สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1534 ข่มเหงผู้คน – จอมเทพโอสถ โดย Internet
บท ตอนที่ 1534 ข่มเหงผู้คน ของ จอมเทพโอสถ ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“เจ้าหนู ท่านปู่ฟานไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้าในวันนี้ พี่ชายของข้ากำลังจะตาย! วันอื่นค่อยสั่งสอนเสียแล้วกัน!”
หัวหน้าสามเอ่ยปากกล่าวกับเย่หยวนประโยคหนึ่ง และเตรียมวิ่งเข้าไปด้านในทันที
เย่หยวนพลันแปลกใจมิน้อย ดูเหมือนว่ากลุ่มล่ามังกรเพิ่งผ่านศึกใหญ่มา ไม่น่าแปลกที่ไฉนหัวหน้าสามดูบาดเจ็บสาหัสปานนี้
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันทีทันใดเอ่ยกล่าวเสนอขึ้นว่า
“นี่ ไฉนไม่ให้ข้าเข้าไปดูอาการเสียหน่อย? เอ่อ…ข้าเองก็เป็นนักหลอมโอสถ ฝีมือค่อนข้างน่าประทับใจ”
เย่หยวนกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อเขา ดังนั้นจึงเป่าแตร่อวดอ้างไปก่อนสักประโยค
หัวหน้าสามชะงักค้างไปครู่หนึ่งและกล่าวเจือน้ำเสียงหงุดหงิดว่า
“เจ้าหนู ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า! จะไปไหนก็ไปเถอะ!”
เย่หยวนยิ้มกล่าวหาได้สนใจวาจาอีกฝ่ายไม่
“สุดท้ายเขาก็ต้องตายอยู่ดีไม่ว่าจะพยายามอย่างไร แต่ยามนี้มีข้าอยู่ย่อมช่วยเหลือชีวิตได้แน่นอน แต่กลับเป็นเจ้าที่ปิดโอกาสนั้นเสียเอง หัวหน้าสองคงโกรธด่าสาปแช่งท่านไปจนกระทั่งตายแน่นอน”
หัวหน้าสามอดสำลักมิได้เมื่อได้ยินแบบนั้น ยามนี้ไม่มีเวลาคิดไปมากกว่านี้แล้ว จึงเอ่ยขู่ไปว่า
“เจ้าหนู ข้าเตือนเจ้าแล้ว พี่ใหญ่เองก็อยู่ข้าในนั้นด้วย เขาเป็นถึงยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้น หากคิดเล่นตุกติก ข้ารับรองได้เลย เจ้าตายไม่เหลือชิ้นดีเป็นแน่!”
เย่หยวนยิ้มและเดินติดตามทั้งสองเข้าไป
บนเตียงปรากฏชายร่างกำยำกำลังนอนหายใจรวยริน เห็นได้ชัดว่าเขาเตรียมนับถอยหลังสู่ความตายในไม่ช้า
“ท่านปรมาจารย์อู๋เฟิน หรือเป็นไปได้ไหมว่าจะไม่มีทางช่วยเหลือจริงๆ น้องสอง…เขาสละชีวิตพุ่งเข้ามาขวางลูกธนูดอกนี้ แท้ที่จริงแล้วคนที่ตาย…ควรเป็นข้าเสียมากกว่า! ท่านปรมาจารย์อู๋เฟิน ตราบใดที่ท่านช่วยเหลือชีวิตเขาได้ ข้ายอมทุกอย่าง!”
