ชายที่อยู่ตรงหน้าดูเป็นคนซื่อๆ ฉินเทียนพูดคุยกับเขาด้วยท่าทีสุภาพและอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างมาก เขาคิดไว้ว่า หากอีกฝ่ายได้ยินแบบนี้แล้ว แม้จะไม่พาเขาไปส่งที่เกาะหวัง ต่ยังไงซะก็ต้องบอกทางให้เขาไปได้อย่างแน่นอน
คิดไม่ถึงว่า ชายซื่อๆ คนนั้น จู่ๆ อารมณ์และสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
ดาบของเขาชี้ไปทางฉินเทียนและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ไอ้ไก่อ่อน กล้าดียังไงเรียกตัวเองว่าเป็นเพื่อนกับคุณหนูใหญ่แบบนี้”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ สิ่งที่คุณหนูใหญ่เกลียดที่สุดก็คือ คนท่าดีทีเหลวอย่างเธอเนี่ยแหละ”
“บอกมานะ เธอเป็นใครกัน และคิดจะทำอะไรกันแน่!”
ฉินเทียนสีหน้าเคร่งเครียด ทำไมอยู่ๆ ตัวเองกลายเป็นคนเลวไปซะอย่างนั้นเล่า?
แถมยังกลายเป็นคนท่าดีทีเหลวอะไรของแมร่งอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าชายผู้นี้ จะรังเกียจคนเช่นนั้นเอามากๆเสียด้วยซ้ำ หรือว่า ที่ผ่านมามีคนท่าดีทีเหลวแอบอ้างเป็นเพื่อนกับหวังตัวยวี่ อยู่บ่อยๆ กันแน่นะ?
“เอออคือ พี่ชาย ฟังฉันพูดก่อน____” ตอนนี้ เขาเองไม่รู้จะอธิบายตัวตนรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหวังตัวยวี่ออกมายังไงเหมือนกัน
เขาพยายามเรียบเรียงความคิดและคำพูดด้วยความจริงใจอีกครั้ง “คือเรื่องมันเป็นเช่นนี้”
“ฉันชื่อฉินเทียน ฉันเดิมพันกับคุณหนูใหญ่ของพวกเธอเอาไว้ และโชคดีที่ฉันเป็นฝ่ายชนะ”
“แต่เขาบอกว่าเขาต้องขอกลับไปเตรียมตัวก่อน ดังนั้นเลยให้วาฬหัวทุยนำฉันมาส่งที่นี่ และเขาค่อยให้พวกเธอหาคนพาฉันไปพบกับเขาอีกที”
“ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองโทรไปหาเธอดูสิ”
ดูเหมือนคำพูดของฉินเทียนจะได้ผล ชายผู้นั้นดูเริ่มเชื่อเขาขึ้นมาบ้างแล้ว เขาหยิบมือถือออกมา เตรียมที่จะกดโทรไปหาหวังตัวยวี่
แต่ไม่รู้เขาคิดอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆ หน้าก็แดงขึ้นด้วยความเขินอาย ราวกับการโทรครั้งนี้มีความหมายมากกว่าปกติ
ฉินเทียนชะงักไปครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณคงไม่ได้แอบชอบคุณหนูใหญ่ของพวกคุณหรอกใช่ไหม?”
“พูดจาส่งเดชอะไรหน่ะ!” ชายผู้นั้นรีบร้อนตัวขึ้นมาทันที
ดูจากท่าทางของเขาแล้ว ฉินเทียนยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า ที่แท้นี่เขาก็คือแฟนคลับที่จงรักภักดีต่อคุณหนูใหญ่นี่เอง มิน่าหล่ะพอเห็นไก่อ่อนที่ดีแต่เปลือกนอกอย่างตน ถึงได้คิดเป็นปรปักษ์ด้วยแบบนี้
ฉินเทียนอดกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ จู่ๆ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองยังทางที่ไกลออกไป
เขาเห็นคนคนหนึ่งท่าทีลุกลี้ลุกลน และวิ่งตรงมาอย่างกระหืดกระหอบ
“สือซิน! รีบลงมาเร็ว!”
“เกิดเรื่องแล้ว คุณหนูใหญ่เกิดเรื่องแล้ว!” เขาวิ่งไปพลาง ตะโกนไปพลาง
อะไรนะ?
หลังจากชายผู้นั้นได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เขามองไปยังฉินเทียน และถามด้วยความตื่นตระหนกว่า “แกใช่ไหม?”
“แกทำอะไรคุณหนูใหญ่หน่ะ?”
ฉินเทียนเองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน หรือว่า หลังจากที่หวังตัวยวี่ กลับไปแล้ว จะเกิดเรื่องกับเขาขึ้น?
“คุณชื่อสือซินใช่ไหม? ฉันไม่รู้หรอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตอนที่ฉันแยกกับเธอ เธอยังดีๆอยู่เลย”
“คุณรีบโทรหาเธอสิ!”
“ถามคุณหนูใหญ่ว่าเป็นยังไงบ้าง?”
ไม่ว่ายังไง เมื่อครู่เขากับหวังตัวยวี่ เพิ่งผ่านประสบการณ์ความเป็นความตายมาด้วยกัน พวกเขาไม่อยากเห็นอีกฝ่ายต้องเกิดเรื่องอะไรทั้งสิ้น
นอกจากนั้น เขาจะได้หลินจือเลือดอย่างราบรื่นหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับหวังตัวยวี่ด้วย เกิดเรื่องขึ้นได้ยังไงหล่ะ!
สือซิน เขาไม่ได้โทรศัพท์ แต่กลับวิ่งเข้าไปจับไหล่ของผู้มาเยือน และพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “คุณหนูใหญ่เป็นอะไร? รีบบอกมานะ!”
ผู้มาเยือนอายุสามสิบกว่าๆ ไว้หนวดสองข้าง ผิวขาวดูสะอาดสะอ้าน ดูแล้วเป็นคนที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
ไหล่ทั้งสองข้างของเขาถูกสองมือใหญ่อันหยาบกร้านของสือซินจับล็อกไว้อย่างแน่น จนกระดูกสะบักแทบจะหัก เขาผลักสือซินออกไปด้วยความโมโหและพูดว่า “อะไรของแกหน่ะ ไม่ต้องตื่นเต้น ฟังฉันพูดก่อน!”
“____เขาเป็นใครหน่ะ?”
“เป็นคนบนเกาะของพวกเราหรือเปล่า? ทำไมฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย”
เมื่อสังเกตเห็นฉินเทียนที่ยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าของเจ้าหนวดเคราก็เกิดความสงสัย
สือซินไม่ได้สนใจอะไร เขารีบพูดต่อว่า “เธอไม่ต้องยุ่งนักหรอก รีบบอกมาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!”
เจ้าหนวดเครายิ้มและพูดว่า “เห็นเธอร้อนใจขนาดนี้ ที่ฉันเคยบอกว่าเธอแอบชอบคุณหนูใหญ่อยู่ ป่านนี้เธอยังไม่ยอมรับอีกหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...