เมื่อเผชิญหน้ากับแววตาที่ดูแรงกล้าของถงจิ่ง สุดท้ายฉินเทียนจึงกัดฟันแน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น: “ตระกูลฉินแบบนี้น่ะ ไม่กลับก็ไม่เป็นไร”
หลังจากพูดจบ สีหน้าของเขาก็กลับมาเย็นชาเหมือนเดิมอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังก้าวเท้าเดินออกไปโดยที่ไม่หันหน้ากลับอีกเลย!
หลิวเช่อพูดเสียงดัง: “ขอน้อมส่งคุณชายใหญ่ครับ!”
“หลิงหลง ผมเคลื่อนที่ไม่ค่อยสะดวก คุณช่วยไปส่งคุณชายใหญ่และนายท่านอันที่ริมแม่น้ำแทนผมหน่อย!”
“งั้นคุณรอฉันกลับมานะคะ”ยู่หลิงหลงพูดอย่างเป็นห่วงคำหนึ่ง ก่อนจะรีบเดินตามฝีเท้าของฉินเทียน
“ไม่ว่ายังไงก็เป็นญาติในสายเลือดที่สนิทที่สุดอยู่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ไม่เร็วก็ช้าก็จะจัดการเรื่องนี้ได้เองค่ะ……”
เธอพูดโน้มน้าวคำหนึ่ง เมื่อเห็นว่าฉินเทียนเย็นชาไม่พูดอะไร เธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูด: “คุณอย่ารีบสิคะ!”
“คุณคิดว่าสภาพแบบนี้จะสามารถออกจากเป่ยเจียงได้หรือ?”
“อย่าลืมนะคะ ตอนนี้ภายนอกพวกเรายังเป็นศัตรูคู้แค้นกันอยู่นะคะ”
ได้ยินแบบนี้ฉินเทียนถึงจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “แล้วคุณว่าคุณจะทำยังไงดี?”
ยู่หลิงหลงถลึงตาใส่เขาทีหนึ่งแล้วพูด: “โชคดีนะที่คุณไม่ใช่ลูกเขยของฉัน ไม่งั้นฉันคงเหลากบาลคุณไปอย่างอดใจรอไม่ไหวแล้วค่ะ”
“ทำไมพอถึงเวลานี้สมองคุณก็เปล่งปลั่งแล้วคะ?”
“ยังไม่รีบจับมือของฉันไว้อีก!”
“หื้ม?”ฉินเทียนตอบสนองกลับมาไม่ค่อยได้
ยู่หลิงหลงพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “จับมือของฉันเอาไว้ ฉันก็จะกลายเป็นเชลยศึกของคุณ ผู้คนในเป่ยเจียงจะได้ไม่กล้าแตะต้องตัวคุณไงล่ะคะ”
เธอพูดอย่างไม่สบอารมณ์คำหนึ่ง ก่อนจะเป็นฝ่ายยื่นมือไปจับมือของฉินเทียนเอาไว้
พื้นฐานของผู้หญิงคนนี้ดีเกินไปแล้ว ฉินเทียนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผิวพรรณที่เหมือนดั่งตุ๊กตาพอร์ซเลนนั่นของหลิวชิงเหยา ได้รับการถ่ายทอดมาจากเธอที่เป็นแม่
บวกกับการบำรุงดูแลช่วงหลัง คนอายุ 40 กว่าแล้ว แต่ฝ่ามือยังนุ่มลื่นเหมือนหญิงสาวคนหนึ่งอยู่
มองดูสีหน้าท่าทางของเธอในตอนนี้ ในใจฉินเทียนก็ถึงกับมีความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้น
“อย่าคิดอะไรมั่วซั่วนะ ฉันอายุปานนี้แล้ว ใกล้จะเป็นแม่คุณได้แล้วนะคะ”
“คุณเป็นรุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกสาวฉัน”ยู่หลิงหลงยิ้มพลางพูด ลักษณะท่าทางของเธอในตอนนี้เหมือนเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง
สีหน้าของฉินเทียนแดงก่ำขึ้นมาชั่วขณะ ดึงมือของยู่หลิงหลงแล้วเดินออกไปข้างนอก ในสายตาของคนอื่น มันเป็นการนำตัวยู่หลิงหลงมาเป็นตัวประกัน
ระหว่างทาง ไม่มีคนเข้ามาสกัดกั้นจริง ๆ ด้วย
ณ ริมแม่น้ำ เมื่อเห็นว่าเขาและอานกั๋วมาถึงอย่างปลอดภัย จุยเฟิงจึงรีบควบคุมเรือไปเทียบฝั่งอย่างสุดชีวิต
ยู่หลิงหลงกำชับฉินเทียนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาไปสองสามคำ ฉินเทียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังลั่นมาจากตำแหน่งที่ห่างออกไปไกล
“คุณหญิง อย่าปล่อยตัวไอ้แซ่ฉินนั่นไปนะ!”
