บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 1064

พริบตาสถานการณ์กลับตาลปัตร!

ทุกคนนิ่งงันและตกตะลึง!

ต่างก็ก้าวเท้าไปด้านหน้าล้อมรอบฉีเวยและเถิงจู้

ชะนีขาวที่มีชื่อว่าพี่เหยา ทุบหน้าอกและกระทืบเท้าอย่างรุนแรง แทบรอไม่ไหวที่จะฉีกเนื้อฉีเวยออกเป็นชิ้นๆ

“ถอยไป! ฉันบอกให้พวกนายถอยออกไป! ไม่อย่างนั้นวันนี้หล่อนจะต้องตาย!” ฉีเวยตั้งใจหลอกล่อให้เถิงจู้เข้าใกล้ หยิบมีดปลายปืนเหล็กสามเหลี่ยมออกมาและจับเถิงจู้เป็นตัวประกัน ออกคำสั่งให้ทุกคนถอยออกไป

ขณะที่ฉีเวยกล่าว เขาออกแรงกดมีดเหล็กสามเหลี่ยมที่อยู่ภายในมือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ลำคออันบอบบางของเถิงจู้ พลันปรากฏรอยเลือดออกมา!

เลือดสีแดงสดรินไหลลงมาทันใด ในเวลาอันรวดเร็วมีดปลายปืนเหล็กสามเหลี่ยมที่อยู่ภายในมือของฉีเวยก็ถูกย้อมด้วยเลือดและกลายเป็นสีแดง

เถิงจู้นั้นเก่งกาจมาก ตั้งแต่แรกเริ่มกระทั่งตอนนี้ หล่อนไม่ส่งเสียงร้องออกมาเลยสักแอะ!

เมื่อเห็นเถิงจู้ได้รับบาดเจ็บ ชะนีขาวก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เงยหน้าขึ้นและร้องตะโกนเสียงดัง

แม้ว่ามันจะต้องการบดขยี้ฉีเวยให้ตายในตอนนี้ แต่กลับไม่กล้าเข้าไปใกล้เพราะว่าเขาได้จับเถิงจู้ไว้เป็นตัวประกัน

“ไอ้สัตว์ประหลาดตัวขาว แกก็รู้จักเอาตัวรอดนี่!”

ฉีเวยพ่นลมหายใจอย่างเยือกเย็น มือขวาจับแขนของเถิงจู้ไว้แน่นและเตรียมที่จะออกไปจากป่าไผ่ “รีบไปเร็ว! อย่าคิดจะเล่นตุกติก ไม่งั้นเธอตายแน่!”

เถิงจู้โกรธมาก ใบหน้าขนาดเล็กนั้นซีดเผือด ด้วยอารมณ์ดื้อรั้น ไม่ว่าฉีเวยจะเร่งเร้าอย่างไร เธอก็ไม่ยินยอมที่จะจากไป!

ฉีเวยรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก “สาวน้อย เธอคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าเธองั้นเหรอ?!”

“จะบอกเธอให้นะ มีวิญญาณตายมากมายที่ตายภายใต้มีดปลายปืนเหล็กสามเหลี่ยมของฉัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นเลือด!”

กล่าวด้วยท่าทีไม่เจตนา เมื่อได้รับฟังกลับรู้สึกได้ถึงความตั้งใจ

เดิมทีฉีเฟยนั้นชื่นชมต่อการโจมตีอย่างกะทันหันของฉีเวย แต่เมื่อได้รับฟังคำพูดนี้ของฉีเวย แสงประหลาดก็ส่องประกายในดวงตาของเขา จากนั้นดวงตาของเขาจับจ้องไปยังมีดปลายปืนเหล็กสามเหลี่ยมที่กำลังจ่ออยู่ตรงลำคอของเถิงจู้!

ขนาดและรูปร่างของมีดนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเหมือนกับขนาดบาดแผลบนร่างกายของฉีอวี่น้องชายของเขาที่ตายจากไปอย่างไม่ยุติธรรม!

ฉีเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่งและตะโกนใส่ฉินเทียน “ฉินเทียน นายก็แค่สิ่งของน่ารังเกียจและไร้ยางอาย ที่แท้ก็ซ่อนมีดสามเหลี่ยมเอาไว้!”

“วันนี้ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะต้องล้างแค้นให้กับน้องชายของฉัน!”

ฉับพลันฉีเฟยแผดเสียงคำรามดังก้องทำให้ฉีเวยชะงักงัน จากนั้นเบือนศีรษะมองไปโดยไม่รู้ตัว

เห็นเพียงว่าฉีเฟยใช้แขนขวา เขากำหมัดและพุ่งเข้าไปหาฉินเทียนอย่างเหี้ยมโหด!

กำปั้นเปล่าไร้อาวุธ จู่โจมอย่างกะทันหันไม่อาจต้านทานได้!

เมื่อมองดูแล้วกล้าหาญเป็นอย่างมาก!

แต่ทว่า ฉีเฟยยังไม่ทันจะพุ่งตัวเข้าหาฉินเทียน เขาถูกเตะและลอยออกไป!

เหมือนกับว่าวที่สายป่านขาด จากนั้นเขาล้มลงไม่ไกลจากจุดที่ฉีเวยยืนอยู่

“ฉันฉินเทียนหากอยากจะสังหารใครไม่จำเป็นจะต้องใช้อาวุธ”

“เพียงแค่แขนข้างหนึ่งและขาข้างหนึ่งก็สามารถสังหารชีวิตของนายได้!”

