บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 1076

สรุปบท บทที่ 1076 กลายเป็นผีเสื้อ: บัญชามังกรเดือด

สรุปเนื้อหา บทที่ 1076 กลายเป็นผีเสื้อ – บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน

บท บทที่ 1076 กลายเป็นผีเสื้อ ของ บัญชามังกรเดือด ในหมวดนิยายแฟนตาซี เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย สวรรค์ไร้เทียมทาน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เถิงจู้นั้นได้ลูบปิ่นปักผมกระดูกในมือของเธอ ก่อนที่น้ำตาแทบจะหลั่งไหลออกมา

“ปิ่นปักผมกระดูกอันนี้ ไม่เคยออกห่างจากตัวของคุณปู่ฉันเลย และเคยสอนฉันมาตั้งแต่เด็กเลยว่า ให้ใช้ชีวิตคอยปกป้องเจ้าสิ่งนี้เอาไว้”

“ถ้าหากว่าวันไหนฉันพบว่าของสิ่งนี้ออกมาปรากฏอย่างโดดเดี่ยว ก็แสดงว่า ได้เกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ฉัน”

“ฉันก็ไม่รู้ว่าไอเจ้าที่มีชื่อว่าฉีเฟยนั่น ได้โผล่มาจากไหนแล้วมาแย่งปิ่นปักผมกระดูกนั้นมาจากไหน”

“แต่ว่าเจ้าบ้านของตระกูลฉีนั้นกลับเองว่า อยากจะให้ฉันเอาของสิ่งนี้ไปแลกกับตัวของคุณปู่ งั้นก็หมายความว่า สถานการณ์นั้นอาจจะดีกว่าที่ฉันคิดเอาไว้หน่อยนึง”

“อย่างน้อย คุณปู่ของฉันน่าจะย้งมีชีวิตอยู่”

“ก็แค่ปิ่นปักผมกระดูกอันเดียวเท่านั้น สำหรับฉันแล้วมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย และไม่ได้สำคัญเท่ากับความปลอดภัยของคุณปู่สะอีก”

เมื่อเอ่ยแล้วเถิงจู้นั้นก็ได้แอบเช็ดน้ำตาที่มุมหางตา ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาชะนีขาวที่นั่งอยู่ตรงชายหลังคา ก่อนที่จะเอ่ยตะโกน “พี่เหยา พวกเราไปกันเถอะ!”

ชะนีขาวนั้นหันหลัง ก่อนที่จะลงมาที่ด้านหน้าของเถิงจู้

ก่อนที่จะมองไปที่เถิงจู้ด้วยสายตาที่กลมโต พร้อมด้วยความสงสัย ราวกับว่ากำลังถามเธออย่างไม่มีเสียง ว่ากำลังจะไปที่ไหนกัน

ในมือของเถิงจู้ได้ถือปิ่นปักผมกระดูกเอาไว้ ก่อนที่จะเอ่ยตอบชะนีขาวไป “พี่เหยา เจ้าจะต้องรู้จักปิ่นปักผมกระดูกอันนี้อย่างแน่นอน”

“ตอนนี้เจ้าบ้านตระกูลฉีได้เอ่ยไว้แล้ว ว่าเพียงแค่ยอมแลกเอาปิ่นปักผมกระดูกอันนี้ให้เขา เขานั้นจะปล่อยคุณปู่มาให้”

“ตอนนี้พวกเราก็ไปที่ตระกูลฉีกันเถอะ แล้วเอาปิ่นปักผมกระดูกแลกออกไป เพื่อที่จะได้ไปรับคุณปู่กลับบ้านกัน!”

ชะนีขาวเมื่อได้ยินคำพูดของเถิงจู้ มันไม่ได้ลังเลแต่อย่างใดก่อนที่จะพยักหน้า แล้วเข้าไปจับกุมมือของเถิงจู้เอาไว้ และไม่หยุดที่จะส่ายหัว

ก่อนที่สีหน้าของเถิงจู้จะเปลี่ยนไปเป็นไม่ค่อยสบายใจแล้วเอ่ย “พี่เหยา?เจ้า เจ้าไม่อยากที่จะไปช่วยคุณปู่กับฉันงั้นหรอ?”

“ช่างเถอะ งั้นฉันก็จะไม่บังคับเจ้าก็แล้วกัน ปู่ของฉัน ฉันช่วยเองก็ได้!”

