หลิวหรูยู่รีบจนรอไม่ได้ เอาเนื้อเทลงไปในหมอไฟทีละถาดทีละถาด เพิ่งจะเริ่มยังระมัดระวังตัวนิดหน่อย ในที่สุดก็ควบคุมไม่ไหวแล้ว ตักเนื้อเข้าปากทีละชิ้นทีละชิ้น
ทันใดนั้นฉินเทียนก็พบว่า ไม่มีแม้แต่โอกาสที่ตัวเองจะเริ่มลงมือ
เขามองดูหลิวหรูยู่ที่เหมือนผีที่หิวโหย : “นั้น คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หลิวหรูยู่กัดลูกชิ้นเนื้อวัวไส้ทะลักหนึ่งคำ น้ำชุบที่อยู่ข้างในลวกจนเธอทำหน้าตาบู้บี้
เธอกรอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ : “ไม่เคยเห็นคนกินข้าวเหรอ?”
“ฉันไม่ได้กินข้าวทั้งวัน ตอนนี้กินสักนิดหน่อยทำไมเหรอ?”
ฉินเทียนสงสัย : “ทำไมคุณถึงไม่ได้กินข้าวทั้งวัน”
หน้าของหลิวหรูยู่จู่จู่ก็ก้มลงไปทันที ก้มหน้ากินอาหารต่อ โดยไม่พูดสักประโยคเดียว
ฉินเทียนหาเรื่องอึดอัดให้ตัวเอง เขารู้สึกได้ว่าหลิวหรูยู่ไม่ได้กินข้าวทั้งวัน อาจเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับตัวเอง?
“ว้า คือว่า พนักงาน ที่สั่งไปเมื่อสักครู่ เอามาเหมือนกันอีกชุด”
เห็นหลิวหรูยู่กินอย่างเอร็ดอร่อย เขารู้สึกหิวมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
“ผ้าขี้ริ้วเพิ่มอีก 1 ที”ในที่สุดหลิวหรูยู่ก็พูดออกมาหนึ่งประโยค โดยไม่เงยหน้าขึ้น
หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ถาดเปล่าข้างๆ กองขึ้นมากลายเป็นภูเขาลูกเล็กๆ
หลิวหรูยู่เคลียผ้าขี้ริ้วถาดสุดท้ายเสร็จ สุดท้ายก็พอใจอย่างมาก วางตะเกียบลง
เธอเช็ดปาก และยังปรับเปลี่ยนเป็นท่าทางที่สง่า เหมือนดั่งองค์หญิง มองฉินเทียนอย่างเยือกเย็น
ฉินเทียนยังอยากกินต่ออีกสักหน่อย แต่ภายใต้การจ้องมองด้วยแววตาแบบนี้ กินต่อไม่ลงจริงๆ
เขาวางตะเกียบลง : “ผมนึกออกแล้ว จู่จู่คุณชวนผมมากินหม้อไฟ มีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ผมช่วยไหม?”
หลิวหรูยู่เห็นเขาถามทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว สีหน้าวางมาดดูขรึม แทบจะอดไม่ได้ที่จะคิดพุ่งเข้าไปบีบคอเขาให้ตาย!
แต่เธอพยายามที่จะรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายไว้
“พูดมาเถอะ ราชาฉินมือปีศาจ มีเพียงหนึ่งในใต้หล้า นายหมายถึงอะไรกันแน่”
“นายไปได้ยินประโยคนี้มาจากที่ไหน?”
ฉินเทียนลังเลสักพัก : “ก่อนที่ผมจะตอบคำถามคุณ คุณสามารถตอบคำถามผมก่อนได้ไหม?”
“คุณได้ยินประโยคนี้มาจากที่ไหน?”
“วันนี้คุณไปที่เสินหลงกวาน ตามหามังกรอะไร เรื่องมันเป็นยังไง?”
หลิวหรูยู่เงียบ เธอและผู้จัดการส่วนตัวมาที่นี่อย่างรีบร้อน จะไปหามือปีศาจมังกรเทพอะไรนั้นจากที่ไหนล่ะ
รู้แค่ชานเมืองมีเสินหลงกวานแห่งหนึ่ง ทั้งหมดเป็นการลองทำอย่าสุดความสามารถเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อลองเสี่ยงดู
จู่จู่เธอก็จิตใจคล้อยตาม พูดอย่างตื่นเต้น : “ราชาฉินมือปีศาจ กำลังพูดถึงคนที่แซ่ฉินคนหนึ่งใช่ไหม?”
“คงไม่น่าจะเป็นคุณใช่ไหม?”
ฉินเทียนพูดนิ่งๆ : “ถามคำถามผมมาก่อน”
หลิวหรูยู่กัดฟันกรอดๆ ในที่สุดก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นออกมา
เธอมาจากต้าซาน เกิดมาจากครอบครัวที่ยากจน ในตอนนั้นมีคนใจบุญท่านหนึ่งสร้างตึกเรียนและที่พักอาศัยใหม่ให้โรงเรียนของพวกเธอ
เพื่อต้อนรับคนใจบุญท่านนั้น ทางโรงเรียนได้ตั้งทีมเชียร์ลีดเดอร์ และรูปร่างหน้าตาของหลิวหรูยู่โดดเด่นที่สุด จึงถูกเลือกโดยปริยาย
คนใจบุญท่านนั้นก็คือนายท่านอานกั๋วของเมืองนี้
นายท่านไม่มีลูกชายลูกสาวมาทั้งชีวิต ก็ถือว่าเป็นพรหมลิขิตแล้วละ พอได้เจอกับหลิวหรูยู่เด็กสาวคนนี้ รู้สึกมีความผูกพันเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้จึงรับเลี้ยงเธอเป็นหลานสาว
แต่นี้ไปดูแลและทะนุถนอมอย่างดีตลอดมา ช่วยให้หลิวหรูยู่สำเร็จสมความปรารถนา ไม่เพียงแค่เข้าวงการบันเทิง ทั้งยังกลายเป็นเทพธิดาที่สง่างาม
ว่ากันว่าในวงการบันเทิงเป็นวงการที่ง่ายต่อการถูกชักจูงไปในทางที่ไม่ดี เด็กผู้หญิงที่มีคุณภาพสูงอย่างหลิวหรูยู่นี้ ยังสามารถที่จะคงอยู่ในสภาพแวดดล้อมนี้ได้ มาถึงจุดนี้เป็นเพราะนายท่านอันคอยซัพพอร์ตอยู่ข้างหลัง
หลิวหรูยู่รู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณต่อนายท่านอันเป็นอย่างมาก เห็นเป็นญาติพี่น้องที่สนิทที่สุดบนโลกในนี้
ไม่คิดว่า นายท่านอันเป็นโรคเรื้อรังมานานหลายปี ท้ายที่สุดก็ทรุดลงกลายเป็นป่วยระยะสุดท้าย
พรุ่งนี้เป็นวันเกิดปีที่ 70 ปีของเขา คนข้างกายล้วนรู้ดี ครั้งนี้เป็นการฉลองงานวันเกิดครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว
แม้แต่เจ้าสมาคมหวังแห่งสมาคมการแพทย์ยังบอกว่า ก็เป็นเรื่องของช่วงเวลา 10 วันหรือครึ่งเดือนนี้แล้ว
พูดถึงตรงนี้ หลิวหรูยู่กลั้นไม่ไหวจนขอบตาแดง
“เจ้าสมาคมหวัง?”ฉินเทียนเลิกคิ้วขึ้น
หลิวหรูยู่พยักหน้า พูดเสียงเบาๆ : “ก็คือหวางโป๋เหนียน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...