ตอน ตอนที่ 1562 กล่าวไม่ไว้หน้า! จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 1562 กล่าวไม่ไว้หน้า! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ภายในห้องรับลูกค้าที่มีสมุนไพรนานาชนิดวางเป็นระเบียบ ยามนี้กลับกระจัดกระจายไปทั่ว
เจ้าของร้านซ่อนตัวอยู่ใต้มุมโต๊ะ กลับจนไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง
แรงกดดันที่แพร่สะพัดออกมาจากร่างถังรุยทำเอาเขาหลวดกลัวจนตัวสั่นเทา
“ไปเรียกไอ้บัดซบเย่หยวนออกมา! วันนี้ร้านขายโอสถรับจ้างสารพัดจักต้องหายไปจากเขตเมืองทางใต้ตลอดกาล!”
ถังรุยเอ่ยกล่าวน้ำเสียงเยียบเย็น
เมื่อซิงกวนเห็นถังรุย สีหน้าการแสดงออกของเขาพลันซีดลงทันทีอย่างช่วยมิได้ แต่เขายังคงข่มกลั้นสงบสติลงและประสานมือกล่าวว่า
“ท่านถังรุย ไม่ทราบว่าร้านขายโอสถสารพัดรับจ้างของเราไปทำอะไรผิด ถึงทำให้หอยุทธ์ไม่พอใจ?”
ถังรุยเหลือบมองอีกฝ่าย แววตาแสนหยามเหยียด
“เป็นเพียงมดปลวกตัวน้อย มีคุณสมบัติอะไรหาญกล้าตั้งคำถามกับข้าผู้นี้? ไสหัวไป!”
เพียงคำว่า‘ไสหัวไป’เหล่าพี่น้องซิงกวนราวกับรับแรงกดดันหนักหน่วงประดุจแดกผืนพิภพ ชนิดแทบล้มทั้งยืน
ซิงกวนเป็นถึงยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าครั้งขึ้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าถังรุย เขากลับไม่สามารถทนยืนอยู่ได้เกินสิบอึดใจด้วยซ้ำ
ถังรุยคนนี้มิใช่เซี่ยวยื่อเยว่มือใหม่แบบนั้น เขาเป็นถึงยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาว สามารถสังหารซิงกวนและเหล่าพี่น้องได้ด้วยคลื่นฝ่ามือเดียว
หากมิใช่เพราะกฎระเบียบของทางหอยุทธ์ที่บังคับใช้อย่างเข้มงวด ปานนี้ซิงกวนและคนอื่นๆคงกลายเป็นศพไปนานแล้ว
ซิงกวนคลานเข่าพยายามลุกขึ้นพร้อมกัดฟันแน่นกล่าวว่า
“ท่าน…หอยุทธ์ของท่านเองก็มีกฎเช่นกัน ไฉนถึงมาทำลายร้านขายโอสถรับจ้าสารพัดตามอำเภอใจเช่นนี้?”
ในเวลานั้นเองอู๋เฟินก้าวย่างออกหน้ามาแทนและกล่าวเย้ยว่า
“เจ้าอยากรู้นักใช่ไหม? เย่หยวนสมรู้ร่วมคิดกับยอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้า ขัดคำสั่งของเขตเมืองทางตอนใต้ ข้าสงสัยว่าเพียงเท่านี้โทษยังไม่หนักอีกรึ?”
สีหน้าการแสดงออกของซิงกวนแปรเปลี่ยนไปทันที เขาคำรามลั่นอย่างโกรธเกรี้ยวขึ้นว่า
“อู๋เฟิน เจ้ากำลังใส่ร้ายผู้คนโดยไม่ซึ่งหลักฐาน! เหล่ายอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้ามาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนสนทนาด้านศาสตร์แห่งโอสถ ข้าสงสัยเสียจริงว่าไปขัดสั่งตอนไหน?”
ดวงตาของถังรุยเบิกกว้าง เค้นเสียงเยียบเย็นกล่าวว่า
“ไม่ว่าพวกเขาจะออกมาทำอะไรจำต้องทำเรื่องผ่านหอยุทธ์ก่อนมิใช่รึ? ข้าบอกไปแล้ว เลิกพล่ามเรื่องไร้สาระมิฉะนั้นข้าจะไม่สุภาพอีกต่อไปแล้ว!”
