“ตระกูลหวังสาขาย่อย,หวังอวีเซียง ทำความเคารพคุณชายซูกับผู้อาวุโสซวน!”
ภายในห้องโถงตระกูลหวัง ปรากฏหนึ่งชายชราและอีกหนึ่งเยาวชนหนุ่มนั่งอยู่ใจกลาง
แม้แต่หวังอวีเซียงที่เป็นผู้นำสูงสุดของตระกูลหวังยังทำได้เพียงยืนทำความเคารพอยู่ข้างๆเท่านั้น
ส่วนหวังหลินโปยิ่งหนัก ทำได้แต่ยืนก้มศีรษะนิ่ง คุณสมบัติที่จะร่วมสนทนายังไม่มี
คุณชายซูที่ว่าผู้นี้เผยลักษณะท่าทางอันสุดแสนจะยองหองและหยิ่งยโส ดั่งตั้งตนเป็นยอดนภา เห็นได้ชัดว่า กระทั่งหวังอวีเซียงยังไม่อยู่ในสายตาของเขาผู้นี้เลยด้วยซ้ำ
“หวังอวีเซียง ผลงานในระยะนี้ของสาขาเมืองกุยฉางค่อนข้างทำให้ตระกูลหลักผิดหวังอย่างมาก! ตระกูลหวังของเรามีขนาดใหญ่ดุจรากไทรที่กระจายอยู่ทั่วผืนดิน ยามนี้มีข่าวไม่ดีกล่าวหากลับเน่าเสียกระทบสาขาอื่นหมดแล้ว!”
หวังซูกล่าวขึ้นเสียงเย็นสะท้านอย่างไม่แยแส
ข้างที่นั่งด้านขวา หวังอวีเซียงและหวังอวีโปยืนแขนขาสั่นเทาไม่หยุด พร้อมเหงื่อเย็นที่อาบชโลมทั่วทั้งหน้าผาก
ปรากฏว่าตระกูลหวังภายในเมืองกุยฉางกลับเป็นแค่สาขาย่อยสาขาหนึ่งจากทั้งหมดเท่านั้น
ตระกูลหวังสาขาหลักกลับอยู่ที่เมืองหมิงหยาง
บนมหาพิภพถงเทียน จะไม่ค่อยมีกลุ่มอิทธิพลมากมายนัก โดยส่วนใหญ่จะแยกย่อยออกจากตระกูลหรือนิกายสาขาหลัก แตกแขนงออกมาอีกทีหนึ่ง
ระดับชั้นของเมืองต่างๆภายในมหาพิภพถงเทียนจะถูกแบ่งออกได้ทั้งห้าระดับได้แก่ เขตเมือง, เมืองหลวง, เมืองราชวงศ์, เมืองหลวงราชวงศ์ และเมืองจักรพรรดิ
ซึ่งเขตเมืองเป็นเมืองระดับต่ำสุด ภายในเมืองระดับนี้โดยส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยเซียนอาณาจักรพระเจ้าระดับต่ำและมนุษย์ทั่วไป
การจะเข้าไปยังเมืองหลวงต่อไป กลับหาใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถทำได้
มนุษย์ทั่วไปไม่มีคุณสมบัติเข้าไปยังเมืองหลวงได้แน่นอน!
แม้แต่เซียนอาณาจักรพระเจ้ายังต้องปฏิบัติตามกฎและเงื่อนไขบางประการเช่นกัน ถึงจะมีคุณสมบัติเข้าสู่ตัวเมืองหลวงต่อไป
และผู้ปกครองเมืองหลวง อย่างน้อยจะต้องเป็นเซียนอาณาจักรราชันย์พระเจ้าขึ้นไป
เมืองกุยฉางและเมืองหมิงหยาง ทั้งสองเป็นเพียงเขตเมืองที่ขึ้นตรงต่อเมืองหลวงหวูเมิ่ง
เมืองกุยฉางเป็นเขตเมืองที่อ่อนแอที่สุดแล้วในอาณาเขตของเมืองหลวงหวูเมิ่ง ในขณะที่เมืองหมิงหยางเป็นเขตเมืองที่แข็งแกร่งกว่ามาก
ในช่วงหลายปีมานี้ ตระกูลหวังสาขาเมืองกุยฉางตกต่ำถึงขีดสุด ธุรกิจทั้งหมดกลับรอวันล้มละลาย
หวังอวีเซียงที่เดินทางไปยังสุสานสายลมหยินในตอนนั้น เขาถึงกับกระอัดเลือดสดออกจากทวารทั้งเจ็ด ด้วยความอาฆาตแค้นใจแสนปรี่ล้น
สุดท้ายนี้พวกตระกูลหวังก็ได้รู้คาวมจริง สามผู้อาวุโสใหญ่ล้วนตายสิ้นไปแล้วภายในนั้น
ข่าวที่เฟิงปิงนำมาให้กลับเป็นเพียงขยะเน่าเหม็นชิ้นนึงเท่านั้น
หวังอวีเซียงตระหนักได้ทันทีถึงความร้ายแรงของปัญหา สามารถบดขยี้สมาชิกระดับสูงของตระกูลหวังได้อย่างง่ายดาย ไพ่เด็ดที่เย่หยวนเร้นแฝงกลับน่ากลัวจนมิอาจประเมินได้