“รีบสกัดมันเอาไว้!”
“สกัดกั้นไอ้แซ่ฉินนั่นเอาไว้!”
“มันฆ่าราชาเป่ยเจียง!”
“มันใช้พิษฆ่าราชาเป่ยเจียง!”
คนนับร้อยที่ดำมืดเป็นแถบพุ่งตรงเข้ามาด้วยดวงตาที่แดงเถือก
“เกิดอะไรขึ้น?”
“พิษของราชาเป่ยเจียงกำเริบหรือ? เขาบอกว่าหาหนทางรักษาได้แล้วไม่ใช่หรือ?”ฉินเทียนมองหน้ายู่หลิงหลงแล้วถามอย่างตื่นเต้น
ไม่รู้ว่าดวงตาของยู่หลิงหลงแดงก่ำขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน
เธอมองหน้าฉินเทียนพลางยิ้มอย่างเศร้าสลดพลางพูด:
“เขารู้อยู่ว่ามีเพียงเขาตายไปแล้ว อีกทั้งเสียชีวิตอยู่ในกำมือของคุณ ท่านถงถึงจะกลับไปรายงานเรื่องนี้ได้”
“และสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือ ตระกูลฉินก็จะไม่สงสัยว่าเป่ยเจียงสมคบกับคุณ”
“เมื่อเป็นแบบนั้นแล้ว เป่ยเจียงถึงจะกลายเป็นหมากลับของคุณอย่างแท้จริง”
“เขาตัดสินใจเด็ดขาดตั้งนานแล้วว่าจะตาย และที่ไม่อยากตายต่อหน้าฉันและคุณนั้น ก็เป็นเพราะกลัวว่าพวกเราจะเสียใจ”
“รีบไปเถอะ อย่าปล่อยให้เขาตายฟรี!”
เธอร้องไห้พลางดันตัวฉินเทียนขึ้นเรือ
“แล้วคุณล่ะครับจะเอายังไงต่อ?”ฉินเทียนถามอย่างเร่งรีบ
ยู่หลิงหลงตอบกลับด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า: “เขาอาศัยมือคุณกำจัดกลุ่มคนที่ไม่ปลอดภัยทิ้งแล้ว คนสนิทที่เหลือจะเคารพฉันเป็นราชาเป่ยเจียงองค์ใหม่”
“ถึงเวลานั้นฉันจะติดต่อหาคุณเองค่ะ”
ฉินเทียนยังอยากพูดอะไรต่อ จุยเฟิงกลับออกคำสั่งเสียงดัง: “ให้เร็ว!”
“ออกเรือ!”
เรือลำใหญ่พุ่งลงแม่น้ำ มุ่งหน้าตรงไปยังกลางแม่น้ำ ฉินเทียนยืนอยู่บนหัวเรือ มองดูยู่หลิงหลงที่ยืนอยู่บนฝั่งค่อย ๆ เลือนรางไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...