ฉันชื่อ ลูก้า สจ๊วต มันเป็นชื่อแปลก ๆ ใช่ไหม? แบบว่ามันเหมือนกับคำว่า ‘ดูสิ! สตูว์’
คุณปู่ของฉันตั้งชื่อให้ฉัน ประสบการณ์หลายปีของฉันตอนเป็นเด็กบอกฉันว่าปู่ของฉันไม่ใช่ผู้ชายที่ดี
ไม่ต้องนึกถึงเรื่องอื่นเลย แค่ดูชื่อที่เขาตั้งให้ฉันสิ เขามีชื่อที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับตั้งชื่อแปลก ๆ นี้ให้กับฉัน
อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่ฉันทักท้วงเรื่องนี้กับเขา เขามักจะบอกว่านั่นเป็นความผิดของพ่อฉัน ถ้าพ่อเป็นเด็กผู้หญิงนั่นจะเป็นชื่อของเขาแทน
ดูสิ คุณปู่เป็นคนที่ตั้งชื่อที่น่ากลัวนี้ให้ฉัน แต่เขายังคงโยนความผิดทั้งหมดให้พ่อของฉัน
อ้อ ลืมแนะนำตัวอย่างเป็นทางการไปเลย
ปู่ของฉันชื่อ ฌอน สจ๊วต
เขาค่อนข้างเป็นคนที่น่าทึ่งในวัยเยาว์
ย่าของฉันชื่อ เจน ดันน์
บางครั้งฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งสองคนลงเอยด้วยกันได้อย่างไร พวกเขาเป็นคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะ
ปู่กับย่าของฉันได้หย่าร้างกันก่อนที่พ่อของฉันจะเกิดเสียอีก
หลังจากการหย่าร้างครั้งนั้น ทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงานกันใหม่นะ
พวกเขาน่าจะแยกทางกันไปอย่างสันติ แต่คุณปู่ก็ไร้ยางอายอย่างที่สุด เขาจึงคอยรบกวนคุณย่าของฉันตลอดเวลาเลย
เท่าที่ฉันจำได้ คุณปู่ทำทุกอย่างเท่าที่เขาจะทำได้เพื่อเอาชนะใจคุณย่า
คุณปู่เอลิออร์บอกฉันว่า "ปู่ของคุณไม่เคยก้มหัวให้ใครเลยตลอดชีวิต เขาเป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจและโหดเหี้ยมจริง ๆ ทุกคนต่างก็กลัวเขา"
ไม่ว่าฉันจะมองยังไง มันก็ดูเหมือนว่าคุณปู่เอลิออร์โกหกอยู่เสมอเลย
ถ้าคุณปู่ของฉันน่าประทับใจเช่นนั้นจริง ๆ ทำไมเขาถึงโค้งคำนับ และสะอื้นเหมือนโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ของเราทุกครั้งที่คุณยายจ้องมองเขา
นอกจากนี้ คุณเคยเห็นชายร่างใหญ่น่าเกรงขาม ที่มีทักษะการทำอาหารระดับเชฟโรงแรมระดับห้าดาวมาบ้างหรือไม่?
ตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันรู้เสมอว่าการทำอาหารของคุณปู่นั้นดีที่สุดในบ้าน เขาเก่งกว่าเชฟของโรงแรมที่เราจ้างมาที่บ้านเสียด้วยซ้ำ
ในทุก ๆ เช้าคุณปู่จะตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อพาสุนัขไปเดินเล่น ทุกครั้งที่กลับบ้านเขาจะถือถุงวัตถุดิบทำอาหารติดตัวกลับเข้ามาด้วย
เขาจะใช้เวลาทั้งเช้าของเขายุ่งอยู่ในครัว เมื่อถึงเวลาที่คุณย่าตื่นขึ้นมาจะต้องมีอาหารเช้าร้อน ๆ วางอยู่บนโต๊ะอาหารอย่างแน่นอน มันอาจจะไม่หรูหรามากนัก แต่มันก็ดูอบอุ่นเสมอ
คุณย่าไม่ได้ทำงานบ้านอะไรเลยในบ้าน ส่วนใหญ่ที่เธอทำคือการรดน้ำดอกไม้ในสวน คุณปู่บอกว่าคุณยายสมบูรณ์แบบในแบบที่เธอเป็น
ครั้งหนึ่งฉันแอบถามคุณปู่ว่า "คุณตื่นเช้ามาทำอาหารทุกเช้าคุณทำอาหารสามมื้อต่อวัน และยังไปทำงานทุกวันอีกด้วย แม้แต่คนปกติที่ทำงานและไม่ได้ทำอาหารอย่างเช่นคุณปู่ พวกเขาเหล่านั้นยังมีวันหยุด แต่คุณไม่เคยหยุดทำงานเลยใช่ไหม เหนื่อยบ้างหรือเปล่า?"