หลายปีมานี้นั้น เถิงจู้และชะนีขาวสามารถเอ่ยได้เลยว่าต่างก็พึ่งพาอาศัยกันและกัน

หากไม่ใช่เพราะได้ชะนีขาวนั้นดูแล เธอในตอนเล็กๆนั้น อาจจะต้องถูกฝังเอาไว้บนภูเขาตั้งนานแล้ว แล้วกลายเป็นอาหารของสัตว์ป่าแน่

ตอนนี้คุณปู่นั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย เธอนั้นจะไม่สามารถที่จะเห็นแก่ตัวได้ แล้วบังคับให้ชะนีขาวนั้นเห็นยินยอมและร่วมทางไปกับตน

เธอนั้นไม่กลัวหรอกว่าที่ตระกูลฉีนั้นจะเป็นสถานที่ที่น่ากลัวหรือไม่ วันนี้เธอนั้นจะต้องบุกเข้าไป แล้วช่วยเหลือเอาตัวคุณลุงนั้นกลับมาให้!

ก่อนที่ภายในดวงตาของเถิงจู้นั้นจะมีสีแดง และรีบมุ่งไปยังที่ตระกูลฉี แต่ทว่าชะนีขาวนั้นได้เข้ามาหยุดห้ามเอาไว้

“พี่เหยา หลบไปสิ อย่ามาขวางทางของฉันนะ!”

เถิงจู้ตอนนี้ที่เหมือนอยากจะร้องไห้นั้นเอ่ย “ฉันรู้ดีว่าเจ้านั้นเป็นกังวลในเรื่องความปลอดภัยของฉัน เลยไม่อยากให้ฉันไป แต่ว่าตอนนี้คุณปู่นั้นกำลังตกอยู่ในอันตรายนะ ฉันจะไม่สนใจก็ไม่ได้หรอกนะ!”

“ขอร้องล่ะพี่เหยา เจ้าหลบไปได้ไหม?ยี่สิบกว่าปีแล้วนะที่ฉันนั้นไม่ได้พบเจอกับคุณปู่ ฉันคิดถึงคุณปู่ อยากจะเจอคุณปู่มากๆเลยนะ”

“หลบไปสิพี่เหยา ฉันขอร้องล่ะ ไม่กลัวหรอกหากว่าจะต้องตายที่ตระกูลฉี ฉันนั้นก็อยากที่จะต้องตายร่วมด้วยไปกับคุณปู่!”

หลังจากนั้นไม่ว่าเถิงจู้จะเอ่ยอย่างไง แต่ว่าชะนีขาวนั้นก็ยังไม่ยอมหลีกทางให้

เถิงจู้เดินไปทางซ้าย มันนั้นก็ไปทางซ้ายเหมือนกัน

เถิงจู้นั้นเดินไปทางขวา มันนั้นก็เดินอ้อมไปด้านหลัง

ไม่ว่าเถิงจู้นั้นจะเดินไปยังทิศทางไหน เขานั้นก็ไม่เว้นให้แม้แต่นิดเดียว และเดินตามฝีเท้าของเถิงจู้

หม่าหงเทาและชุยหมิงนั้นมองไปด้วยสีหน้าที่งุนงงแล้วเอ่ย “แปลกมากนะ พอฟังในความหมายของเถิงจู้แล้ว เจ้าชะนีขาวนั้นน่าจะถูกกู่เซียนเลี้ยงมาจนโตนะ แล้วทำไมถึงไม่ยอมไปช่วยกู่เซียนล่ะ อีกทั้งยังพยายามห้ามเถิงจู้อีกด้วย และไม่อยากให้เธอนั้นไปช่วยเหลือกันล่ะ ?”

“ไม่เข้าใจเลยจริงๆนะเนี่ย แท้จริงแล้วชะนีขาวนั้นเก่งกาจจะตาย อีกทั้งวิชากู่นั้นยังไม่เลวอีกด้วย หรือว่า บ้านของตระกูลฉีนั้นอันตรายกัน ที่เข้าไปแล้วจะออกมาแบบมีชีวิตไม่ได้หรือไงกัน?”

ทั้งสองคนนั้นได้เอ่ยสนทนากันเสียงไม่ดังมากนัก แต่ว่าทุกคำนั้นได้เข้าหูของเถิงจู้ทั้งหมด

เธอนั้นจ้องมองไปที่ทั้งสองคนก่อนที่จะเอ่ย “ฉันไม่อนุญาตให้พวกคุณมาเอ่ยว่าร้ายใส่พี่เหยาหรอกนะ พวกเรานั้นเหมือนคนร่วมเป็นร่วมตายกันมาตั้งหลายปี พี่เหยานั้นไม่เคยกลัวอะไรมาก่อนทั้งนั้นแหละ”

“ที่พี่เหยาห้ามฉัน เพราะไม่อยากให้ฉันนั้นตกอยู่ในอันตรายนะสิ”

“แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วในสายตาของพี่เหยานั้น สถานที่ที่จะสามารถขังคุณปู่เอาไว้ได้นั้น จะต้องน่ากลัวและอันตรายแน่นอน พี่เหยาเลย ……”

