จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1297

โอสถตราสวรรค์หนึ่งดาว!

เย่หยวนมิได้ทราบเลยว่า ตนได้กลายมาเป็นลูกแกะอ้วนที่กำลังจะถูกลอบสังหาร

ยามนี้ สิ่งที่ทำให้เขาปวดเศียรที่สุดคือ การหาวิธีซ่อมแซมทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์และกู้คืนพลังปราณทั้งหมดกลับมา

ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้รับความเสียหายแสนสาหัส เย่หยวนจึงไม่สามารถหลอมกลั่นโอสถใดๆได้เลย

เรื่องหลอมกลั่นโอสถจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากเขายังไม่สามารถซ่อมแซมในส่วนนี้จนกลับมาเป็นดังเดิมได้

ช่างเป็นวัฏจักรปัญหาที่ไร้รู้จบโดยแท้สำหรับเขา

นี่อาจกล่าวได้ว่า เย่หยวนในปัจจุบันไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาที่มิได้รู้เรื่องโอสถเลยสักนิด

เขาผู้ทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าได้ด้วยยอดเต๋าแห่งโอสถ ทว่ายามนี้กลับกลายมาเป็นผู้ไร้ความสามารถในเส้นทางแห่งโอสถไปโดยปริยาย

เย่หยวนในปัจจุบันกำลังมืดแปดด้าน!

“ท่านอาวุโสหวูเฉิน ผู้เยาว์มีข้อสงสัย ท่านมีหนทางช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของข้าในตอนนี้บ้างหรือไม่?”

เย่หยวนไร้ซึ่งที่พึ่งอื่นใด ทำได้แต่หันหาหวูเฉินเพื่อขอคำแนะนำ

ท้ายที่สุดนี้ หวูเฉินถือเป็นผู้ติดตามจอมเทพนิรันดร์มาอย่างยาวนาน ทั้งบุกตะลุยท่องทะยานสำรวจทั่วมหาพิภพถงเทียนไร้จำกัดตามใจนึก ขอบเขตความรู้ของเขาย่อมกว้างไพศาลกว่าเย่หยวนมากมายนัก

หวูเฉินเหลียวสายตากวาดมองเย่หยวนเล็กน้อย และกล่าวขึ้นว่า

“เดี๋ยวนี้รู้จักขอคำแนะนำจากเราชายชราแล้ว? หากเจ้าเชื่อฟังข้าตั้งแต่ต้น คงไม่เกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้เป็นแน่แท้ แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร? รู้ซึ้งถึงผลลัพธ์ที่ตนหัวรั้นแล้วกระมัง?”

เย่หยวนคลี่หัวเราะแห้งเบาๆ แต่มิได้เอ่ยปากกล่าวอันใดตอบ

หวูเฉินกล่าวขึ้นพลางแสยะยิ้มเย็นเอ่ยว่า

“เจ้าหนู ข้ามิได้พูดให้เจ้ากลัว แต่สภาพของเข้าในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนพิการเลย ถึงแบบนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี กระนั้นเอง หากเจ้าต้องการซ่อมแซมทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ อย่างน้อยต้องรอเวลาไปอีกร้อยปี!”

แต่คู่ดวงเนตรของเย่หยวนพลันทอประกายสว่างไสว เขากล่าวขึ้นอย่างมีความหวัง

“เพียงวิถีทางนับเป็นเรื่องดียิ่งแล้ว แค่ร้อยปีกลับนับเป็นอันใด?”

หวูเฉินสวนตอบทันทีพร้อมรอยยิ้มสีเย็นว่า

“เหอะ หนึ่งร้อยปีไม่นับเป็นอันใดสำหรับเจ้าก็จริง ทว่าสหายของเจ้ากลับรอไม่ไหว!”

