เพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำให้ฉีเฟยคาดไม่ถึงเลยนั่นก็คือคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้คือฉินเทียน!
ฉินเทียนเป็นคนที่เขาอยากฆ่ามาโดยตลอด แม้ว่าจะต้องใช้วิธีการลอบโจมตีอย่างไรก็ตาม!
และที่สำคัญที่สุด เมื่อเข็มเงินของฉินเทียนทิ่มแทงลงบนร่างกายของเขา เขาสามารถฟื้นพละกำลังได้อย่างน่าอัศจรรย์!
ขณะนี้ ฉีเฟยจ้องมองฉินเทียนด้วยสายตาซับซ้อนเป็นอย่างมาก
เขาไม่รู้ว่าจะต้องมีจิตใจกว้างขวางมากมายขนาดไหนถึงทำให้ฉินเทียนยินดีช่วยเหลือศัตรูที่พยายามจะสังหารเขาหลายต่อหลายครั้ง!
ท้ายที่สุดฉินเทียนก็กระทำการยึดมั่นในหลักศีลธรรม ช่วยเหลือคนโดยไม่แยกแยะว่าเป็นศัตรู
หรือด้วยพละกำลังแข็งแกร่งของฉินเทียน ตัวเขานั้นไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลย?
เมื่อเผชิญกับความสงสัยของฉีเฟย ฉินเทียนพลันหัวเราะเย้ยหยัน “ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก ฉันเพียงแค่ช่วยยืดอายุขัยนายก็เท่านั้น”
“เท่ากับการกระตุ้นความสามารถทั้งหมดของนาย สามารถทำให้นายพัฒนาความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของนายจนไม่อาจแก้ไขสิ่งใดได้”
“ต่อให้นายจะพยายามยืนหยัด อย่างไรก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้เกินสามวัน”
“จะเสียเวลาพูดไร้สาระกับเขาไปทำไม!”
เถิงจู้กระโดดเข้ามา ใช้เท้าข้างหนึ่งเตะฉีเฟยลอยกระเด็น จากนั้นยกเท้าเหยียบลงบนบริเวณหัวใจของเขา เอ่ยถามด้วยท่าทางเหี้ยมโหด “รีบพูดมา นายเอาปิ่นปักผมกระดูกของปู่ฉันมาจากที่ไหนกันแน่?”
“ตอนนี้เขาถูกกักขังอยู่ใช่หรือไม่? โอ้! มีความเป็นไปได้สูงว่าตอนนี้เขาอาจจะถูกขังอยู่ภายในบ้านตระกูลฉีของนาย!”
“ฉันก็ว่าอยู่ ทำไมฉันและพี่เหยาออกเดินทางตามหาไปทั่วทั้งหลิ่งหนานแต่กลับไม่พบที่อยู่ของคุณปู่เลย ที่แท้ตระกูลฉีนั้นซ่อนตัวของเขาเอาไว้”
“ตระกูลฉีไร้ยางอาย รีบปล่อยคุณปู่ของฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะจุดไฟเผาซ่องโจรของพวกนายให้วอดวาย!”
เถิงจู้โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก เอ่ยปากสบถและก่นด่าเสียงดังลั่น
ฉีเวยที่อยู่ด้านข้างโกรธมากจนใบหน้าเขียวคล้ำ “หุบปาก! นังเด็กปากดี กล้าดีอย่างไรถึงได้สร้างความอัปยศอดสูให้แก่ตระกูลฉีของพวกเรา?!”
“ไม่ต้องกล่าวว่าพวกเรานั้นพบเจอกู่เซียนอะไรนั้นหรือไม่ ต่อให้พบเจอ เมื่อเขาอยู่ต่อหน้าพวกเราตระกูลฉี อย่างไรก็คงไม่กล้าแสดงท่าทางจองหองอวดดีเช่นนี้!”
“ฉีเฟย ในเมื่อนายฟื้นคืนพลังแล้วก็รีบลงมือเสียเถอะ สังหารคนพวกนี้ให้หมด!”
