จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1331

ตอนที่1331 อักขระร้อยภูตเต๋า!

“วะ-วิญญาณชั่วสองดาว?”

สีหน้าของฉางเหลียนมืดตกลงกะทันหัน สายตาของเขาจับจ้องไปที่ชายรูปงามคนนั้นด้วยความหวาดกลัว

แม้นั้นจะเป็นเพียงคำบอกเล่าว่ามีวิญญาณชั่วสองดาวภายในสุสานสายลมหยิน แต่ก็ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนเช่นกัน

พวกเขาคาดไม่ถึงเลยสักนิด ชายรูปงามที่ยืนอยู่ตรงหน้าแท้จริงแล้วกลับมิใช่มนุษย์ แต่เป็นวิญญาณชั่วสองดาว!

วิญญาณชั่วสองดาวธรรมดาทั่วไปยังพอทำเนา แต่นี่ยังเป็นถึงวิญญาณชั่วที่วิวัฒนาการจนก่อเกิดสติสัมปชัญญะขึ้นแล้ว

หากนับกันตามจริง วิญญาณชั่วสองดาวทั่วไปยังไม่ถึงหนึ่งในหมื่นของวิญญาณชั่วที่มีสติสัมปชัญญะ

เนื่องจากพวกมันเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณเท่านั้น

เผชิญพบกับวิญญาณชั่วสองดาวแบบนี้ หวูเฉินไร้ซึ่งอำนาจดำเนินการใดๆเช่นกัน เพราะพวกมันมีสัญชาตญาณเป็นแรงขับเคลื่อน

ถึงกระนั่นหวูเฉินกํไม่คิดไม่ฝันเลยว่า วิญญาณชั่วสองดาวภายในถ้ำราชันย์แห่งภูตยังวิวัฒนาการจนก่อเกิดสติสัมปชัญญะได้อีก

ชายรูปงามตนนั้นหาได้กล่าวปฏิเสธเช่นกัน แต่เอ่ยปากกล่าวว่า

“มีบางอย่าง…ที่ข้าต้องระมัดระวังตัวยิ่ง!”

แท้ที่จริงแล้ว เย่หยวนเองก็ประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้ก่อนหน้าเขายังคิดว่า วิญญาณชั่วสองดาวเป็นผีก็มิใช่เป็นคนก็ไม่เชิง และดุร้ายไร้สติ

แต่คาดไม่ถึงโดยแท้ วิญญาณชั่วสองดาวที่พบเจอจะกลับกลายมาเป็นแบบนี้จริงๆ!

ยิ่งไปกว่านั้น ญาณสัมผัสรับรู้ของอีกฝ่ายก็ดูท่าจะไวมากเสียด้วย

ม่านตาดำของฉางเหลียนหดแคบตีบตันยามจ้องมองไปทางเย่หยวน ทั่วทั้งใบหน้าประดับประดาความหวาดกลัวสุดเปี่ยมล้น

แม้แต่วิญญาณชั่วสองดาวตรงหน้ายังกล่าววาจาเช่นนั้นแสดงถึงความครั่นคร้ามต่อเย่หยวนประจักษ์ชัด!

สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือ หากวิญญาณชั่วสองดาวต้องการจะฆ่าพวกเขา เพียงขยับปลายนิ้วก็เพียงพอแล้ว

ทว่ายามเผชิญหน้ากับเย่หยวนที่เป็นเพียงเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้น อีกฝ่ายกลับรู้สึกความหวั่นเกรงอย่างมาก!

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า

“สองดาวชั้นกลาง อืม…นับว่าไม่เลว! ข้าไม่คิดเลยว่า การที่เจ้าสามารถวิวัฒนาการจนก่อเกิดสติสัมปชัญญะขึ้นได้ จะช่วยให้เจ้ารอดตายจากข้าในวันนี้ นายน้อยผู้นี้จะไม่ฆ่าเจ้า”

ฉางเหลียนขนลุกซู่วเป็นหนังไก่ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เขาแทบอยากจะวิ่งหนีออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้

เย่หยวนคนนี้บ้าบิ่นเกินไป!