สีหน้าการแสดงออกพลันผันแปรในบัดดล เย่หยวนหน้าถอดสีน่าเกลียด เขากล่าวขึ้นอย่างไม่แน่ใจว่า

“ท่านอาวุโสหมายความอย่างไร? หรือเป็นไปได้ไหมที่ ไข่มุกสยบวิญญาณไม่สามารถคงสภาพจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลินเสวียได้เกินร้อยปี?”

หวูเฉินกล่าวตอบอย่างไร้ประโยชน์ขึ้นว่า

“หากข้ามีพลังสภาวะอยู่ในจุดสุดยอดดั่งกาลอดีต ลืมไปเลยกับแค่ร้อยปี ต่อให้เป็นล้านปีก็หาใช่ปัญหาเช่นกัน! แต่ตัวข้าในตอนนี้ อย่างนานที่สุดก็อยู่ได้อีกประมาณสิบปี และข้าจะเข้าสู่สภาวะจำศีลอีกครั้ง”

หัวใจพลันเต้นกระหน่ำไม่หยุดหย่อน เย่หยวนไม่คิดเลยว่า สภาพของหวูเฉินในปัจจุบันจะเลวร้ายถึงขั้นนี้

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและกล่าวว่า

“ท่านอาวุโส แล้วผู้เยาว์จะช่วยท่านฟื้นพลังได้อย่างไร?”

คุนหวูถอนหายใจเฮือกใหญ่และกล่าวว่า

“สามสมบัติเวทย์สวรรค์ถูกเชื่อมผสานกันโดยโลหิตของจอมเทพนิรันดร์ เมื่อจอมเทพนิรันดร์ล่วงลับจากไป สามสมบัติเวทย์สวรรค์ย่อมได้รับผลกระทบรุนแรงตามไปด้วยเช่นกัน ถึงขั้นที่ว่าสูญเสียพลังกันไปเกินครึ่งต่อครึ่ง นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องตกสู่สภาวะจำศีลตลอดมา หลังจากที่ข้าตื่นขึ้นอีกครั้ง หากเจ้าไม่สามารถเสาะหาแหล่งพลังงานที่มากเพียงพอสำหรับหล่อเลี้ยงเราชายชรา อีกไม่นานเกินรอ คงต้องตกสู่การจำศีลอีกครั้ง แต่เดิม พลังวิญญาณของพฤกษาวิญญาณมรณะที่ดูดกลืนเข้าไป มันก็ต่อชีวิตให้ข้าห่างไกลจากสภาวะจำศีลแล้ว แต่เพราะจำต้องใช้จ่ายพลังเพื่อรักษาสหายของเจ้า ข้าถึงกลับสู่สภาวะอ่อนเพลียจัด คงอยู่ได้ไม่ถึงสิบปีด้วยซ้ำ!”

ได้ฟังดังนั้น เย่หยวนตระหนักทราบทันทีว่า สถานการณ์ในปัจจุบันมันร้ายแรงเพียงใด

ทันทีที่หวูเฉินหลับไปอีกครั้ง เขาจะไม่สามารถคงสภาพจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของมู่หลินเสวียได้อีกต่อไป และนางจะต้องตายในท้ายที่สุด

หนทางรอดเดียวคือ เขาจะต้องเสาะหาพลังวิญญาณปริมาณมหาศาล เพื่อมาบำรุงไข่มุกสยบวิญญาณ!

แต่ภายใต้สภาพปัจจุบันของเย่หยวน เขาจะมีปัญญาหาพลังงานมาบำรุงจากแห่งหนใด?

ก่อนอื่นก่อนใด เขาจำต้องฟื้นคืนพลังให้ได้เสียก่อนเป็นอันดับแรก

ระยะเวลาแค่สิบปี กลับสั้นเพียงดีดนิ้วสำหรับในมหาพิภพถงเทียน ด้วยเวลาเพียงเท่านี้ ผู้ฝึกปรือยังไม่ทันทำอะไรเลย

เหล่านักสู้ของที่นี่อย่างน้อยล้วนต้องบ่มเพาะพลังกันเป็นหลักแสนปีขึ้นไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