จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1317

สุสานวิญญาณร้าย

“อืม สวรรค์ตอบแทนด้วยความซื่อสัตย์ ในที่สุดข้าก็ฟื้นกลับเป็นปกติ!”

เย่หยวนหาได้มีเจตนาปกปิดใดๆ แต่ก็ยอมรับออกมาตามตรง

ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะอยู่อย่างไรเขาก็เป็นเพียงคนพิการไร้ความสามารถคนหนึ่ง แต่ภาพฉากในปัจจุบันกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

สำหรับซูหลิงปู้ที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จากเศษผ้าขาดกลับกลายมาเป็นผ้าไหมลายคราม ความตื่นตะลึงที่ก่อเกิดภายในใจช่างเกินพรรณนาอย่างแท้จริง

ซูหลิงปู้เองก็เป็นจอมเทพโอสถหนึ่งดาวเช่นกัน เช่นนั้นเขาย่อมตระหนักแจ่มแจ้ง โอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวหลอมกลั่นยากเพียงใด

ในบรรดาจอมเทพโอสถหนึ่งดาวทั้งหมด ไม่มีใครสามารถหลอมกลั่นได้แน่นอน

ยื่นมองสองข้างจับไหล่เย่หยวนอย่าเบามือ ซูหิงปู้กล่าวขึ้นว่า

“เจ้า…เจ้าสามารถหลอมกลั่นโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวได้แล้วจริงๆ?”

โอสถตราสวรรค์หนึ่งดาว ถึงจะเป็นโอสถระดับหนึ่ง แค่นี่คล้ายเป็นมวยข้ามรุ่นที่ซับซ้อนเสียยิ่งกว่าโอสถล้างพิษขั้นเทวะหลายทวีเท่า

แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดกลับหาใช่ตรงส่วนนั้น สูตรโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวหาใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะรู้ได้เลย

สำหรับเย่หยวนที่สามารถหลอมกลั่นโอสถชนิดนี้ได้ นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า ภูมิหลังของเขาหาใช่คนธรรมดาทั่วไป!

เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า

“หากข้าไม่สามารถหลอมกลั่นโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวได้ ข้าก็ไม่สามารถซ่อมแซมทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ได้เช่นกัน”

“ฟู่วว…”

ซูหลิงปู้พรูไอเย็น กวาดสายตาเข้าจับจ้องเย่หยวนประดุจเห็นผีและกล่าวว่า

“เจ้าเด็กคนนี้ สัตว์ประหลาดชัดๆ! แต่เจ้ามาได้จังหวะดีจริงๆ ถ้ายังไม่ออกมา เราชายชราคนนี้จะตามออกมาเอง!”

เย่หยวนเอ่ยถามอย่างงุนงง

“นี่มีเรื่องอันใดกัน?”

ซูหลิงปู้กล่าวตอบว่า

“เจ้าคงยังไม่ทราบ หลายปีมานี้ โอสถที่เจ้าหลอมกลั่นกับมือเป็นที่นิยมยิ่งในเมืองกุยฉาง…”

จากนั้นซูหลิงปู้ก็เริ่มเอ่ยเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดในรอบหลายปีมานี้ เย่หยวนที่ได้ฟังทั้งหมดพลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่า โอสถที่เขาหลอมกลั่นจะเป็นที่ต้องการขนาดนี้จริงๆ

เย่หยวนกล่าวตอบไปตามตรงทันทีว่า

“เช่นนั้น ข้าขอเวลาชั่วครู่หนึ่งเพื่อหลอมกลั่นโอสถมาเพิ่ม ข้าไม่กล้ากล่าวไปถึงโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งชั้นกลาง แต่หากเป็นชั้นต่ำ ย่อมมิใช่ปัญหา”

ซูหลิงปู้ตื่นเต้นดีใจอย่างมากเมื่อได้ฟังและกล่าวตอบว่า

“หุหุ เด็กคนนี้รู้หน้าที่มีความรับผิดชอบ! เช่นนั้นต้องเดือดร้อนเจ้าแล้ว!”