นอกจากนี้ตระกูลหวังยังสูญเสียกำลังหลักไปกว่าครึ่งแล้ว หากยังฝืนดื้อรั้นต่อไปกับเย่หยวน ในอนาคตหากถูกอื่นลอบโจมตีเข้า อาจส่งผลไม่คาดคิด
เมื่อคิดได้แบบนี้ หวังอวีเซียงจึงตัดสินใจแบกความอัปยศนี้ เข้ารายงานต่อตระกูลหวังสาขาหลักในเมืองหมิงหยาง เพื่อขอความช่วยเหลือ
ตระกูลหวังสาขาเมืองกุยฉางจะต้องจ่ายผลประโยชน์มากมาย เพื่อเป็นค่าบรรณาการให้แก่ตระกูลสาขาหลัก สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดคือจุดนี้
หลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือและกำจัดเย่หยวนได้สำเร็จ ค่าบรรณาการย่อมแพงขึ้นเป็นเท่าตัว
สามปีต่อมา ในที่สุดตระกูลหวังสาขาหลักก็ส่งหวังซูและหวังซวนเฟยมา!
หวังซูผู้นี้เป็นเยาวชนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นที่สุดของตระกูลหวัง เขาอายุน้อยกว่าห้าร้อยปี แต่กลับทะลวงขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดได้แล้ว
หวังซวนเฟยผู้นี้ยิ่งน่าทึ่งกว่า ไม่เพียงแต่จะเป็นปรมาจารย์ในด้านศาสตร์แห่งการต่อสู้เท่านั้น แต่เขายังเป็นถึงจอมเทพโอสถสองดาวอีกด้วย!
แม้ว่าผู้ที่ทรงอำนาจสูงสุดจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ธุรกิจยังคงเป็นธุรกิจ ทุกคนจำต้องปฏิบัติตามกฎขั้นพื้นฐานที่พึงกระทำ
กลุ่มอิทธิพลใหญ่ทั้งสี่ของเมืองกุยฉาง เดิมทีมีความสมดุลดั่งคานแข็ง ตระกูลหวังคือกลุ่มอิทธิพลที่แข็งแกร่งที่สุด รองลงมาจะเป็นตระกูลหลู่และหลิน ส่วนหอมหาสมบัติจะเป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุดแล้ว
ในปัจจุบัน หอมหาสมบัติขึ้นฮือผงาดง้ำโดยการหยิบชูโอสถขั้นเทวะเป็นจุดขาย เพื่อให้ตระหวังขึ้นมาต่อกรได้ จำต้องมีแผนธุรกิจที่เฉียบคมกว่า
หากใช้กำลังในการแก้ไขปัญหา อาจไปปลุกกระตุ้นเจ้าเมืองเข้าได้
แม้ว่าขุมพลังของตระกูลหวังจะแกร่งกล้า แต่เจ้าเมืองกุยฉางกลับหาใช่สิ่งที่พวกนั้นแตะต้องได้เช่นกัน สิ่งหนึ่งที่ควรทราบ เจ้าเมืองกุยฉางเปรียบเสมือนตัวแทนของเจ้าเมืองหลวงหวูเมิ่ง นี่เป็นการดำรงอยู่ที่ไม่สามารถยั่วยุได้เลย
“คุณชายซู ความผิดพลาดทั้งหมดในคราวนี้หาใช่ของตระกูลหวัง! อาคันตุกะนักหลอมโอสถคนใหม่ของหอมหาสมบัติกลับน่ากลัวเกินไป! พวกเราจึงต้องจำนนอย่างที่เห็น”
หวังอวีเซียงกล่าว
แม้ว่าอาณาจักรพลังของเขาจะสูงกว่าหวังซู แต่ด้วยสถานะที่แตกต่างกันเกินไป เขาย่อมไม่กล้าแตะต้องใดๆ
นี่คือเยาวชนหัวกะทิที่ตระกูลหวังสาขาหลักใส่ใจเลี้ยงดูยิ่งกว่าอะไร ความสำเร็จในอนาคตของหวังซูผู้นี้ช่างไร้ซึ่งขีดจำกัด!
“เหอะ แค่เด็กน้อยอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้นตัวหนึ่ง สามารถทำให้ตระกูลหวังสาขาเมืองกุยฉางตกต่ำลงถึงเพียงนี้จริงๆ! พาพลาดท่าก็คิดคำแก้ตัวได้แค่นี้?”
หวังซูกล่าวเย้ยหยันพลางคลี่ยิ้มเย็นเสียดสีออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...