“เอางั้นก็ได้”
จูกว่างจื้อถอนหายใจและพูดด้วยความสนอกสนใจ “ฉันตั้งหน้าตั้งตารอคอย บนโลกนี้จะมีคนที่บอสของเราจ้างงานไม่ได้หรือเปล่า”
“ถ้าหากว่าผู้นำแห่งวิหารเทพของเรานั้นไม่สามารถเชื้อเชิญเขาได้ งั้นซาโรผู้นี้ก็จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง”
ฉินเทียนมองออก เฮียหมูผู้นี้กำลังรอหัวเราะเยาะตน เขาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันไม่ใช่เทพเจ้า”
“ใช่แล้ว ราชินีงูเหลิ่งหยุน ช่วงนี้ได้มาขอเงินจากนายบ้างไหม?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ จูกว่างจื้อนั้นดูมีความสุข
“บอส ศิษย์น้องคนนี้ของนาย ไม่สิ ราชินีงูผู้นี้ รับมือได้ยากเสียจริง”
“โดยปกติแล้วองค์กรงูของพวกเขารับภารกิจมากมายและหาเงินได้มากโข ไม่เพียงไม่มอบอะไรให้เลยแถมยังบังคับให้ฉันมอบเงินค่าใช้จ่ายจิปาถะห้าสิบล้านให้พวกเขาในทุกเดือนด้วย”
“ถ้าฉันไม่ให้ เธอก็จะไล่ล่าตามฆ่าจนถึงเหนือฟ้าและโยนฉันลงไปในทะเล”
“ไม่รู้เลยจริงๆว่าเธอในฐานะหญิงสาวคนหนึ่งจะต้องการเงินมากมายขนาดนั้นไปทำอะไร”
“เหนือฟ้า?” เถียหนิงซวงถามด้วยความสงสัย “สถานที่นั้นคือที่ไหน?”
“เถ้าแก่จูอาศัยอยู่บนฟ้างั้นหรือ?”
จูกว่างจื้อพูดอย่างจริงจัง “ใช่แล้วน้องสาว พวกเรานั้นไม่ใช่คนธรรมดา”
“อันที่จริงพวกเราน่ะเป็นเทวดาจุติลงมาเกิด โดยปกติแล้วจะท่องเที่ยวกัน พอตกดึกก็กลับไปนอนบนฟ้า”
“จริงเหรอ?” เถียหนิงซวงรู้ว่านี่ไม่สามารถเป็นเรื่องจริงได้เลย แต่เมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังของจูกว่างจื้อ เธอก็อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีงงงวยเหมือนกับเด็กสาวตัวน้อย
“อืม จริง”
“ไม่เชื่อเธอก็ถามพี่เทียนดูสิ”
เถียหนิงซวงรีบหันไปทางฉินเทียนด้วยท่าทีคาดหวัง ความหมายคือ เมื่อไรพี่จะพาฉันไปเล่นบนฟ้าบ้าง
ใบหน้าของฉินเทียนมืดมนและเอ่ย “อย่าไปฟังเขาพูดไร้สาระ”
“เหนือฟ้านั้นเป็นเกาะขนาดเล็กเกาะหนึ่งที่ฉันซื้อมา เป็นสำนักงานใหญ่ของวิหารเทพด้วย”
“หากมีโอกาส เธอก็ลองไปดูได้”
“จริงเหรอ? งั้นก็เยี่ยมไปเลย!” เถียหนิงซวงเอ่ยด้วยสีหน้าตื่นเต้น
จูกว่างจื้อลังเลอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “บอส ก่ ก่อนหน้านี้บอสได้พูดเอาไว้ สักวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว วิหารเทพจะต้องกลับคืนสู่ภูมิลำเนาเดิม กลับไปยังอาณาจักรมังกร”
“ตอนนี้มีแผนการแล้วหรือไม่?”
“เมื่อไรจะย้ายงั้นหรือ?”
ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าฐานทัพของวิหารเทพของเขานั้นจะอยู่ต่างประเทศ เขารวมถึงสิบสองราชา โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นคนอาณาจักรมังกร
ภายในใจต่างครุ่นคิดว่าสักวันจะได้กลับบ้านเกิด
แต่ทว่า หลังจากที่เขากลับมา ในช่วงครึ่งปีมานี้ ได้รับความเข้าใจใหม่สำหรับสถานการณ์ภายในประเทศ
สามารถกล่าวได้ว่าภายในประเทศไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ล้วนแต่มีพลังอำนาจที่ซับซ้อนอยู่
เขาคิดอยากจะย้ายวิหารเทพสิ่งที่มีขนาดมหึมาเช่นนี้กลับไปนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
“ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้เลย”
“เอาไว้ค่อยคุยเถอะ”
“รับทราบ” จูกว่างจื้อไม่พูดสิ่งใดอีก เดินออกจากห้องรับรองพร้อมกับฉินเทียน
เขาทิ้งคนขับรถไว้คนหนึ่ง บอดี้การ์ดคนหนึ่งให้คอยดูแลและคุ้มกันฉินเทียน ภายใต้การคุ้มครองอย่างเข้มงวด เขาก้าวขึ้นเครื่องบินพิเศษของเขาและกลับไปยังเหนือฟ้า
ฉินเทียนและเถียหนิงซวงได้ขึ้นรถ Mercedes-Benz แบบกันกระสุนที่ถูกดัดแปลงมา คนขับรถนั้นคุ้นเคยกับถนนหนทาง เขาขับออกไปจากสนามบินและมุ่งตรงไปยังเมืองขนาดเล็กติดริมทะเลที่ซาโรอาศัยอยู่
พระอาทิตย์สีทองอร่าม สะท้อนชายฝั่งเป็นแสงสีทองระยิบระยับ
เถียหนิงซวงเปิดหน้าต่าง ปล่อยให้ลมทะเลชื้นนั้นพัดผมที่ยาวสลวยของเธอ ดื่มด่ำในบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงามแปลกตาแห่งนี้
ฉินเทียนนั้นไร้กะจิตกะใจที่จะชื่นชมสิ่งเหล่านี้ จนกระทั่งตอนนี้ สำหรับซาโรศาสตราจารย์แห่งสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติผู้นี้ เรื่องราวของคนผู้นี้เขาแทบจะไม่รู้อะไรเลย
ครั้งนี้ เขาจะสามารถเชื้อเชิญปรมาจารย์ผู้นี้ได้หรือไม่นั้นเขาเองก็ไม่มีความมั่นใจใดๆเลย
สิ่งสำคัญคือหากต้องการให้เขาออกแบบผลงานที่ดี เช่นนั้นแล้วก็ต้องทำด้วยความเต็มใจ
ถ้าหากมีแรงกดดันเข้ามาแทรกแซง ต่อให้ซาโรฝืนตอบตกลงไป แต่ไม่มีผลงานที่ดีออกมา เช่นนั้นก็ไร้ประโยชน์
ดูเหมือนว่าทำได้เพียงแค่รอดูซาโรเท่านั้น หากเห็นโอกาสที่ดีก็ต้องรีบคว้าไว้
เรื่องแบบนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...