สรุปตอน บทที่ 1077 จะต้องรอฉันกลับมาให้ได้ – จากเรื่อง บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน
ตอน บทที่ 1077 จะต้องรอฉันกลับมาให้ได้ ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง บัญชามังกรเดือด โดยนักเขียน สวรรค์ไร้เทียมทาน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
หม่าหงเทานั้นลังเลอยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปเอ่ยถามที่ด้านหลัง“พี่เทียน จะให้พวกเรานั้นติดตามไปไหม?”
ไม่รอให้ฉินเทียนนั้นได้ตอบกลับ ชุยหมิงนั้นก็ได้ไปจับหัวของหม่าหงเทาไว้แล้วเอ่ย“มีพี่เทียนอยู่ ยังจะต้องจำเป็นที่จะมาใช้พวกเราอีกหรอ?ไปไปกันเถอะ พวกเรานั้นควรจะไปหาอะไรทำกันนะ !”
ชุยหมิงนั้นที่เหมือนจะรู้เยอะกว่าหม่าหงเทา เขานั้นมองออกตั้งนานแล้วว่า ยัยบ้าเถิงจู้นั่นแอบชอบฉินเทียนเอาส่ะมากๆ
และเป็นการแอบชอบที่ได้หลบซ่อนเก้บเอาไว้
ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าฉินเทียนนั้นได้มีซูซูแล้ว แต่ว่าผู้ชายไหมล่ะ หากมีเพื่อนเป็นผู้หญิงเพิ่มใครล่ะจะไม่อยากมีกัน?
ถึงแม้ว่าชุยหมิงนั้นเลือกที่จะอยู่ต่อ อีกทั้งยังเตรียมรั้งหม่าหงเทาเอาไว้อีกด้วย เพื่อที่จะไม่ต้องมาคอยเป็นกว้างขวางคอยังไงล่ะ
หม่าหงเทาที่ตามความไม่ทัน เลยโดนชุยหมิงนั้นลากออกไปแล้วเอ่ย“ไม่ใช่สิ แกมาลากฉันทำไมกันล่ะ ? อย่ายอมโดนให้เจ้าพวกแมลงพวกนั้นหรอกเอานะ พวกเราไปแล้วอาจจะได้ช่วยเหลือกันบ้างนะ”
ชุยหมิงนั้นยกกำปั้นขึ้น และทุบเข้าไปที่อกของหม่าหงเทาแรงๆแล้วเอ่ย “ แมลงอะไรกัน นี่พูดอะไรกันไม่เป็นท่าเอาสะเลย”
“ไม่ได้ยินที่พี่เทียนเอ่ยหรอ นั่นเรียกว่าผีเสื้อสีเงิน,ผีเสื้อสีเงิน! ชื่อนี้ท่าฟังจะตาย!”
“เจ้าอย่ามาพูดเล่นตลกอะไรเลยนะ ไปเล่นหมากรุกกับข้าสักสองตายังจะดีกว่าอีก”
หม่าหงเทานั้นได้ลูบไปตรงจุดที่พึ่งจะโดนจับ ก่อนที่จะเอ่ย “ไม่ใช่สิ พวกเราไป หากมีเรื่องอะไร ยังจะพอช่วยเหลือได้นะ”
“ถุย!อย่ามาทำเป็นไม่รู้จักพลังตนเองเลย”ชุยหมิงเอ่ยเบะปากออกมา อย่างไม่ไว้หน้า “อย่างพลังของพี่เทียนแล้ว เจ้านั้นเป็นได้แค่ขาหลังของพี่เขาเท่านั้นแหละ อยากที่จะมาเทียบกับเขาหรอ?ไม่ได้ป่วยใช่ไหม?”
หม่าหงเทานั้นโดนเอ่ยใส่จนหน้าแดง แต่กลับยังไม่ยอมรับว่าที่ชุยหมิงเอ่ยมานั้นมันคือความจริง
ไม่ต้องเอ่ยถึงพละกำลังของเขาเลย ถึงแม้ว่าจะเอาชุยหมิงและเขานั้นมามัดรวมกัน ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินเทียนเลยสักน้อย!
หลังจากที่ดูจากสถานการณ์แล้ว หม่าหงเทานั้นส่ายหัว ก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินจากไป
ชุยหมิงนั้นรีบเดินตามไปก่อนที่จะเอ่ย“จะไปที่ไหน?”