ชายวัยกลางคนดวงตาแดงก่ำ กำลังร้องขอความช่วยเหลือจากชายยราตรงหน้า
ชายวัยกลางคนผู้นี้คือประมุขกลุ่มล่ามังกร ผู้ครอบครองขุมพลังอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้น
ปรมาจารย์อู๋เฟินส่ายหัวอานกล่าวว่า
“ทุกคนต่างตระหนักได้ถึงศรดับอัสนีเป็นอย่างดี เส้นลมปราณที่เชื่อมสู่หัวใจของหัวหน้าสองถูกตัดขาด นอกจากนี้ยังมีพิษผลาญกระดูกเพลิงเคลือบติดไว้อยู่ที่หัวศร เราชายชราพยายามอย่างเต็มที่แล้วจริงๆ ท่านประมุขโปรดระงับความเศร้าโศกลงเถิด นี่เป็นชะตากรรมที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้แล้ว”
เย่หยวนจับจ้องภาพฉากนี้พลางอดประหลาดใจมิได้
ภาพฉากนี้ดูท่าจะหาใช่ของปลอม แต่นั่นเป็นความรู้สึกที่แท้จริง มันกลั่นออกมาจากใจของพวกเขา นี่ทำให้เย่หยวนรู้สึกประทับใจกลุ่มล่ามังกรไม่น้อย
“ไฉน…ไม่ให้ข้าลองดูหน่อยล่ะ?”
เย่หยวนเหลือบมองไปที่หัวหน้าสองที่นอนอยู่บนเตียง พลางเอ่ยกล่าวขึ้น
ขณะเดียวกัน ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เย่หยวนจนเป็นตาเดียว
“เขาคือใคร?”
สายตาของประมุขหรี่แคบแปรเปลี่ยนเป็นความตั้งใจขึ้นทันที
สีหน้าของหัวหน้าสามบิดเบี้ยวค่อนข้างน่าเกลียดยิ่ง ขณะกล่าวว่า
“พี่ใหญ่เขาเป็น…เด็กคนนั้นที่ต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนชื่อกลุ่ม”
สีหน้าของประมุขมืดทมิฬลงทันที ก่อนคำรามเสียงต่ำขึ้นลั่น
“ล้อเล่นแล้ว!”
ตอนนี้ทุกคนในเรือนพักต่างเปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกเศร้าสร้อยยิ่ง แต่นี่ไม่เพียงปล่อยให้ศัตรูย่างเท้าเข้ามา ทว่า…ยังจะปล่อยให้เขาช่วยรักษา นี่ไม่น่าขันเกินไปหน่อยรึ?
ประมุขโกรธจัดแล้วในเวลานี้ เขายกฝ่ามือขึ้นพร้อมซัดเข้าใส่เย่หยวนทันที
พลังทำลายล้างจากฝ่ามือยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าครึ่งขั้น ช่างทรงพลานุภาพน่าทึ่งยิ่ง
เขาหาที่ระบายความขมขื่นใจนี้ได้ยายแล้ว ยามนี้มีเย่หยวนโผล่มา เขาต้องการระบายอารมณ์ทั้งหมดลงใส่เย่หยวน
แต่เย่หยวนยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงใดๆเสมือนภูผา เขาเอ่ยปากขึ้นอย่างเฉยเมยว่า
“หากฆ่าข้าแล้ว เขาต้องตายจริงๆแน่นอน”
สายลมกระโชกพลันชะงักหยุดกะทันหัน ฝ่ามือของประมุขแข็งค้างฉับพลัน พร้อมก่นเสียงเอ่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
“เจ้าสามารถช่วยเขาได้จริงๆรึ?”
เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า
“แน่นอนว่าช่วยได้ แต่นี่มีเงื่อนไขเช่นกัน”
สีหน้าการแสดงออกของประมุขแปรเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะเผยสีหน้าแปลกๆออกมาโดยมิตั้งใจ
ชื่อกลุ่มที่ใช้กันมาหลายพันปี ยามนี้กลับต้องเปลี่ยนจริงๆน่ะรึ?
ประมุขสีหน้ามืดทมิฬลงกล่าวว่า
“ท่านปรมาจารย์อู๋เฟิน พวกเรา…เป็นกังวลกับความเป็นความตายของน้องสองเกินไป จึงเป็นเหตุให้ต้องตัดสินใจเช่นนี้! เรามิได้มีเจตนากูหมื่นท่านแต่อย่างใด! ท่านปรมาจารย์โปรดให้อภัย!”