ด้วยเสียงร้องตะโกนของฉีเวย เพียงเสี้ยววินาทีเถิงจู้มีเป้าหมายในทันใด
“ดูจากท่าทางสามหาวของนาย นายคงเป็นผู้ที่มีอิทธิพลแห่งตระกูลฉี กระทั่งฉันจับตัวนายได้ก็คงจะสอบถามข้อมูลที่อยู่ของปู่ได้งั้นสินะ?”
ขณะกล่าว เถิงจู้ไม่ได้ให้ความสนใจกับฉีเฟยอีก เธอหันกลับไปและพุ่งเข้าไปหาฉีเวย
ดวงตาของเธอเฉียบคม เธอยังก้าวเดินไปไม่ถึงข้างกายของฉีเวย ฝูงหนอนเจาะที่มีลักษณะควันเขียวและฝูงงูต่างก็ขับเคลื่อนและไล่ต้อนฉีเวย!
ฉีเวยรู้ดีว่าหนอนเจาะนั้นทรงพลังมากเพียงใด เขาไม่สนใจฉีเฟยอีกต่อไป เขาหันหลังกลับและวิ่งหนี
เถิงจู้เห็นว่าเขานั้นเป็นเป้าหมาย หนีอย่างไรก็หนีไม่พ้นหรอก!
ในไม่ช้า ทั้งสองก็วิ่งออกไปไกลหลายสิบเมตร วิ่งออกไปจนเกือบจะพ้นสายตาของทุกคน
ฉินเทียนจ้องมองเถิงจู้ที่วิ่งออกไปไกล ฉับพลันเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาตะโกนเสียงดังลั่น “รีบกลับมา อย่าตกหลุมพรางของฉีเวย!”
ด้วยทักษะความสามารถของฉีเวย เป็นไปไม่ได้ที่กระบวนท่าของเขานั้นจะไร้ประโยชน์และวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้
เกรงว่าพวกเขาแอบลอบวางกับดักและล่อลวงให้เถิงจู้วิ่งเข้าไปภายในกับดัก!
คำเตือนของฉินเทียนนั้นไม่ได้ทำให้ฝีเท้าของเถิงจู้เชื่องช้าลงเลยแม้แต่น้อย
เธอหันศีรษะกลับไปและจ้องมองฉินเทียน “คุณยุ่งอะไรด้วย! เขาจะไปมีกับดักอะไรได้!”
ขณะที่เสียงของเธอยังไม่สิ้นสุดลง ใบไม้หลากสีสันภายในป่าไผ่พลันร่วงโรย ฉับพลันเกิดลมกรรโชกบนพื้นที่ราบเรียบ!
ลมพายุหลายลูกพุ่งขึ้นจากพื้นดินพุ่งตรงสู่ท้องฟ้า!
ลมพายุลูกหนึ่งพุ่งเข้าหาเถิงจู้ด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด!
แม้ว่าปากของเถิงจู้นั้นจะเอ่ยคำพูดไม่เคารพต่อฉินเทียน ทว่าภายในใจกลับลอบเพิ่มความระแวดระวัง
เมื่อได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้น พลันกระโดดขึ้นจากพื้น ขณะที่ใบไม้ร่วงหล่นก็หลบเลี่ยงจากอันตรายออกไปได้อย่างปลอดภัย
เมื่อเถิงจู้ยืนหยัดอยู่บนพื้นได้อย่างมั่นคง เธอหันกลับไปมองดูสิ่งที่เพิ่งโจมตีตนเองเมื่อสักครู่ ใบไม้เหล่านั้นอยู่ที่ใดกัน? กลับกลายเป็นคนที่มีลักษณะร่างกายผิดรูป!
คนเหล่านั้นไร้ซึ่งสีหน้าใด เป็นเสมือนหุ่นเชิดไร้วิญญาณ
สิ่งที่แปลกประหลาดมากที่สุดก็คือคนเหล่านั้นไม่มีแขน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...