“เล่นหมากรุก!ไปกัน!”
ส่วนฉินเทียนและเถิงจู้ ที่ได้ตามผีเสื้อสีเงินที่บินออกไปจนได้ออกจากตระกูลซู
และเจ้าผีเสื้อสีเงินนั้นเหมือนกับได้นำทางไปจริงๆ ไม่เพียงแต่ทั้งระยะทางนั้นจะบินอย่างช้าๆแล้ว แต่ว่ายังบินต่ำๆอีกด้วย และคอยเว้นระยะให้อยู่ในระยะสายตาของเถิงจู้
“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าสติปัญญาจองแมลงจะมีแบบนี้ด้วย”ฉินเทียนเอ่ยด้วยเสียงต่ำ “ข้านั้นคิดว่าเหมือนได้ถูกจาปานั้นเลี้ยงออกมาสะอีก ที่จะชอบบินเข้ามาหาคนแต่ว่าไม่ได้โจมตีคนแต่อย่างใด”
“น่าจะเป็นหนอนชั้นต่ำด้วยนะ จะมีแค่สัญชาตญาณกระหายเลือดที่น้อยมาก จึงทำได้เพียงแค่กัดแทะเฉยๆ”
เถิงจู้หัวเราะออกมาแบบไม่ค่อยใส่ใจ“จะบอกอะไรให้นะ แมลงนั้นมันมีการเปลี่ยนแปลงแบบหลากหลายชนิดนะ ไม่ได้แย่และเลวร้ายไปสะหมด”
“เพียงแค่มีคนใช้มันทำสิ่งไม่ดีเอาไว้เยอะ เลยทำให้ทุกคนนั้นนึกถึงแต่สิ่งเลวร้ายของพวกมัน และเอาแต่หลีกหนีจากพวกมัน”
“และมีพวกแมลงบางชนิด ที่สามารถที่จะช่วยทำให้ร่างกายของมนุษย์นั้นแข็งแรงขึ้น และสามารถที่จะช่วยรักษาโรคได้อีกด้วย”
ฉินเทียนเมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาก็เปล่งประกาย ที่แท้ก็คือก็คือเหมือนโลกที่กว้างใหญ่ มีแต่ของที่แปลกประหลาดเต็มไปหมด
ที่แท้หนอนนั้นก็ไม่ได้เลวร้ายไปสะทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะมองอย่างไรต่างหาก
ก็เหมือนผีเสื้อสีเงินที่อยู่ตรงหน้าตัวนี้ ที่ราวกับว่าเหมือนได้ถูกกู่เซียนการอบรมสั่งสอนมาแล้ว และสามารถที่จะพานำทางไปได้
แต่ที่ไม่รู้คือว่า กู่เซียนนั้นอยากจะเหลืออะไรไว้ให้กับเถิงจู้กันแน่ แต่กลับทำให้ชะนีขาวนั้นตื่นเต้นอะไรเช่นนี้
ฉินเทียนนั้นเอาความคิดทุกอย่างนั้นไว้ภายในใจ และไม่ได้เอ่ยอะไร จึงทำได้แต่เดินตามหลังของเถิงจู้ไป
ส่วนเจ้าผีเสื้อสีเงินตัวนั้นได้บินอยู่เป็นเวลานาน และได้บินห่างไกลออกไปจากป่าไม้ไผ่ และไม่ได้ทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด
เถิงจู้นั้นจึงเดินตามต่อไป ส่วนเจ้าผีเสื้อสีเงินนั้นก็บินนำหน้า
และเมื่อเดินไปทางด้านหน้า ก็แทบจะออกจากที่เหิงหลิ่ง
เถิงจู้นั้นเหนื่อยจนแทบจะไม่ไหว และหายใจหอบแรงก่อนที่จะเอ่ย “มันนั้นจะพาพวกเราไปที่ไหนกันนะ?”