ภายใต้แรงกดดันอันทรงพลัง กายาทั่วทั้งร่างของซิงกวนสั่นสะท้านไม่หยุดหย่อน
อย่างไรก็ตามเขายังคงกัดฟันดื้อรั้นไม่ยอมหลีกถอย
ชั่วชีวิตของซิงกวนให้ความสำคัญกับมิตรภาพและความภักดีเป็นที่สุด
เย่หยวนช่วยรักษาน้องสองของเขาจากความตาย ดังนั้นภายในใจของเขาจึงเปี่ยมล้นไปด้วยคำขอบคุณที่มีต่อเย่หยวน
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เซียวยื่อเยว่ทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าเต็มขั้นได้และบุกมา หากมิใช่เพราะเย่หยวน ปานนี้กลุ่มอัสนีคำรนของเขาคงถูกถล่มเละไปนานแล้ว
ดังนั้น เมื่อเขาทราบข่าวว่าอู๋เฟินกำลังนำคนบุกเข้ามาก่อเรื่อง เขาจึงพาเหล่าพี่น้องออกมาสกัดต้านทันที
เว้นเสียว่า ซิงกวนไม่คิดมาก่อนเลยว่า อู๋เฟินจะเชิญยอเซียนของฝ่ายหอยุทธ์มาด้วยเช่นนี้
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เห็นโล่งศพไม่หลั่งน้ำตา!”
ถังรุยคำรามเสียงเย็นดุจวาจาประหาร พร้อมขี้นิ้วใส่ซิงกวนโดยตรง
กลิ่นอายมรณะตีขึ้นมาจากเหนือศีรษะอยู่รำไร ภายใต้ดัชนีนี้ซิงกวนไม่สามารถต่อกรได้เลย เขาทำได้เพียงหลับตารอความตายเท่านั้น
บูมมม!
แต่ทันใดนั้นเอง รัศมีแรงกดดันอีกขุมหนึ่งที่มิได้อ่อนแอไปกว่าถังรุยพลันสกัดเข้าแทรกแซงระหว่างกิจของทั้งสองขึ้นฉับพลัน
ถังรุยที่สัมผัสได้ดังนั้น ถึงขั้นตีฝีเท้าเร่งถอยห่างออกมาในชั่วอึดใจ
ขณะที่โผบินทะยานถอยหลัง หางตาพลันเห็นชายหนุ่มในชุดสีขาวอยู่ปรากฏขึ้นมาข้างกายซิงกวน ทันทีที่ทราบว่าเป็นใคร เขาถึงกับถอดสีหน้าทันที
“ลวี่อี้! เจ้า…เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?!”
ถังรุยอุทานลั่นด้วยความประหลาดใจยิ่ง
ลวี่อี้นับเป็นดาวรุ่งแห่งหอโอสถ เขาคือศิษย์ผู้มีโอกาสมากที่สุดในการรับสืบทอดมรดกช่วงต่อจากปรมาจารย์ซวนอี้ในภายภาคหน้า
ในทางตรงกันข้าม ตำแหน่งของถังรุยในหอยุทธ์นับว่าต่ำต้อยกว่ามาก เขาเป็นได้เพียงผู้ติดตามของหลู่เมิ่งเท่านั้น
“ถังรุย พวกเจ้าทุกคนกล้ามากนักที่กล้าอวดอ้างข่มขวัญคนทางใต้! เจ้ามีคุณสมบัติขนาดนั้นที่ออกมาในนามของหอยุทธ์!”
แต่ใครจะไปรู้ว่ายังมียอดเซียนอีกคนโผล่ออกมาเป็นระลอกสาม แถมครั้งนี้ทั้งภูมิหลังและศักดิ์ศักดิ์ยังสูงจนถังรุนเทียบชั้นไม่ติด
ยามนี้อู๋เฟินแทบลมจับหมดสติไปทั้งแบบนั้น
ไอ้เด็กเหลือขอเย่หยวนมันมีอาคมใดซุกซ่อนอยู่กันแน่? ไฉนสถานที่แห่งนี้ถึงมียอดเซียนแวะเวียนกันมากขึ้นเรื่อยๆ?
