงจะส่ายหางร้องขอความสงสารอยู่ข้างเท้าคุณ!
ส่วนตระกูลฉีก็คือสุนัขร้ายตัวหนึ่งที่รุกล้ำเหิงหลิ่ง
คนของตระกูลฉีเดินออกจากบ้านตระกูลซูอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร นำทีมโดยฉีเวยที่มีสีหน้าแห่งชัยชนะ
ห้าผู้อาวุโสพิษทั้งสี่ด้านหลังก็มีรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า เห็นได้ชัดว่ามองฉินเทียนเป็นเหมือนคนตายไปแล้ว
คนที่เดินตามหลังห้าผู้อาวุโสพิษคือ36 ทัพฟ้าของตระกูลฉี ซึ่งตอนนี้เหลือเพียง 35 คน
หนึ่งในนั้นถูกจาปากัดจนเลือดอาบหัว บาดเจ็บสาหัสใกล้ตายที่บ้านหินตั้งนานแล้ว
ต่อมาสามารถฝืนช่วยชีวิตมาได้ แต่กลับกลายเป็นคนบ้า
แต่แม้ว่าจะมีเพียง 35 คน แต่แต่ละคนก็กำยำล่ำสันและดุร้าย
เมื่อเทียบกับตระกูลฉีที่โอ้อวดแสนยานุภาพ ทางฝั่งของฉินเทียนนั้นกลับดูอ่อนแอกว่ามาก
พวกเขารักษาระยะห่างจากตระกูลฉี ฉินเทียนที่เป็นผู้นำดูสงบมาก
หม่าหงเทาและชุยหมิงที่ตามหลังเขาโอบไหล่พูดคุยหัวเราะกันราวกับกำลังจะออกไปช้อปปิ้ง
มองยังไงก็ไม่เหมือนนัดกันไปสู้
เมื่อเทียบกับพวกทั้งสามคนของฉินเทียนที่ดูสบายอกสบายใจ ชาวบ้านทั้งเหิงหลิ่งทั้งหมดล้วนตกอกตกใจ
ในเหิงหลิ่ง มีใครที่ไม่รู้ความเก่งของตระกูลฉีบ้าง?
แม้แค่พูดถึงตระกูลฉีก็หน้าซีดแล้ว!
ตอนที่ตระกูลซูถูกคนตระกูลฉีมาหาถึงบ้าน เพื่อนบ้านรอบๆต่างแสดงความเสียใจกับตระกูลซูอย่างเงียบๆ
เพราะพวกเขารู้ว่าอีกไม่นานตระกูลซูจะถูกฆ่ากวาดล้างจนหมดสิ้น และหายไปจากเหิงหลิ่ง
สำหรับเคราะห์ร้ายที่ตระกูลซูประสบ แม้ว่าทุกคนจะแสดงความเห็นใจอย่างสุดซึ้ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ!
เพราะกลัวว่าจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย นำพาหายนะมาสู่ครอบครัว!
แม้จะไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่ความคึกคักนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องดู
ดังนั้นสองข้างทางจึงแน่นไปด้วยผู้คนที่มาชมความคึกคัก
เหล่าชายหญิงบางส่วนที่รู้ข้อเท็จจริงกลับชี้นิ้วออกมาจิ้มไปยังพวกฉินเทียนทั้งสามคน แล้วพูดคุยกันเสียงดัง
"ดูสิ นั่นลูกเขยตระกูลซู ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เขามาอยู่กับฝ่ายหญิง"
"จุ๊ๆๆ ในเมืองเล็กๆแบบเรา ใครๆก็รู้ว่าลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมันไม่ง่าย! ชายหนุ่มคนนี้ดูขาวสะอาด น่าเสียดายเหลือเกิน!"
"ใช่ หน้าตาดีมาก แค่ดูก็รู้ว่าใจดีใจกว้าง น่าเสียดายที่กระดูกไม่แข็งพอ ต่อให้ครอบครัวจะยากจนขนาดไหน เขาก็ไม่ควรจะแต่งเป็นลูกเขยที่มาอยู่บ้านฝ่ายหญิงนี่!"
"น่าสงสารเนอะ ตระกูลซูไปหาเรื่องให้ตระกูลฉีโกรธ แล้วผลักไสลูกเขยที่มาอยู่กับฝ่ายหญิงของตนไปรับโทษ น่าขายหน้าจริงๆ!"
เหล่าฝูงชนยิ่งคุยก็ยิ่งโกรธ เห็นพ้องต้องกันว่าตระกูลซูไม่ได้เรื่อง
แต่ก็แค่พูดกันเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นตระกูลซูหรือตระกูลฉี คนธรรมดาอย่างพวกเขาก็ไม่สามารถไปทำให้ขุ่นเคืองได้
กลุ่มคนตระกูลฉีเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ในขณะที่เหล่าเพื่อนบ้านก็เดินตามฉินเทียนอย่างระมัดระวัง แต่ละคนล้วนแสดงสีหน้าเห็นใจ
สำหรับความคิดเห็นของทุกคนนั้น ฉินเทียนที่หูตาไวย่อมได้ยินอย่างชัดเจน
ในใจเขาไม่เพียงไม่รู้สึกโกรธแม้เพียงนิด แต่กลับอยากจะหัวเราะด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็ล้วนไม่ขาดคนที่ว่างเอาแต่พูดเรื่องการต่อสู้กับความอยุติธรรม
แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ต่อสู้กับตระกูลฉีให้เห็นชัดกันไปเลย เขาจะได้เชือดไก่ให้ลิงดูพอดี!
ไม่แน่ว่าคนที่รุมล้อมท่ามกลางฝูงชนอาจมีสายตาจากตระกูลใหญ่ๆ
ตระกูลเซี่ยทางตอนเหนือ เกาะหวังแห่งตงไห่ อาจมีแม้กระทั่งสายลับตระกูลฉินของพวกเขา!
ไม่นานกลุ่มคนก็มาถึงป่าไผ่นอกเหิงหลิ่ง
หางแถวที่ตามมาล้วนเป็นลุงป้าที่ว่างของเหิงหลิ่ง
ฉีเวยโบกมือให้36 ทัพฟ้าข้างหลัง พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า "บอกพวกคนแก่เหล่านี้ว่า ถ้าไม่กลัวตาย ก็ให้อยู่ดู"
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา บรรดาผู้ชมที่หวงแหนชีวิตยิ่งกว่าใครก็กระจัดกระจายหนีไปทันที
เหล่าคนที่ยังลังเลที่จะทิ้งโอกาสรอดูความสนุก ก็ถอยออกไปห่างๆ ปีนต้นไม้มองดูจากข้างบน
ฉินเทียนเลิกคิ้วยิ้มบางๆแล้วส่งข้อความออกไป
ฉีเวยไม่พอใจกับสิ่งนี้เป็นอย่างมาก "ฉินเทียน แกกำลังจะตายที่นี่แล้ว ยังมีอารมณ์เล่นโทรศัพท์อยู่อีก?"
"รีบอาศัยใช้เวลาว่างนี้จัดการเรื่องงานศพของตัวเองซะเถอะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...