ฉินเทียนนั้นส่ายหัวไม่ได้เอ่ยอะไร เขานั้นแทบไม่เข้าใจในแมลง และก็มองไม่ออกถึงเจตนาของ ผีเสื้อสีเงิน
แต่ว่าตั้งแต่ที่พวกเรานั้นออกจากประตูมาจนตอนนี้ พวกนี้นั้นน่าจะไม่มีคนที่อยู่เบื้องหลัง และน่าจะไม่ได้เป็นเกมหรือกลอุบายของตระกูลฉีหรอกนะ
“ฉันนั้นจะกลับไปดูสักหน่อย ว่าเจ้าผีเสื้อสีเงินนั้นอยากที่จะบอกอะไรกับฉันกันแน่ อีกทั้งหน้าที่ของคุณนั้นก็คือ ช่วยฉันในการปกป้องคุณปู่!”
“เขานั้นจะต้องโดนเอาไปซ่อนกักขังไว้ที่บ้านตระกูลฉีอย่างแน่นอน มิฉะนั้นเจ้าบ้านตระกูลฉี คงจะไม่บังคับอยากที่ให้ฉันนั้นเอาปิ่นปักผมกระดูกออกมาให้”
“วางใจเถอะ ข้านั้นจะคอยจ้องมองตระกูลฉีดีๆให้เอง”ฉินเทียนพยักหน้า “งั้นคืนนี้ข้านั้นจะไปที่บ้านของตระกูลฉี เพื่อที่จะไปค้นหาสถานที่ที่คุณปู่ของเจ้านั้นถูกจับไปขังเอาไว้”
“ไม่”เถิงจู้นั้นส่ายหัวก่อนที่จะเอ่ย “ในตอนที่ยังไม่แน่ใจ อย่าไปแหวกหญ้าให้งูตื่นก็แล้วกัน”
“ตระกูลฉีนั้นสามารถจับคุณปู่ไว้ยี่สิบกว่าปี และไม่ให้ใครทราบได้ แน่นอนว่าจะต้องมีคู่ต่อสู้ที่ยากจะรับมือได้อย่างแน่นอน”
“ฉันไม่อยากที่จะให้เป็นเพราะความผิดพลาดเล็กๆน้อยพวกนี้ มาทำร้ายคุณปู่”
ฉินเทียนนั้นเข้าใจในความกังวลของเถิงจู้ ก่อนที่จะเอ่ยตอบไป “ได้สิ งั้นข้าจะรอเจ้ากลับมานะ”
และฉินเทียนนั้นก็เอ่ยออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าเมื่อเถิงจู้ฟังแล้วเธอนั้นกลับหน้าแดงออกมา
ทันใดนั้นเถิงจู้นั้นก็ได้พุ่งเข้ามา แล้วเข้ามากอดฉินเทียนเอาไว้
หลังจากนั้นในตอนที่ฉินเทียนนั้นตัวแข็งทื่อ ก่อนที่จะรีบปล่อยมือทันที ก่อนที่จะถอยออกมาสองก้าวจากเขา
“ฉินเทียน ฉันชอบคุณนะ จำเอาไว้ คุณจะต้องรอฉันกลับมานะ!”
เมื่อเอ่ยจบแล้วเถิงจู้นั้นก็ได้หันหลังจากไปแบบไม่หันหลังกลับ และยังพาชะนีขาวเดินไปยังทางแม่น้ำ
ฉินเทียนนั้นได้มองเธอจนขึ้นเรือ และเจ้าผีเสื้อสีเงินนั้นก็ได้เกาะอยู่บนไหล่ของเธออย่าสงบนิ่ง
จนกระทั่งเรือนั้นค่อยๆลอยจากไปไกลๆ ฉินเทียนนั้นถึงได้หันหน้าและเดินกลับไปยังบ้านของตระกูลซู
ในขณะเดียวกันนั่นเอง ส่วนเจ้าฉีเฟยที่โดนชะนีขาวนั้นตบออกไปจากบ้านตระกูลซู ตอนนี้ก็ได้กลับมายังบ้านของตระกูลซูแล้ว
ก่อนที่เขานั้นจะเช็ดคราบเลือดบนมุมปาก ก่อนที่จะหันไปเอ่ยคนที่เฝ้าประตูว่า “ท่านเจ้าบ้านล่ะ?”
ลูกน้องนั้นก็รีบเอ่ยอย่างเคารพ “อ่อ ท่าเจ้าบ้านนั้นได้อยู่ที่ห้องโถงในงานเลี้ยง รอให้พวกนักธุรกิจสมาชิกของเหิงหลิ่งมากันให้ครบครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...