แรงเตะฉีเฟยเมื่อครู่นี้นั้นไม่เบาเลย เพียงเสี้ยววินาทีจมูกของเขาพลันมีเลือดไหล

แต่อย่างไรก็ตามเขาเพิ่งได้รับการช่วยเหลือจากฉินเทียน หลังจากพยายามลุกขึ้นจากพื้น เขาพุ่งตัวเข้ามาอีกครั้ง!

“ไอ้สารเลว! ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!”

“นายฆ่าน้องชายฉัน เลือดก็ต้องชดใช้ด้วยเลือด!”

ใบหน้าของฉีเฟยเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ฉีเวยจ้องมองอย่างไม่แยแสและพ่นลมหายใจอย่างเยือกเย็น

ก็แค่คนโง่!

ขณะที่เขากำลังเหม่อลอย ฉินเทียนสะบัดมือขวาของเขา!

ฟุ่บ!

ใบไผ่พุ่งเข้าหาฉีเวยราวกับศรแหลมคม!

ด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันทะลุผ่านมือขวาของเขา

“อ๊าก!”

ฉีเวยร้องออกมาอย่างเจ็บปวด มีดปลายปืนเหล็กสามเหลี่ยมที่อยู่ภายในมือพลันร่วงหล่นลงสู่พื้นและเกิดเสียงสะท้อนที่คมชัด

“สิ่งที่ผู้อาวุโสทั้งสี่พูดนั้นสมเหตุสมผลมาก มีความเป็นไปได้สูงที่น่าจะเป็นความจริงของเรื่องนี้”

ฉินเทียนพยักหน้าอย่างหนัก คิดว่าการคาดเดาของผู้อาวุโสทั้งสี่คนนั้นถูกต้อง

ฝ่าเท้าของเขานั้นออกแรงเพิ่มเล็กน้อย เพิ่มแรงเหยียบทำให้ฉีเวยกระอักออกมาเป็นเลือด จากนั้นเอ่ยอย่างเย็นชา “กลับไปบอกฉีเซิ่ง ล้างศีรษะของเขาไว้ให้ดี รอฉันไปบั่นศีรษะของเขาได้เลย”

“ภายใต้คำสั่งบัญชาพญายม ไม่มีใครสามารถรอดพ้นไปได้!”

“อย่างไรก็ตาม หากเขาเต็มใจส่งตัวกู่เซียนคืนมา ฉันสามารถพิจารณาทำให้เขาตายจากไปด้วยความทรมานเพียงเล็กน้อย”

คำพูดของฉินเทียนเผด็จการเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสรอดชีวิต

ดวงตาของฉีเวยปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ทว่าเขานั้นไร้เรี่ยวแรง ทำได้เพียงแค่กัดฟันแน่น

“ทำไม ไม่ยอมงั้นเหรอ?”

ฉินเทียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “หากต้องการทวงคืนชัยชนะ ประการแรก นายจะต้องมีพละกำลังที่แข็งแกร่งมากพอ!”

“เช่นนั้นก็เรียกฉีเฟยประคับประคองคุณชายของนายกลับไป นำสารนี้กลับไปบอกเขาด้วย”

“ไม่อย่างนั้น พรุ่งนี้ช่วงเที่ยงจะเป็นเวลาตายของฉีเซิ่งและลูกชายของเขา!”

“อ้อ ฉันรีบร้อนพูดจนเกินไป ต้องกล่าวว่าเป็นวันฝังศพตระกูลฉีของพวกนาย!”

เมื่อกล่าวจบ ฉินเทียนก็ยกเท้าขึ้นและเตะฉีเวยกระเด็นออกไป

การเตะนี้ช่ำชองเป็นอย่างมาก ฉีเวยกระเด็นและนอนหงายลงบนพื้น จากนั้นเสียงกระดูกแขนทั้งสองข้างหักก็ดังขึ้น

“เพื่อฝึกฝนมนุษย์กู่ นายตัดแขนของพวกเขาออกไปอย่างโหดเหี้ยม ตอนนี้ฉันได้ทำให้แขนของนายพิการแล้ว นั่นคือสิ่งที่นายสมควรได้รับ!”

“ตอนนี้ฉันจะพูดอีกรอบ หากนายมีความสามารถ นายสามารถมาแก้แค้นฉันฉินเทียนได้เสมอ!”

ฉีเวยขดตัวแน่นด้วยความเจ็บปวด เขาเกลียดฉินเทียนเข้ากระดูกดำ แต่กลับรู้ดีว่าตนเองนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

ความอัปยศอดสูในวันนี้ เมื่อเขากลับไปยังตระกูลฉี เขาจะต้องเอาคืนเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน!

ฉีเวยขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จากนั้นเอ่ยประโยคหนึ่งออกมา “ฉีเฟย พวกเรากลับ!”

กางเกงแบบเปิดเป้า[1] หมายถึง กางเกงแบบเปิดเป้าที่ทารกสวมใส่ ทารกจะสวมกางเกงแบบเป้าเพื่อให้ทารกสามารถฉี่และถ่ายอุจจาระได้ง่าย ชาวจีนนิยมใส่กางเกงเปิดเป้าให้กับทารกจนกลายเป็นนิสัยและธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาช้านาน