อู๋เฟินระเบิดหัวเราะเสียงเยียบเย็นกล่าวว่า
“นั้นมันเรื่องของเจ้า เกี่ยวข้องอันใดกับข้า? เจ้าคือว่าศาสตร์แห่งโอสถมันเรียนรู้กันได้ภายในวันสองวันหรืออย่างไร? ไม่เลว! ไอ้เปี๊ยกนั้นคิดจะหลอมกลั่นโอสถเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนงั้นรึ? หุหุ…ก่อนลาจากเราชายชราขอกล่าวอะไรทิ้งท้ายเสียหน่อย หากไอ้เปี๊ยกนี่สามารถช่วยน้องสองของพวกเจ้าได้จริงๆ เราชายชราจะถอดหัวเตะเล่นเป็นลูกหนังสักเที่ยว!”
กล่าวจบ เขาไม่สนใจอันใดอีกต่อไปพร้อมสะบัดแขนเสื้อจากไปทันที
อู๋เฟิงผู้นี้เป็นใคร?
นั้นคือป้ายทองแห่งเขตเมืองทางตอนใต้!
การตัดสินใจเช่นนี้ของกลุ่มล่ามังกร นับเป็นการหักหน้าเขาอย่างแท้จริง
เขาเพิ่งตัดสินประหารชีวิตของหัวหน้าสองไปหมาดๆ ในที่สุดพวกเขาก็พบใครบางคนที่อาจจะช่วยเหลือชีวิตได้ แต่กลับเป็นเด็กน้อยที่ยังไม่รู้ภาษาด้วยซ้ำ!
นี่…นี่มันบ้าชัดๆ!
สีหน้าการแสดงออกของประมุขบิดเบี้ยวน่าเกลียดถึงขีดสุด เขาหันขวับเข้าจับจ้องเย่หยวนตาเขม็ง คำรามลั่นขึ้นว่า
“ไอ้หนู ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ! หากมาค้นพบทีหลังว่าเจ้ากำลังปั่นหัวพวกเรา ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ! และนำศีรษะของเจ้าไปขอขมาแก่ปรมาจารย์อู๋เฟิน!”
เย่หยวนเหลือบมองประมุขอย่างคร้านจะใส่ใจ กล่าวว่า
“เมื่อใดที่คนส่วนใหญ่กล่าวเช่นนี้กับข้า พวกนั้นล้วนติดบัญชีดำทุกคน ต่อให้ตาแก่นั้นจะมาขอขมาคุกเข่าแทบเท้าข้า แต่ข้าก็ไม่มีทางให้อภัยเช่นกัน เมื่อพิจารณาถึงตรงนี้ เห็นแก่สายสัมพันธ์พี่น้องอันน่าประทับใจของพวกเจ้า ข้าจะเมตตาช่วยเหลือสักครา”
สีหน้าการแสดงออกของประมุขมิดทมิฬถึงขีดสุดจริงๆแล้ว
เด็กคนนี้มันหยิ่งผยองเกินไป!
เขาเกือบจะหลงเชื่อแล้วจริงๆ
แต่…ทำไมน้องสามถึงเชื่อใจเด็กนี่? สิ่งที่น้องสามตัดสินใจไปจะถูกต้องหรือไม่ มันขึ้นอยู่ต่อจากนี้แล้ว
“ไปเตรียมกะละมังสะอาดมา โชคดีที่ข้าผู้นี้มีสมุนไพรวิญญาณที่จำเป็นติดตัวมาด้วย แต่ค่าสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ พวกเจ้าจำต้องจ่ายให้ข้าในภายหลัง!”
เย่หยวนกล่าวสั่งประมุขโดยไม่แยแสใดๆ
ทุกคนในยามนี้ต่างถอดสีหน้าหนัก เด็กคนนี้…มันเชื่อถือได้จริงๆใช่ไหม?
…………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...