คำพูดของเถิงจู้นั้นไม่ทันที่จะเอ่ยจบ ฉินเทียนนั้นกลับส่ายหัว ก่อนที่จะเอ่ยเบาๆ “พวกคุณคิดผิดแล้วล่ะ ฉันคิดว่า ที่พี่เหยามาขวางเถิงจู้เอาไว้นั้น แน่นอนว่าจะต้องมีเรื่องที่สำคัญอยากที่จะเอ่ยออกมาอย่างแน่นอน”

ที่แท้ จากด้านหลังของชะนีขาว ฉินเทียนนั้นได้สังเกตเห็น ว่ามันนั้นไม่หยุดที่จะตัวสั่น ราวกับว่าอยากที่จะเอ่ยอะไรกับ

แต่ว่าภายในใจของเถิงจู้ นั้นเต็มไปด้วยความอยากที่จะช่วยคุณปู่เอาไว้ และไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งเล็กๆน้อยๆพวกนี้

สีเงาที่เงาวับ และเปล่งประกายออกมา!

ที่เหมือนกับได้ใช้เงินบริสุทธิ์นั้นสร้างออกมา และเป็นงานศิลปะที่สวยเป็นอย่างมาก !

ตั้งแต่มาที่เมืองเหิงหลิ่งนั้นที่เต็มไปด้วยหนอน ฉินเทียนนั้นและพวกเขานั้นก็มองเห็นหนอนมาไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ว่าไม่ว่าจะชนิดไหนนั้น ก็ได้มีรูปร่างที่ไม่ได้น่าเกลียดเลยสักนิด

เพราะเหตุนี้ เขานั้นยังมีความคิดว่า หนอนทั้งหมดนั้น ต่างก็น่าเกลียดอีกทั้งยังมีพิษเยอะมากๆสะด้วย  !

แต่ว่าไม่มีตัวไหน ที่จะมาเปรียบเทียบกับตัวที่อยู่บนปิ่นปักผมกระดูกได้ ที่เพิ่งออกมา แล้วกลายเป็น!

แม้แต่เถิงจู้นั้นก็เหมือนจะไม่เคยเจอแมลงที่สวยงามเช่นนี้มาก่อน ที่สายตานั้นยิ่งมองยิ่งแปลกใจ ก่อนที่จะเป่าเป็นจังหวะที่ยิ่งเป่าก็ยิ่งดังขึ้น

และในช่วงจังหวะทำนองที่ไพเราะนั้นเอง ในที่สุดปีกของผีเสื้อสีเงินนั้นก็ได้แห้งสนิท

ร่างกายลำตัวก็เหมือนกัน ที่ตอนนี้ได้มีสีเงินเปล่งประกายสะท้อนดวงตาเหมือนกัน!

ตอนที่ผีเสื้อสีเงินนั้นกางปีกออกมา ก่อนที่จะบินไปรอบๆของปิ่นปักผมกระดูก แล้วก่อนที่จะค่อยๆลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

ฉินเทียนมองไปที่เถิงจู้แล้วเอ่ยว่า“ผีเสื้อสีเงินตัวนั้น เหมือนกับว่าอยากพาพวกเราไปที่ไหนสักแห่งนึงนะ ”

เถิงจู้ทันใดนั้นก็ได้เบิกตากว้าง “ฉันคิดออกแล้วล่ะ!ในตอนเด็กคุณปู่ของฉันนั้นเคยบอกว่า ได้มีผีเสื้อสีเงินตัวหนึ่ง จะพาพวกเราไปยังที่ซ่อนสมบัติ ”

“มันก็คือผีเสื้อสีเงินตัวนี้นั่นเอง! ฉันคิดมาตลอดเลยนะว่านั่นจะเป็นแค่นิทานก่อนนอน ไม่คิดว่ามันจะเป็นจริง!”

“ผีเสื้อสีเงิน เจ้าอยากจะพาฉันไปที่ไหนกัน? ฉันจะไปกับเจ้าเอง!”

และผีเสื้อสีเงินที่กระพือปีกออกมานั้น ราวกับว่าเข้าในใจความหมายของเถิงจู้ ก่อนที่จะค่อยๆบินไปที่ด้านหน้า

ส่วนเถิงจู้และชะนีขาวต่างก็รีบตามไปติดๆ

ฉินเทียนคิดไปแล้วก่อนที่จะตามไปด้วยเหมือนกัน

และพวกตระกูลฉีที่แทบจะรอเอาปิ่นปักผมกระดูกอันนี้ และเพื่อความปลอดภัยในการพบเจอกัน เขานั้นมีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบคุ้มกันความปลอดภัยให้กับเถิงจู้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด