ช่วงเวลายามเย็น แลนด์ ครูเซอร์สามคันค่อย ๆ ขับเข้ามาในเมืองหลงเจียง
ปกติใช้ชีวิตอยู่ในหลงเจียง ก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไร ครั้งนี้พักอยู่จิ่นหูหลายวัน จู่ ๆ กลับมาก็พบว่าเมืองแห่งนี้เล็กมากซะจริง
ถนนคับแคบ อาคารต่ำลง
พอมองดูแล้ว แม้กระทั่งรถยนต์และคนที่เดินอยู่บนถนน ก็ดูเก่า ๆ อยู่เล็กน้อย
ราวกับกลับไปที่เมืองเล็ก ๆ
อันที่จริง เมื่อเทียบกับเมืองใจกลางอย่างเมืองจิ่นหูที่เป็นเจ็ดเมืองทางใต้แล้ว เล็กกระจิริดอย่างเมืองหลงสู้เขาไม่ได้เลย
แต่ว่า นอกจากหลิวชั่นแล้ว ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นอย่างหนึ่ง
ต่อให้เป็นสถานที่ที่งดงามหรูหราใด ๆ บนโลกใบนี้ ก็ไม่สามารถให้ความรู้สึกที่ว่าได้กลับบ้านแบบนั้นได้
“พี่เทียน ยังมีธุระอีกไหม ?”
“ไม่มีธุระละก็ เราจะกลับวิลล่าแล้ว !”
“คิดถึงพี่ใหญ่ฉานกับผีหวูฉางจะแย่ตายอยู่แล้ว” ถงชวนเอ่ยด้วยความตื่นเต้น
“ฉันคิดถึงเสือกับสิงโตพวกนั้นมากกว่า” เถียปี้ฉีกยิ้มเอ่ย
ฉินเทียนหัวเราะอยู่เล็กน้อย แล้วเอ่ย : “ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พวกนายกลับไปเถอะ”
“บอกกับลุงฉานด้วยว่า พรุ่งนี้จะไปปรึกษากับเขาด้วยเรื่องหนึ่ง”
“รับทราบครับ !” ถงชวนและคนอื่น ๆ จากไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เถียหลินเฟิง หลี่เฉิงหนานและอู๋เทียนสง ต่างก็มีกิจการด้วยเช่นกัน ต่างคนต่างก็กลับไป
ฉินเทียนขับรถพาหลิวชั่นมาที่อาคารซูยู่ด้วยตัวเอง
พอเพิ่งจอดรถเสร็จ หลิวชิงก็ลงมาจากรถคันหนึ่งที่อยู่ด้านข้างพอดิบพอดี พอเห็นฉินเทียน เธอจึงเอ่ยด้วยความประหลาดใจ : “คุณฉิน ทำไมคุณกลับมากะทันหันล่ะ ?”
“เรื่องทางนั้นเป็นยังไงบ้างแล้ว ?”
ฉินเทียนเห็นในมือของหลิวชิงถือเอกสารกองหนาเตอะอยู่ จึงยิ้มเอ่ยอย่างอดไว้ไม่ได้ : “คุณไปโรงงานแล้วหรือยัง ?”
“ยังเลย” หลิวชิงรีบเอ่ย : “คุณมาพอดีเลยค่ะ”
“ฉันเพิ่งกลับมาจากธนาคารเจี้ยนหลง ได้เจรจาสัญญากู้เงินเจ็ดพันล้าน ตามที่คุณกำชับไว้ได้พอสมควรแล้ว”
“ประธานธนาคารหวางรับปากเราว่า จะจัดสรรเงินทุนให้ถึงตามเงื่อนไข ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด”
“ถึงตอนนั้น แบ่งโอนเข้าบัญชีสักสองสามครั้ง ตามอัตราความเร็วของโครงการเราค่ะ”
“นี่เป็นเอกสารกู้เงิน คุณอยากดูหน่อยไหมคะ ?”