คุณปู่มองไปที่สวนซึ่งคุณยายกำลังทานขนม และจิบน้ำชาที่เขาทำเองอยู่ ชายชรายิ้มเหมือนคนโง่ ชายชรากล่าวว่า
"ตราบใดที่คุณย่าของคุณชอบ ฉันก็ยินดีที่จะทำทุกอย่าง ฉันยินดีที่จะเอาอกเอาใจเธอ มันจะดีที่สุดถ้าฉันสามารถเอาอกเอาใจเธอได้มาก จนเธอจะไม่มองผู้ชายคนอื่น ด้วยวิธีนั้นคุณย่าของคุณก็จะไม่คิดที่จะทิ้งฉันไปเลยตลอดชีวิต"
นอกเหนือจากนั้นยังมีสิ่งเล็ก ๆ อีกมากมาย
สิ่งที่ฉันรู้ก็คือคุณปู่ทำทุกอย่างให้คุณย่า ที่ฉันสามารถอธิบายสิ่งเหล่านั้นที่เขาทำได้มีเพียงแค่คำว่า "บ้า" เท่านั้น
ฉันมักจะรู้สึกราวกับว่าคุณย่านั้นใจร้ายมาก คุณปู่ดีกับเธอมาก แต่เธอไม่เคยตกลงแต่งงานกับเขาอีกเลย คุณปู่ไม่เคยดุฉันเลย แต่เมื่อฉันพูดถึงเขาเพียงครั้งเดียว เขาก็ตบฉันอย่างแรง คุณปู่พูดว่า "เด็กเลว! ถ้าคุณคิดว่าคุณย่าของคุณเป็นแบบนั้นอีกครั้ง ฉันจะฆ่าคุณ”
“คุณย่าของคุณ เป็นคุณย่าที่ดีที่สุดในโลกเลย”
“จำเอาไว้ ว่าคุณต้องกตัญญูต่อเธอเสมอ”
"คุณไม่จำเป็นต้องกตัญญูกับฉัน แต่ถ้าคุณกล้าดูหมิ่นเธอแม้แต่นิด ฉันจะไม่ทำหมูตุ๋นเกาลัดให้คุณอีกแล้ว"
ตอนนั้นฉันค่อนข้างที่จะอารมณ์เสีย แต่ท้ายที่สุด ที่ฉันทำฉันแค่พยายามประท้วงว่ามันไม่ยุติธรรมกับคุณปู่มากแค่ไหน
หลังจากนั้นฉันก็ได้รู้เกี่ยวกับอดีตที่ปู่กับย่าของฉันผ่านมา
ในกลางดึกคืนหนึ่ง ฉันหิวจึงลุกจากเตียงไปหาอะไรกิน เมื่อฉันเดินผ่านห้องของคุณย่า ประตูเปิดอยู่ครึ่งหนึ่งฉันจึงแอบมองเข้าไปข้างในด้วยความอยากรู้อยากเห็น สิ่งที่ฉันเห็นเกือบทำให้ฉันล้มลง
คุณปู่จับเท้าคุณย่าแล้วกอดแนบอก
ถึงอย่างนั้น ฉันก็พบว่ามันไม่น่าเชื่อ ฉันวิ่งไปที่ห้องพ่อของฉันและถามทันทีว่า "คุณปู่เป็นคนวิปริตหรือเปล่าฉันเห็นเขากอดเท้าของคุณย่าเมื่อกี้?”
"ปู่ของลูก แค่ทำให้เท้าของคุณย่าอุ่นขึ้น ร่างกายของคุณย่าของลูกไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์นัก มือ และเท้าของเธอก็เย็นเป็นน้ำแข็งอยู่เสมอ ปู่ของลูกทนไม่ได้ที่เห็นเธอเป็นแบบนั้น เพียงแค่แสร้งทำเป็นว่าลูกไม่เห็นแล้วกัน หรืออะไรก็ได้แต่อย่าพูดถึงมีนอีกเลย"
“แต่ว่า ทำไม?”