นั้นเป็นถึงวิญญาณชั่วสองดาว แต่เย่หยวนก็ยังจะไปพล่ามวาจาเช่นนั้นอีก

เดี๋ยวก่อน…สองดาวชั้นกลาง?

ฉางเหลียนแทบลมจับหมดสติลงทั้งแบบนั้น เขาทราบดีว่านี่หมายความว่าอย่างไร?!

กล่าวว่าอาณาจักรปฐมพระเจ้า แต่ละระดับชั้นย่อยกว้างใหญ่ดุจฟ้าดิน แต่หากเป็นอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้า กลับไพศาลดั่งข้ามสวรรค์ฟ้าทั้งมวล!

ความแตกต่างระหว่างชั้นต้นกับชั้นกลาง ช่างไพศาลไร้ขอบเขตเกินไป!

แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ เย่หยวนสามารถบอกได้อย่างไรว่า อีกฝ่ายเป็นวิญญาณชั่วสองดาวชั้นกลาง?

เมื่ออาณาจักรพลังห่างชั้นกันเกินไป ผู้ที่ด้อยกว่าจะมิอาจสัมผัสถึงขุมพลังอีกฝ่ายได้

ความลึกลับมีมากเกินไป ห้าพี่น้องฉางเหลียนมิสามารถเข้าใจอะไรได้ทันสักอย่าง

ทว่าชายรูปร่างตนนั้นกลับกล่าวตอบว่า

“เจ้าจะทราบได้อย่างไร…ว่าข้าทำอะไรเจ้ามิได้เลย? อาศัยตัวเจ้า…ยังอ่อนแอเกินไป!”

เย่หยวนโต้วาจาตอบประดับรอยยิ้มกว้าง

“หากเจ้ายังไม่มีสติสัมปชัญญะก็ลืมไปได้เลย คงมิอาจหลีกเว้นการสัประยุทธ์นองเลือดได้นแน่นอน แต่ในเมื่อเจ้ามีสตินึกคิด ก็ไม่จำเป็นต้องสู้กับนายน้อยผู้นี้ให้เสียเวลา”

เย่หยวนกลั่นกรองวาจากล่าวขึ้นไปตามจริง หาใช่หวังข่มขู่หรือเล่นแง่ใดๆ

ชายรูปงามคลี่ยิ้มตอบเช่นกันและกล่าวว่า

“ขอนับถือในความใจกล้าอันล้นเหลือของเจ้า แต่หากข้าต้องการฆ่าเจ้าจริงๆ เพียงกระดิกนิ้วเกรงว่าบรรลุผลแล้ว!”

ไล่หลังที่กล่าวจบ คลื่นพลังหยินสุดขั้วหอบใหญ่ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมถาโถมเข้าในใส่เย่หยวน หวังพิฆาตในอึดใจเดียว

เพียงแต่เย่หยวนยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงใดๆ ในขณะที่พวกฉางเหลียนทั้งห้ายืนแข็งทื่อหน้าถอดสีกันไปแล้ว

พวกเขากลัวจนไม่ขยับเท้าก้าวกันไม่ออก

ปรากฏว่า ยังไม่ทันที่วิญญาณชั่วสองดาวเคลื่อนไหว พวกเขาก็ชะตาขาดได้แล้ว!

ทว่าพลันมีรัศมีพลังไร้สภาวะกลุ่มหนึ่งเข้าห่อหุ้มเย่หยวนเอาไว้อย่างทันท่วงที

ทันทีที่คลื่นพลังหยินสุดขั้วตรงถึงเบื้องหน้าเย่หยวน มันกลับสลายหายไปอย่างรวดเร็ว

รูม่านตาของชายรูปงามตีบแคบในทันใด สิ่งนี้ยืนยันได้อย่างชัดแจ้ง เย่หยวนกลับไม่ง่ายดั่งผิวเผินที่เห็น!

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มบางว่า

“อย่าเคลื่อนไหวให้เสียเวลาเปล่า นายน้อยผู้นี้ถือว่าให้โอกาสเจ้า ประทับสัญญาณสวรรค์และยอมรับข้าในฐานะเจ้านาย! บางทีสิ่งที่เจ้าจะได้รับตอบแทนหลังจากนี้อาจยิ่งใหญ่เกินจินตนาการ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