เย่หยวนตระหนักดีว่า เขาเป็นหนี้บุญคุณของหอมหาสมบัติครั้งใหญ่ หากไม่มีหอมหาสมบัติตัดสินใจช่วยเหลือเขา ทั้งผลึกปราณเทวะและสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลขนาดนั้น เขาไม่มีโอกาสได้มาแน่นอน และสุดท้ายนี้ คงไม่จัดห้องอำนวยความสะดวกให้แก่เขาได้เก็บตัวเป็นเวลาสิบปี

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลกำไรที่เย่หยวนได้มาก กลับเทียบไม่ได้กับที่สิ่งหอมหาสมบัติได้รับจากเย่หยวน ที่หอมหาสมบัติรุ่งเรือนจนถึงทุกวันนี้ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะกองโอสถที่เย่หยวนทิ้งเอาไว้ให้เมื่อสิบปีก่อน

ในช่วงสิบปีมานี้ มาตรได้ว่า หอมหาสมบัติรุ่งโรจน์ถึงขีดสุดจนสามารถบดขยี้สามตระกูลใหญ่จนจมดินและเงยหน้าขึ้นไม่ได้เป็นเวลานาน

ในเรื่องนี้ย่อมเกี่ยวพันถึงเย่หยวนแน่นอน

เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวว่า

“โอ้ใช่แล้ว ในห้องที่ข้าเก็บตัวมีกองโอสถที่ข้าหลอมกลั่นเยอะพอสมควร ท่านส่งคนไปจัดการได้ตามสะดวกก่อนเลย หรือหากท่านต้องการโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะ ก็สามารถให้ข้าหลอมกลั่นได้หลังจากนี้ ส่งรายการโอสถที่ต้องการกับสมุนไพรมาที่ห้องได้เลย ข้าขอไปเยี่ยมแม่นางหวางหรูก่อนเป็นอันดับแรก”

ซูหลิงปู้เร่งกล่าวขึ้นทันที

“แน่นอน แน่นอนเลย! แต่จะว่าไป…หลายปีมานี้ แม่นางหวางหรูเฝ้าคิดถึงเจ้าไม่เว้นวัน!”

เย่หยวนคลี่ยิ้มเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นจู่ๆเขาด็เอ่ยถามขึ้นว่า

“จะว่าไปแล้ว ผู้จัดการซู ท่านพอจะทราบหรือไม่ว่า ใกล้ๆเมืองกุยฉางมีสุสานวิญญาณร้ายตั้งอยู่หรือไม่?”

สีหน้าการแสดงออกของซูหลิงปู้เปลี่ยนไปทันใด เขาพินิจครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนกล่าวขึ้นว่า

“เจ้ากำลังเสาะหาสถานที่เช่นนั้นไปเพื่ออันใด? สุสานวิญญาณร้ายหาใช่สถานที่ดีไม่!”

ก่อนหน้าหวูเฉินเคยกล่าวไว้ว่า บริเวณเมืองต่างๆบนมหาพิภพถงเทียน ยังมีสถานที่ชนิดหนึ่งที่ปรากฏขึ้นให้เห็นทั่วไป ซึ่งนั้นมีนามว่า สุสานวิญญาณร้าย

สุสานวิญญาณร้ายเป็นป่าช้าของเหล่าเซียนที่ตายลงอย่างไม่ปกติ บางคนถูกใส่ร้ายยัดเยียดความอยุติธรรม บางคนตายลงพร้อมกับความอาฆาต มันเป็นแหล่งรวมวิญญาณชั่วร้ายจนหลอมรวมกลายเป็นสุสานวิญญาณร้าย

เนื่องจาก หลังขึ้นกลายเป็นอาณาจักรพระเจ้า เหล่าเซียนพวกนี้จะมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งยิ่ง แม้กายเนื้อสิ้นอายุขัย แต่จิตวิญญาณยังคงอยู่ พวกมันในสุสานวิญญาณร้ายชอบไล่ฆ่าสังหารกันเองเพื่อความอยู่รอด กินพลังวิญญาณของวิญญาณตนอื่นเพื่อเสริมแกร่งให้ตนเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