“เมื่อกี้ผมก็พูดแล้ว ผมคนนี้ไม่มีการศึกษาอะไรแต่ตั้งแต่เด็กก็มีความสนใจต่อวิชาลับฮวงจุ้ยมากเล็กน้อย ”
“ต่อมาเป็นพนักงานดูแลรักษาป่าไม้แล้ว ทุก ๆ วันมีเวลาไปทำอย่างอื่นตอนที่ผมเดินเล่นอยู่ในป่าเขาก็เอาตามรูปแบบฮวงจุ้ยเหล่านั้นในหนังสือที่พูดไปยืนยันสถานที่ที่เห็น”
“ผมก็ค่อย ๆ พบว่าเอาตามรูปแบบในหนังสือที่พูดมาชนิดนั้น ใต้เท้าของผมน่าจะเป็นสุสานหลังใหญ่หนึ่งนะ”
“ผมเอาความคิดอันนี้บอกเพื่อนสองสามคนที่ลาดตระเวนดูแลป่าด้วยกันกับผม พวกเขาต่างก็หัวเราะเยาะผมพูดว่าผมบ้าไปแล้ว”
“ผมไม่อยากถูกหัวเราะเยาะครั้นแล้วต่อมาก็ไม่พูดเรื่องเหล่านี้กับคนอื่นอีก แต่ผมลาดตระเวนเขาทุกวันมองเห็นดินที่ใต้เท้าภูเขาที่อยู่ไกล ๆ น้ำที่ด้านล่าง ผมก็ยิ่งเชื่อมั่นอย่างสนิทใจคิดว่านั่นก็คือสุสานใหญ่หลังหนึ่ง”
“ไม่แน่ว่ายังคงเป็นสุสานจักรพรรดิ”
“ช่วงเวลานั้นผมก็เหมือนสูญเสียสติแล้ว มุดเข้าในเขาอย่างไม่คำนึงถึงกลางวันและกลางคืน”
“มีคืนหนึ่งจู่ ๆ ฝนตกหนักขึ้นมาแล้ว ภายใต้ความร้อนรนผมหลงทางแล้วพนักงานดูแลรักษาป่าที่มีประสบการณ์ต่างก็รู้อากาศฝนตกหนักชนิดนั้น มุดเข้าในป่าเขามั่ว ๆ ก็คือหาที่ตาย”
“เพราะมีความเป็นไปได้มากจะเกิดดินโคลนถล่มหรือดินถล่ม แม้ว่าจะไม่มีสิ่งเหล่านี้ฝนตกหนักเอาดินรดจนอ่อนนุ่มพอไม่ระวังก็มีความเป็นไปได้ที่จะตกลงในหลุม”
“เอาตามประสบการณ์ ผมน่าจะหาสถานที่ที่สูงแห่งหนึ่งรอฝนหยุดแล้วค่อยไป”
“แต่ว่า”
พูดถึงที่นี่ผู้เฒ่าหลิวเปลี่ยนเป็นท่าทางโกรธขึ้นมา
“ผมรับปากบรรพบุรุษเล็กคนนั้นแล้ว วันนั้นจะต้องส่งเงินให้เขาแน่นอน”
“ถ้าหากส่งไปไม่ได้ สารเลวคนนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่าจะสามารถทำเรื่องที่ทำให้บรรพบุรุษขายหน้าอะไรออกมา!”
ไป๋หลิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วเสียงหนึ่ง พูด“คุณก็บรรพบุรุษเล็กอีก เป็นสารเลวอีกสรุปแล้วเขาเป็นใคร?”
เป็นลูกชายของคุณเหรอ?”
ผู้เฒ่าหลิวถอนหายใจแล้วเฮือกหนี่ง พูด“เขามีชื่อว่าหลิวเสี่ยวเป่า แม่ของเขาตายนานแล้วพวกเราสองคนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ผมมักจะรู้สึกว่าทำผิดกับเขาดังนั้นรักมากเกินไปคิดไม่ถึงกลับทำร้ายเขาแล้ว!”
ฉินเทียนพูดเสียงต่ำ“เมื่อกี้คุณพูดเชิญอาจารย์ใหญ่มาจัดวางฮวงจุ้ย หวังว่าลูกชายที่อกตัญญูจะสามารถกลับตัวได้ก็คือหมายถึงลูกชายของคุณ?”
