จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1315

หนูข้ามถนน

ซูหลิงปู้สั่งให้หงหยิงถ่ายถอดเนื้อความออกไปทั้งหมดโดยละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นเขาพลันถอนหายใจเสียงใหญ่และทิ้งท้ายไปว่า

“เฮ้อ…ชสาวน้อยผู้น่าสงสาร หงหยิงพาแม่นางหวางหรูกลับไปพักผ่อนเถอะ!”

ด้วยนิสัยของเหลัยงหวางหรู การจะผลักดันนางจนมาถึงจุดนี้ได้กลับมิใช่เรื่องง่ายเลย

ในตอนนั้น ไม่ว่าเหลียงหวางหรูจะถูกทุบตีอย่างไร นางก็เลือกที่จะให้อภัยมทาโดยตลอด

แต่ความเฉยเมยของเหลียงหมิงอี้ที่มีต่อนางในครั้งนี้ จึงทำให้เหลียงหวางหรูสูญเสียความหวังและความเชื่อใจทั้งหมดไป

ในที่สุดนางก็ตาสว่าง ตระกูลเหลียงแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีที่ว่างสำหรับนางอีกต่อไป

ยามนี้ฝูงชนพินิจจับจ้องไปยังเหลียงหวางหรูที่เดินกลับไปทั้งน้ำตา ประกอบคำเนื้อความจากที่เขียนทั้งหมด สิ่งที่ทำให้หลายต่อหลายคนเห็นใจไปตามๆกัน

นี่คือเนื้อความที่ถูกกลั่นกรองมาจากประสบการณ์อันแสนขมขื่นตลอดหลายปีของนาง

ทันทีทันใด หวังเพียนหลานรู้สึกได้ถึงจิตสังหารจากคนรอบข้างที่รายล้อม ทุกสายตาต่างจับจ้องนางด้วยความรังเกียจสุดหัวใจ

สายตานั้นยังเผยให้เห็นถึงความโกรธเกรี้ยว ที่พวกตนถูกสุกรอ้วนนี่หลอกใช้ประโยชน์!

จำต้องหน้าด้านเพียงใด ถึงบอกว่าเหลียงหวางหรูเปรียบเสมือนลูกแท้ๆ

ทั้งที่ความเป็นจริง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เหลียงหวางหรูถูกทุบตีดุด่าราวกับไม่ใช่คน

ส่วนเรื่องอื่นๆ คงไม่จำเป็นต้องกล่าวอันใดอีก!

“เจ้า…พวกเจ้าจะทำอะไร? ข้า…พี่ชายของข้าเป็นถึงประมุขตระกูลหวัง หวังหลินโป!”

หวังเพียนหลานตะคอกขู่ทุกคนเสียงดังลั่น

“ถุย!! ตระกูลหวังมันแน่แค่ไหนเชียว!”

เสมหะสีขาวขุ่นก้อนใหญ่พุ่งแปะหน้าหวังเพียนหลานอย่างแม่นยำ จากนั้นยังมีธารเสมหะจากฝูงชนนับไม่ถ้วนถ่มถุยกระหน่ำใส่ทั่วหน้าทั่วตัวของหวังเพียนหลานต่อไม่หยุดหย่อน

เสี้ยวอึดใจต่อมา กลิ่นเน่าเหม็นพลันคลุ้งไปทั่วร่างอ้วนๆของนาง จนนางหายใจแทบไม่ออก

นางเร่งปรี่ร้นถอยในทันใด แต่ต้องพลาดสะดุดขาตัวเองจนล้มขมำไปกับพื้นดิน นี่ยิ่งเข้าทางทุกคน ฝูงชนทั่วสารทิศตรงเข้ามากระหน่ำถุยเสมหะก้อนหนาอัดนางประดุจสายฝน

“ถุย! ไอ้สวะ!”

“ถุย!! รีบๆไปให้พ้นหน้า!”

“ถุย! คิดว่าตัวเองวิเศษวิโสเพียงใด! ไสหัวไป!”

