แรงคุกคามผนวกกับความเร็วเกินบรรยายของเย่หยวนแทบทำเอาเขาเหนื่อยจัดเจียนตาย
“บิดาคนนี้จะสู้กับเจ้าเอง!”
ฉินเจิ้งหาได้ใส่ใจที่หลินซิ่งหนีออกไปแบบนั้น เพราะยามนี้เขาไม่มีเวลามามัวสนใจอย่างอื่น
เขายอมแพ้ต่อกรงเล็บรัตติกาลสังหารแล้ว โดยฉินเจิ้งมุ่งเน้นขุมพลังที่หลงเหลือเพื่อแรงชีวิตกับเย่หยวน!
พลังโจมตีเต็มสูบของเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าขั้นสุด หาใช่สิ่งที่เย่หยวนจะสามารถต้านรับได้ไหว
“กุ้ยหยุน!”
เย่หยวนเปล่งเสียงร้องลั่นเรียกหา กุ้ยหยุนเข้าใจได้ในทันที
กรงเล็บรัตติกาลสังหารเพิ่มความเร็วเป็นทวีเท่า ปลดปล่อยออกไปเพื่อแยกเย่หยวนกับฉินเจิ้งออกจากกัน
แต่นี่ยังไม่จบแค่นั้น สองเท้าเย่หยวนก้าวย่างกระตุกวูบ ขณะที่กรงเล็บรัตติกาลสังหารของกุ้ยหยุนปลดปล่อยออกไปเป็นคำรบสอง
บูมมม!
การโจมตีของฉินเจิ้งกระแทกชนกับกรงเล็บโดยตรง แรงระเบิดที่ก่อเกิดส่งผลให้ร่างเย่หยวนถูกซัดกระเด็นออกไปพร้อมกระอักพ่นเลือดสดออกมาคำโต
“จันทร์…สลาย!”
หยิบยืมกรงเล็บรัตติกาลสังหารมาคอยคุ้มกัน เปิดจังหวะให้เย่หยวนสำแดงใช้จันทร์สลายออกไป
การปะทะชนระหว่างฉินเจิ้งกับกุ้ยหยุนส่งแรงผลักมหาศาล ถีบส่งร่างของเย่หยวน ผนวกกับจันทร์สลายที่ปลดปล่อยออกมาในขณะเดียวกัน ยิ่งส่งเสริมเพิ่มความเร็วของเย่หยวนจนถึงขีดสุด!
เบื้องหน้าทุกคนในตอนนี้เสมือนภาพฉากเบลเป็นเงาซ้อน ทันทีทันใดร่างของเย่หยวนพลันอันตรธานหายสิ้นจากจุดที่ยืนอยู่!
หลิวซิ่งทะยานหนีออกไปไกลกว่าสองร้อยฉื่อ ทว่าทันใดนั้นนางพลันรู้สึกได้ถึงจิตสังหารแห่งดาบที่พุ่งตรงมาจากด้านหลัง ถึงขั้นขนลุกซู่วยันหนังศีรษะทั่วร่างของนาง
เร็วเกินไป!
ตอนนี้หลินซิ่งเร่งหันขวับไปหาเย่หยวน ทว่ากลับไม่มีเวลาผนึกพลังสร้างปราการป้องกันแต่อย่างใด
ระยะสองร้อยฉื่อถือว่าใกล้ชิดเพียงขยับนิ้วต่อหน้าความเร็วของเย่หยวน
ซวบ!
ดาบพิชิตมารฟ้าเสียบทะลวงเข้าไปยังบริเวณช่องท้องของหลินซิ่งโดยตรง!
“อ๊ากกก!!”
หลินซิ่งกรีดร้องเสียงหลงสุดเวทนาจับใจ แกนทะเลจิตวิญญาณของนางถูกทำลายไม่เหลือ พลังปราณเทวะจำนวนมหาศาลไหลบ่าออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ในช่วงเวลาขณะนี้เอง พลันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหลายฉากเหลือเกิน จนผู้คนมิอาจตอบสนองได้ทันแล้ว
ปฏิกิริยาของเย่หยวนไวแสงเปลี่ยนสีปรับเร็วมาก แม้จะบาดเจ็บหนักแต่ก็ยังประยุกต์กระบวนท่าได้ตามสถานการณ์แม้ถูกโจมตี!
บาดแผลระดับแค่นี้แน่นอนว่าหาได้ร้ายแรงอันใดเลยสำหรับหลินซิ่ง ทว่าตอนนี้นางกลายเป็นคนพิการไปโดยปริยายแล้ว
ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของหลินซิ่งถูกทำลายไม่เหลือดี ในเวลานี้นางไม่สามารถระดมใช้พลังปราณเทวะได้อีกต่อไป
“พร๊วดด!”
อาการบาดเจ็บของเย่หยวนไม่สามารถระงับทนต่อได้ไหว ยามนี้เขากระอักพ่นโลหิตออกมาไม่หยุดยั้ง
เลือดสดสีแดงย้อนเสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาในทันที
ทว่าปัจจุบันนี้ เย่หยวนเปรียบเสมือนเทพสงครามผู้กระหายเลือด ทำคนโดยรอบทั้งหวาดกลัวและเลื่อมใสในเวลาเดียวกัน
ใช้เวลาเพียงเศษเสี้ยวชั่วยาม เย่หยวนสามารถสังหารสามคนและทำให้พิการได้หนึ่งคน
หากไม่เห็นด้วยตาตนเองคงทำใจยากที่จะเชื่อว่า เซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าสามารถสร้างผลงานอันน่าทึ่งขนาดนี้ได้จริงๆ
พวกเขามิอาจสรรหาคำใดมาพรรณนาความเหลือเชื่อนี้ได้เลย
“เย่หยวน! ข้า…ข้าจะฆ่าเจ้า! เจ้า…เจ้ากล้าทำลายการบ่มเพาะพลังของข้าจริงๆ!”
บนถนนทั้งสามสายมีเพียงเสียงกรีดร้องโหยหวนสุดน่าสังเวชของหลินซิ่งเท่านั้นที่ดังขึ้น
ในขณะที่อีกด้านเป็นศึกสัประยุทธ์เดือดระหว่างกุ้ยหยุนและฉินเจิ้ง
การปะทะก่อนหน้าได้สร้างบาดแผลสาหัสให้แก่กุ้ยหยุนเช่นกัน แต่ตอนนี้หากต้องรับมือกับฉินเจิ้งที่สาหัสกว่า พลังเท่านี้นับว่าเพียงพอแล้ว
เย่หยวนเดินโซซัดโซเซตรงไปตรงหน้าหลินซิ่ง เมื่อนางเห็นอีกฝ่ายเดินตรงเข้ามา นางโกรธจัดดวงตาคู่นั้นแทบจะพ่นไฟออกมาได้
“เย่หยวน! เจ้าต้องตายอย่างสยดสยองเกินจินตนาการ! ข้าขอสาปแช่งเจ้า…”
เพี๊ยะ!!
เสียงตบหน้าดังกระหึ่ม ร่างของหลินซิ่งที่นอนกองกับพื้นพลันกระเด็นอีกรอบ
หลินซิ่งในปัจจุบันไร้ซึ่งพลังปราณเทวะมาคอยปกป้องร่างกาย เช่นนั้นนางจะทนต่อฝ่ามือตบของเย่หยวนได้อย่างไร? โดยไปครั้งเดียว หน้าของนางก็บวมปูดเป็นหัวหมูในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...