แต่ในขณะที่พวกเขาสิ้นหวังนั้นเอง ก็มีชายชราร่างท้วมตรงเข้ามาในร้านขายโอสถรับจ้างสารพัดอย่างแช่มช้า
ดวงตาคู่นั้นของอู๋เฟินทอประกายสดใสขึ้นในบัดดล ยามนี้รู้สึกตื่นอกตื่นเต้นอย่างอดมิได้
“ลวี่อี้ ความหาญกล้าของเจ้ากลับไม่เล็ก กล่าวดูถูกลับหลังข้าเช่นนี้เชียว?”
ชายชราร่างท้วมที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันผู้นี้มิใช่ใครอื่นนอกจาก หลู่เมิงตัวจริงเสียงจริง!
คล้อยหลังที่ถังรุยเพิ่งจากออกไปได้ไม่นาน หลู่เมิงก็ได้รับรายงานว่าพวกศิษยพี่ทั้งสี่ของซวนอี้ก็เดินทางออกจากเขตเมืองชั้นในเช่นกัน
และปลายทางของพวกเขาคือร้านขายโอสถรับจ้างสารพัด!
ข่าวสารที่ได้รับมาใหม่เช่นนี้ ทำให้หลู่เมิงสีหน้าเคร่งเครียดทันทีพร้อมเร่งเดินทางติดตามออกมาเป็นการส่วนตัว
สำหรับซวนอี้ เนื่องจากสถานะอีกฝ่ายเหนือกว่าตนมาก หลู่เมิงจึงไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายหรือรับรู้ได้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน
เมื่อลวี่อี้เห็นหลู่เมิงออกมาเป็นการส่วนตัว เขาเองก็ตื่นตะลึงไม่น้อยเช่นดัน แต่ในไม่ช้าเขาก็กลับคืนสู่คาวมสงบดังเดิมพร้อมกล่าวว่า
“ข้าไม่เคยนินทาหรือด่าลับหลังใคร! แต่เจ้าคิดใช้อำนาจตามใจชอบเช่นนี้ได้อย่างไร!”
ไม่ว่าจะเป็นตัวซวนอี้เองหรือบรรดาลูกศิษย์ พวกเขาไม่เคยไว้ให้ใครทั้งสิ้นรวมไปถึงผู้มีอำนาจ เพราะความแกร่งกล้าของซวนอี้เองแม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่ยังต้องเกรงกลัวเช่นกัน
ดังนั้น ภายในหอโอสถ ผู้อาวุโสใหญ่จึงมักจะหาทางปราบปรามและพยายามตัดขาดเหล่าศิษย์เชื้อสายของซวนอี้ให้สิ้นซาก นอกจากนี้หลู่เมิงยังมากเล่ห์เหลี่ยม เข้าข้างผู้อาวุโสใหญ่ จึงไม่แปลกที่จะไม่กินเส้นกับพวกลวี่อี้
ในฐานะศิษย์คนโตของซวนอี้ ลวี่อี้ไร้ซึ่งความเคารพต่อหลู่เมิงเป็นธรรมดา
แม้ว่าหลู่เมิงจะเป็นผู้ดูแลระดับสูง แต่สถานะของลวี่อี้ในหอโอสถกลับมิได้ด้อยกว่าเลย
หลู่เมิงไม่คิดไม่ฝันเลยว่า ลวี่อี้จะหัวรั้นปานนี้ สีหน้าของเขามืดทมิฬลงอย่างหาที่เปรียบไม่ ยามนี้กล่าวเสียงเย็นชืดว่า
“เชื้อสายของเจ้าช่างหยิ่งผยองเกินไปใหญ่แล้ว! ไร้ซึ่งการอบรบ! ไร้มารยาทสิ้นดี! เราชายชราคนนี้จะสั่งสอนเจ้าเองว่า วิธีเคารพผู้อาวุโสกว่าต้องทำกันอย่างไร! วันนี้ข้าขอลงโทษเจ้าแทนในนามของผู้อาวุโสสอง!”
………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...