“ช่างโง่เขลานัก! ตอนนี้มันคงรู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของราชันแห่งลานประลองเลือดแล้ว?”
“หุหุ มันตายรึยัง? หากยังไม่ตายก็รีบลุกขึ้นก่อนจะถูกท่านไคซินปิดฉาก!”
…
คลื่นคลั่งส่งเสียงดังสนั่นบนอัฒจันทร์ปะทุกึกก้อง
ไม่มีใครเห็นใจเย่หยวนแม้แต่คนเดียว
บนสังเวียนเดือดแห่งนี้มีเพียงผู้ชนะเท่านั้นที่จะได้รับเสียงปรบมือและชื่นชม
คนแพ้กลับไม่มีผู้ใดเห็นใจ!
ในมุมมองของพวกเขา เย่หยวนที่ท้าทายไคซินผู้ยิ่งใหญ่ นับว่าประเมินความสามารถตัวเองสูงส่งเกินไป
อินทรีโลหิตลอบถอนหายใจโล่งอก ตอนนี้เขาลุ้นระทึกจนฝ่ามือของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เพราะเมื่อครู่เย่หยวนเกือบตายไปแล้ว
โชคยังดีที่เย่หยวนดึงตัวออกมาได้ทันอย่างหวุดหวิด
“เด็กคนนี้มีแนวคิดความเข้าใจที่น่าทึ่ง! แต่ไม่นานเขาคงจะพ่ายแพ้ในที่สุด”
อินทรีโลหิตเองกล่าวขึ้น
คุนหมิงกล่าวว่า
“การทำลายกระบวนจับตายเพลงหมัดนั้น ทำให้เด็กนั้นพลอยได้รับบาดเจ็บไปด้วย แต่ยังดีที่เขาตัดสินใจเด็ดขาด ฝืนฉีกตัวเองออกมา ทว่าสุดท้ายนี้ข้าก็ยังมองไม่เห็นโอกาสชนะของเขาอยู่ดี!”
ในตอนนี้คุนหมิงสามารถยืนยันได้แล้วว่า ผงโอสถนั้นไม่มีผลต่อความแข็งแกร่งของไคซิน แล้วมันทำบ้าอะไรได้กันแน่?
เย่หยวนกัดสมองตัวเองเล่นกระมัง? หรือเป็นไปไหมว่า เขาพยายามไปอย่างไรจุดหมาย?
“เจ้ายังจะลุกข้นอีกงั้นรึ? ไฉนเจ้ายังไม่ใช้มัน? ข้าขอดูหน่อยเสียว่าเจ้าจะเร็วได้เพียงใด?”
ไคซินเอ่ยกล่าวขึ้นพร้อมท่าทีพึงพอใจ
เย่หยวนแอบโคจรพลังฟื้นฟูอาการบาดเจ็บด้วยวรยุทธมังกรทรราชจุติ แสงประกายเย็นฉายวาบออกมาจากนัยน์ตาคู่นั้น พลางเอ่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า
“ตามสนอง!”
ทันใดนั้นร่างของเย่หยวนก็อันตรธานหายวับไป
บรรดาผู้คนที่อยู่ภายใต้ระดับชั้นจอมทัพปีศาจลงมา ไม่มีใครมองเห็นเย่หยวนแม้แต่เงา
ราวกับว่าเย่หยวนหายวับไปกลางอากาศ!
“เขาอยู่ไหน? ไฉนหายไปแล้ว?”
“เร็วจนเรามองไม่เห็นเลยงั้นรึ? นี่มัน…ไม่เร็วเกินไปหน่อยใช่ไหม?!”
“แม่ทัพปีศาจชั้นปลายสามารถเร่งความเร็วได้สูงปานนี้? ไม่น่าแปลกใจที่ไฉนเขาถึงหาญกล้าท้าทายท่านไคซิน! ปรากฏว่าเขามีความสามารถจริงๆ!”
“หึ! ไร้ประโยชน์! ราชันแห่งลานประลองเลือดคือไร้พ่าย! เด็กคนนั้นเพียงพยายามหนีจากความตาย!”
…
เมื่อไคซินเห็นภาพฉากดังนั้น สีหน้าการแสดงออกของเขาก็ดูจริงจังขึ้นทันตา!
เร็วกว่าก่อนหน้า!
เมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่เผชิญหน้ากับสุริยันดาราในครั้งนั้น ความเร็วของดับเงาสยบมารยังช้ากว่าเย่หยวนในตอนนี้!
คราวก่อนหน้า เขายังสามารถมองเห็นเย่หยวนได้อย่างชัดเจน แต่ครั้งนี้กลับกลายเป็นเงาสายหนึ่งที่แสนจะพร่ามัวแทน
เพียงหนึ่งปี มันจะสามารถพัฒนาขนาดนี้ได้อย่างไร?
ไม่เพียงฝ่าทะลวงขึ้นอาณาจักรพลังย่อยขึ้นมาได้ แต่พลังฝีมือยังเพิ่มขึ้นมากอีกด้วย!
อัฒจันทร์ภายในลานประลองเลือดแบ่งออกเป็นสามระดับ
อย่างไรก็ตตาม อัฒจันทร์ระดับสามกลับไม่เคยเปิดให้คนทั่วไปเข้านั่งชมได้
ภายในส่วนนี้จะเป็นโถงลับที่คนภายนอกไม่สามารถมองผ่านเข้ามาได้เลย
ซึ่งข้างในโถงแห่งนี้มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังจับจ้องร่างทั้งสองบนลานประลองอยู่
หากเย่หยวนอยู่ที่นี่ เขาจะทราบได้ทันทีว่าหญิงที่นั่งอยู่คือ อวี้หานแห่งโถงร้อยปัญญา!
เมื่ออวี้หานเห็นเย่หยวนปลดปล่อยดับเงาสยบมารพร้อมเร่งความเร็วถึงขีดสุด ร่องรอยเงาสะท้อนสายตาพลันเผยถึงความประหลาดใจ นางกล่าวขึ้นกับชายอีกคนที่อยู่ข้างๆว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...