"เพราะปู่ของลูก จะสั่งให้ลูกนั่งเขียนเส้นตรงในสมุด เพื่อเป็นการลงโทษ"
“แล้วคุณพ่อรู้ได้ยังไง?”
"มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และยาวนานมา เป็นเด็กดีนะลูก้า กลับไปที่ห้องของลูก แม่ของลูกกับพ่อยังมีอะไรที่ต้องทำ"
ถึงคุณปู่ และคุณย่าไม่เคยแต่งงานใหม่ แต่ความทรงจำในวัยเด็กของฉันมันก็เต็มไปคุณปู่กับย่าที่อยู่ด้วยกัน
คุณย่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยพูด แต่ทุกครั้งที่เธอพูดอะไรบางอย่าง จะไม่มีใครในบ้านขัดขืนคำพูดของเธอเลย
ไม่ใช่เพราะพวกเขากลัวคุณย่า เป็นเพราะคุณปู่คอยปกป้องเธอเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ตอนเป็นเด็กฉันยังไม่เข้าใจช่วงเวลาที่มีคนจากไปตลอดนิรันดิ์จริง ๆ วันที่ฉันได้ลิ้มรสมันครั้งแรก ก็คือวันที่คุณย่าเสียชีวิต
ตอนนั้นฉันอายุแปดขวบ นั่นคือปีที่คุณย่าเสียชีวิต
เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ตามปกติคุณย่ามักจะนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนกินขนมจิบน้ำชาที่คุณปู่ทำไว้ให้ งานอดิเรกสุดโปรดของคุณย่า คือการนั่งเก้าอี้โยกใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น เมื่อเธอเริ่มเหนื่อย เธอมักจะนอนสักงีบที่นั่น
คุณปู่มักจะเอาผ้าห่มบาง ๆ คลุมตัวเธอ และจดเวลาไว้ เมื่อถึงเวลาเขาจะไปปลุกเธอ
ในวันนั้นคุณปู่ไม่สามารถปลุกคุณย่าให้ตื่นขึ้นมาได้อีกเลย
คุณย่าโยกตัวเล็กน้อยบนเก้าอี้โยกพร้อมกับลม เมื่อโลกกลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังฤดูหนาวเธอก็นอนบนเก้าอี้โยก และจากไปอย่างสงบ
คุณย่าไม่ได้เป็นโรคอะไรร้ายแรง แต่ในช่วงบ่ายฤดูใบไม้ผลินั้นเธอกลับจากโลกใบนี้ไปอย่างเงียบ ๆ
เธอทิ้งคุณปู่ไป
ฉันจะไม่มีวันลืมฉากนั้น คุณปู่เป็นคนที่เข้มแข็ง และเคร่งขรึมเสมอ แต่ในเวลานั้นดวงตาของเขาเปียกปอนไปด้วยน้ำตา และเขาก็ร้องไห้อย่างเปิดเผย เป็นเวลานานมากที่เขาหมอบลงข้าง ๆ เก้าอี้โยกของคุณยาย ฉันจะไม่มีวันลืมฉากนั้นเลย มือของเขาจับมือของคุณย่าอย่างแน่นหนา มือของคุณย่าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเย็น และแข็ง ตอนนั้นคุณปู่ร้องไห้เหมือนเด็ก ๆ เลย
พ่อแม่ของฉันยืนอยู่ไม่ไกล แต่พวกเขาไม่ได้ก้าวเข้าไปในสวนเล็ก ๆ นั้น ย้อนกลับไปตอนนั้นฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก พวกเขาไม่รู้สึกเสียใจบ้างเลยเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงเสน่หา คุณชาย อันตราย
‘ งั้นเขาจะช่วยให้เธอฟื้นคืนความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีที่หายไป -’ โอ๊ย ก็มึงนั่นแหล่ะเป็นคนทำให้เจนตกอยู่ในสภาพแบบนี้...
อ่านแล้วก็อึดอัดแทน อยากให้ความจริงเปิดเผยเร็ว ๆ และเจนสามารถออกไปใช้ชีวิตดี ๆ อยู่ห่าง ๆ จากคนสารเลวพวกนี้ ไม่อยากให้ให้อภัยใครเลย...