……………..

คำสาปแช่งพร้อมน้ำลายปนก้อนเสมหะสาดกระเซ็นจากทั่วทุกมุม หวังเพียนหลานในยามนี้เนื้อตัวเปียกชโลมน้ำลายเหนียว ส่งกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากร่างกาย

เมื่อทุกคนตระหนักได้ว่าตนถูกหลอกใช้ ความงจริงเผยปรากฏ พวกเขาโกรธเกี้ยวเป็นที่สุด

ยามนี้ถ่มถุยน้ลายจนปากแห้ง บางคนถึงขั้นสั่งน้ำมูกใส่จนหวังเพียนหลานไม่มีที่หลบ

“กรี๊ดด! กรี๊ดด! กรี๊ดดด!! น่าขยะแขยง! ไอ้พวกบัดซบ! พวกแก…พวกแกตายแน่! ข้าจะสั่งให้พี่ขายมาไล่ฆ่าพวกแกทีละคน อ๊อกก…”

ในขณะที่หวังเพียนหลานกำลังอ้าปากตะโกนขู่ ก็มีเสมหะก้อนหนึ่งพุ่งเข้าปากนางโดยตรง

นางไม่สามารถทนรับไหวอีกต่อไป และเริ่มอาเจียนออกมากองกับพื้น

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

ทุกคนต่างหัวเราะเยาะด้วยความสะใจ

ภาพฉากในขณะนี้คือ หวังเพียนหลานที่กำลังนอนจมกองอ้วกพร้อมก้อนเสหมะชโลมทั่วร่าง คำขู่ของหวังเพียนหลานกลับไม่มีผลอันใดเลย ซึ่งหากกล่าวตามจริง ไม่ว่าตระกูลหวังจะทรงอิทธิพลอย่างไร แต่การจะฆ่าล้างผู้คนจำนวนมหาศาลขนาดนี้กลับไม่มีทางเป็นไปได้

หวังเพียนหลานในปัจจุบัน ไม่ต่างอะไรกับสุกรที่ถูกทุกคนถ่มถุยทุบตีอย่างสนุกมือ

อย่างไรก็ตามแต่ ถึงทุกคนจะมุงรังแกนางเพียงใด ทว่านั้นไม่ถึงขั้นฆ่าแกง ซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอจนทำให้นางจำฝังใจไปชั่วชีวิตแล้ว

ในความเป็นจริง ปล่อยให้นางตายไปยังดีเสียกว่าด้วยซ้ำ

แม่เลี้ยงชั่วควรได้รับความอัปยศเช่นนี้

เนื่องจากหวังเพียนหลานไม่สามารถพยุงตัวขึ้นได้เลย ดังนั้นเหล่าผู้ใต้บัญชาของนางจึงทำให้เพียงแหวกฝูงชนเข้ามาช่วย และนำตัวนางออกจากหอมหาสมบัติทันที

หวังหลิงโปที่เห็นแบบนั้นช่างมีความสุขประดุจบุปผางามบานในใจ เห็นยามนี้หวังเพียนหลานจากไป เขาก็แยปากกล่าวขึ้นพร้อมเสียงดังฟังชัดว่า

“ตอนนี้ ทุกท่านคงทราบแล้วใช่หรือไม่ หอมหาสมบัติของเราหาใช่ฆาตกร ในภายภาคหน้า หากมีใครถูกวางยาพิษ สามารถมาได้ที่หอมหาสมบัติของเรา! ทุกท่านจงมั่นใจ ข้าคนนี้ขอรับประกัน โอสถถอนพิษของที่นี่มีประสิทธิภาพดีเลิศ!”

เมื่อคำกล่าวเช่นนี้ออกมา ต่างทำให้ทุกคนตื่นตะลึงในทันใด!

“ผู้จัดการซู ท่านกำลังจะบอกว่า…ไม่มีพิษชนิดใดที่พวกท่านไม่สามารถถอนได้?”

มีบางคนกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย

ซูหลิงปู้ยิ้มและกล่าวว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