เจียวไท่เป็นคนแยกแยะบุญคุญความแค้น เป็นพวกคนที่มีลักษณะนิสัยหยาบคายของยุทธจักรทั่วไปชนิดนั้น คนชนิดนี้ถึงแม้หยาบคาย แต่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกมิตรภาพมาก
ความใฝ่ฝันของเขายังไม่ได้บรรลุสำเร็จ จู่ ๆ ได้ยินข่าวร้ายการตายที่น่าเวทนาของจี้ซิง เห็นได้ว่าเขารับไม่ได้เลย
ดังนั้นเขาก็มาถึงจวี้อี้ถังในเวลาแรก
ถ้าไม่ใช่เจี่ยงเส้าและลิเหลียงควบคุมเพื่อสถานการณ์ทั้งหมดอย่างจริงจัง ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำโดยพละการได้ไม่งั้นถูกถีบออกนอกจวี้อี้ถัง
ไม่งั้นแล้วเจียวไท่ก็ไปหาฉินเทียนสู้ตายนานแล้ว
ฟังคำพูดของเจียวไท่แล้ว คนยุทธจักรของเมืองซื่อไห่ที่รีบมาด้วยตัวเองเหล่านั้นก็คำรามด้วยความโกรธเป็นเสียงเดียวกัน
เสียงสะท้อนก้องในหุบเขา ไม่รู้ยังคิดว่าสัตว์ร้ายกลุ่มหนึ่งสู้รบกันที่นี่
ถูกคนของเมืองซื่อไห่จุดประกาย คนเหล่านั้นที่มาจากหนานเจียงเป่ยเจียงอีกทั้งหยุนชวน ไม่อ่อนแอส่งเสียงดังโจมตีออกมาเอง
พลังอย่างนี้ฉากอลังการยิ่งใหญ่จริง ๆ !
ลิเหลียงนั่งบนเก้าอี้ตำแหน่งตรงกลาง มองเห็นฉากนี้ที่อยู่ด้านหน้าเขาจู่ ๆ รู้สึกว่าเลือดในร่างกายพลุ่งพล่านเล็กน้อยแล้ว
ในดวงตาเต็มไปด้วยกลิ่นไอที่บ้าคลั่งแล้ว
เขาขยับอย่างไม่สงบสุข มองไปแล้วก็เหมือนสัตว์ร้ายที่อยู่ในสภาพที่มืดมนตัวหนึ่ง ทนไม่ไหวต้องการที่จะพุ่งออกไปกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
รับรู้ถึงลมหายใจที่ไม่ปกติบนตัวของเขา ถงเหรินที่ยืนอยู่ข้างกายรีบพูดเสียงต่ำ“คุณชาย ระวัง!”
ลิเหลียงนี่ถึงได้ตกใจตื่น เขาเกือบจะเผยตัวตนออกมาแล้ว
รีบสูดลมหายใจลึกมายับยั้งเส้นเลือดที่ปั่นป่วน แต่เหมือนไม่มีผล เขายิ่งยับยั้งเส้นเลือดในร่างกายก็ยิ่งชนกระแทกรุนแรง
พลังหนึ่งเหมือนม้าป่าที่หลุดจากบังเหียนอย่างนั้น วิ่งกระโดดในร่างกาย
เขาอยากที่จะเงยหน้าขึ้นร้องตระโกนจริง ๆ
“ลิเหลียง คุณเป็นอะไรไป?”เจี่ยงเส้าเห็นลิเหลียงใบหน้าบิดเบี้ยว อดไม่ได้ที่จะถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไร……”
“อาจจะช่วงนี้เหนื่อยมากไปแล้วมั้ง”
“อาเจี่ยง คุณเร่งสองสามคนนั้นที่ยังไม่ได้มาสักหน่อย สิบโมงลงคะแนนเสียงตรงตามเวลา อย่าทำให้ชักช้าเสียเวลา”
ลิเหลียงกัดฟันพูดแล้วประโยคหนึ่ง หยิบขวดยาเล็กขวดหนึ่งออกมาจากข้างตัว เทเม็ดยาเล็กสีฟ้าสองเม็ดออกมา กลืนลงไป
จากนั้นก็หลับตาลง นั่งอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าที่ขาวซีด
ถงเหรินและเสินเฟิงทั้งหมดเฝ้าดูแลอยู่ข้าง ๆ เหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูใหญ่
เจี่ยงเส้าก็รู้สึกว่าลิเหลียงคือเหนื่อยมากแล้วแน่นอน เขาอายุน้อยอย่างนี้ก็จัดตั้งเรื่องใหญ่ชนิดนี้ คือให้เขาลำบากใจแล้วจริง ๆ
คิดถึงที่นี่กระทั่งเจี่ยงเส้าก็มีความละอายใจเล็กน้อย
เดิมทีลิเหลียงเลือกไม่สนใจ เหมือนคนที่หลุดจากทางโลก เป็นพวกเขาพ่อลูกเอาลิเหลียงมาทำให้เหนื่อยด้วย
เขารีบส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ ให้สภาพแวดล้อมการพักผ่อนหนึ่งแก่ลิเหลียง
ได้เก้าโมงครึ่งแล้ว
เหลือเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงห่างจากเวลาลงคะแนนเสียงสิบโมง ทำไมเจ้าบ้านสองสามท่านที่เหลือนี้ยังไม่มา
เรื่องใหญ่อย่างนี้ หรือว่าจะมาสายเหรอ?
คิดถึงที่นี่เจี่ยงเส้าโมโหแล้วเล็กน้อย
กระทั่งเขาตัดสินใจ หลังรอลิเหลียงขึ้นเป็นผู้นำแล้ว ตัวเองพ่อตาของผู้นำคนนี้ต้องหาโอกาสจัดการสองสามคนนี้ให้ดี ๆ สักหน่อยแล้ว
เก้าโมงสี่สิบนาที ในที่สุดปากทางหุบเขาได้ส่งเสียงความวุ่นวายมาพักหนึ่ง
กลุ่มคนเดินมาแล้ว
“เป็นหนานเจียงและเป่ยเจียง!”
“ราชินีหลินของเป่ยเจียงและนายท่านอานของหนานเจียงมาพร้อมกันแล้ว!”เจี่ยงเส้าร้องเสียงต่ำอย่างตื่นเต้น
เพียงเห็นหลินหลงเดินอยู่ข้างหน้าภายใต้การอยู่เป็นเพื่อนของเสือสามตัวแห่งเป่ยเจียง หลัวจิง เฉียนเฟิงและอวี๋เซิ่ง
อานกั๋วที่อยู่ด้านหลังถึงแม้ผมขาว แต่ท่าทางกระฉับกระเฉง สองดวงตาแก่มีพลังของการฆ่ามหาศาล
ข้างกายของเขาคือหูปินราชาบู๊ของหนานเจียง
การปรากฏตัวของพวกเขาทำให้คนส่วนหนึ่งในงานนั้นโห่ร้องขึ้นมา พวกเขาแน่นอนเป็นตระกูลของหนานเจียงและเป่ยเจียงอีกทั้งคนในยุทธจักร
ตอนนี้ผู้นำของพวกเขาในที่สุดก็ปรากฏตัวแล้ว ทำให้พวกเขาก็รู้สึกถึงความมั่นใจมากเล็กน้อยแล้ว
หยางหยวนชิ่งยิ้มอย่างเย็นชาพูด“ได้ยินว่าหนานเจียงและเป่ยเจียงก็เป็นศัตรูที่อยู่ร่วมกันไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...