“ไม่ต้องหรอก ให้คุณรับผิดชอบก็พอแล้ว” ฉินเทียนแย้มยิ้มแล้วจึงเอ่ย : “หลิวชิง ขอแนะนำ ท่านนี้คือหลิวชั่น เถ้าแก่หลิว”
หลิวชิงรีบยิ้มกล่าว : “สวัสดีค่ะ เถ้าแก่หลิว”
“เถ้าแก่หลิว ยินดีต้อนรับคุณและทีมของคุณเข้าสู่ซูยู่กรุ๊ปนะคะ”
หลิวชั่นยิ้มเอ่ย : “ประธานหลิว เดี๋ยวจากนี้ฉันก็จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณแล้ว ได้โปรดชี้แนะด้วย”
ณ ตอนนี้ หลิวชิงเป็นผู้จัดการใหญ่ของซูยู่กรุ๊ปทั้งหมด และทงต๋าโลจิสติกส์ขนส่งของหลิวชั่นได้ถูกซูยู่กรุ๊ปถือหุ้นเอาไว้
เท่ากับว่าเขาเป็นผู้จัดการของบริษัทย่อย เลยจะด้อยกว่าหลิวชิงหน่อย เมื่อพูดในแง่ของระดับขั้นแล้ว
“หลิวชิง ที่เถ้าแก่หลิวจะสร้างห้องทำงานไว้ที่นี่ มอบให้เธอจัดการแล้วกัน”
“กรรมการซูอยู่ไหม ? ฉันขึ้นไปดูก่อนหน่อย”
ฉินเทียนมองอาคาร แล้วดูรีบร้อนอยู่หน่อย
หลิวชิงเม้มปากแล้วยิ้มเอ่ย : “ไม่เจอกันสองสามวัน ก็ร้อนใจขนาดนี้แล้วเหรอคะ ?”
“เดี๋ยวฉันดูแลเถ้าแก่หลิวให้ คุณขึ้นไปเถอะค่ะ”
“กรรมการซูน่าจะอยู่ในห้องทำงานค่ะ”
ฉินเทียนหมิงรู้ว่าหลิวชิงกำลังหยอกล้อตัวเองอยู่ เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก เบือนหน้าวิ่งเข้าไปด้านใน
มาถึงชั้นบนสุดของตึก ห้องทำงานของกรรมการเงียบเชียบ
ฉินเทียนผลักเปิดประตูอย่างระมัดระวัง พบว่าด้านหลังของโต๊ะทำงานว่างเปล่า ซูซูไม่อยู่
แต่ว่า เขาเห็นเสื้อคลุมของซูซูแขวนอยู่บนไม้แขวนเสื้อด้านข้าง
อธิบายได้ว่าซูซูไม่ได้เดินไปไกลนัก อาจจะไปคุยงานที่ห้องทำงานอื่นก็ได้ อีกเดี๋ยวก็น่าจะกลับมาแล้ว
ฉินเทียนตัดสินใจว่าจะเซอร์ไพรส์ซูซู เห็นประตูพักผ่อนด้านข้างแง้มอยู่ เขาเตรียมเข้าไปซ่อน
อีกเดี๋ยวซูซูมาแล้ว ค่อยกระโดดออกมาอย่างกะทันหัน
ใครจะไปรู้ว่า ผลักประตูเปิด อดไม่ได้ที่จะตะลึง
เพียงเห็นคนคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง เส้นผมนุ่มนวล นอนหลับปุ๋ย
ก็คือซูซูนั่นเอง
ทำไมซูซูถึงได้นอนหลับที่ห้องทำงานตอนกลางวันแสก ๆ ล่ะ ? ปฏิกิริยาแรกของฉินเทียน ยังนึกว่าเธอป่วยเสียแล้ว
เขารีบเดินไปทันที ใช้มือลูบหน้าผาก
ทุกอย่างปกติ
เห็นใบหน้าของเธอแดงเปล่งปลั่ง กำลังหลับฝันหวาน ดูเหมือนเพียงแค่เหนื่อยไปก็เท่านั้น
ฉินเทียนจึงวางใจ เห็นรูปร่างงดงามดุจดอกไม้ เส้นโค้งประณีต ได้กลิ่นหอมจากเรือนร่างภรรยาที่งดงาม เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...