ผู้เฒ่าหลิวพยักหน้าแล้วพูดต่อไปอีก
“วันนั้นที่จริงไม่ควรให้ผมอยู่เวร ผมยืมเงินกับเพื่อนร่วมงานสองสามคนแล้วเตรียมส่งให้หลิวเสี่ยวเป่าแต่เช้าแล้วแต่ผมจู่ ๆ รู้สึกหงุดหงิดรู้สึกว่าเลี้ยงลูกชายที่ไม่เอาไหนคนหนึ่งอย่างนี้ ดูดผมจนแห้งกลับก็ไม่เป็นไรที่สำคัญคือทำผิดต่อแม่เขา”
“ถึงยังไงเวลายังเช้าครั้นแล้วผมก็เข้าในเขา อยากที่จะระบายอารมณ์”
“ใครจะรู้เดินไปเดินมาลืมเวลาแล้ว……”
“ฝนตกหนักเตือนผมแล้ว ผมเอาตามทางในความทรงจำวิ่งออกข้างนอกอย่างต่อเนื่องสักพักใครจะรู้น้ำฝนตกหนักแล้ว ยังคงหลงทางแล้ว……”
ไป๋หลิงพูดเสียงต่ำ“ในรายงานข่าวพูดว่ามีพนักงานดูแลรักษาป่าคนหนึ่งไม่ระวังเหยียบเคว้งตกลงในหลุมดินอันหนึ่งแล้ว ก็คือทางสุสาน”
“พนักงานดูแลรักษาป่าคนนั้น ที่พูดถึงก็คือคุณใช่ไหม?”
“คือผม”ผู้เฒ่าหลิวฝืนยิ้มพูด“เพราะผมรายงานได้ทันเวลามีความดีความชอบ ยังถูกได้รับรางวัลเป็นรางวัลพลเมืองดีแล้วอีกทั้งเงินแปดร้อย”
“นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ฮุนโหวนั่นพวกคุณต่างก็มองเห็นแล้วใช่ไหม?เก็บเงินกับคนอื่น ผมสามารถเพลิดเพลินกับตั๋วเข้าชมฟรีตลอดชีวิต”
ฉินเทียนพยักหน้าพูด“คุณเอาเหตุการณ์ที่ผ่านมาพูดให้ละเอียดอีกสักหน่อย คุณตกเข้าไปได้ยังไง?”
“หลังตกเข้าไปล่ะ?”
“หลังตกเข้าไป”ย้อนกลับไปคิดถึงฉากที่ตกใจของคืนนั้น ในดวงตาของผู้เฒ่าหลิวก็ปรากฏความหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
เสียงของเขาต่างก็เปลี่ยนแล้วเล็กน้อย
“ผมคิดไม่ถึงถ้ำนั่นจะลึกอย่างนั้น ผมกับน้ำฝนและน้ำโคลนลื่นกลิ้งไปตลอดทางสุดท้ายชนเข้ากับหินใหญ่หนึ่ง ถึงถือว่าหยุดลงมาแล้ว”
“ผมถูกชนจนเวียนหัวตาลายดาวขึ้นหัว นานมากถึงได้มีปฏิกิริยามาผมใช้ไฟฉายส่องดูสภาพแวดล้อมรอบ ๆ พบว่านั่นคือถ้ำหินอันหนึ่ง”
“อีกทั้งบนหินยังสลักบุคคลต่าง ๆ ไว้ก็มีสัตว์ด้วย”
“เวลานั้นผมก็รู้นั่นคือทางสุสาน!”
“และหินเขียวใหญ่ก้อนนั้นที่ขวางผมก็เป็นเชื่อมผ่านประตูของหลุมฝังศพ”
“ผมใช้แรงผลักแล้วเดิมทีก็ไม่มีการตอบสนอง เวลานั้นผมทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น”
“มือถือก็ไม่มีสัญญาณนานแล้ว อาศัยผมร้องตระโกนจนคอแตกก็ไม่มีคนมาช่วยผมเวลานั้นผมคิดผมต้องตายอยู่ที่นั่นแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...