ขณะที่หนิงซื่ออวี๋บดโสมโลหิตสวรรค์อายุขัยจนละเอียด นิ้วชี้เย่หยวนเคาะที่พักแขนแผ่วเบาตามจังหวะคล้อยไป
สายตาของหนิงซื่ออวี๋พลันเหลือบมองจ้องพินิจอยู่บนนิ้วของเย่หยวนอยู่ตลอด
เมื่อเห็นเย่หยวนเคาะนิ้วให้จังหวะ เวลานี้เองร่างของนางก็เริ่มเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ
การเคลื่อนไหวของหนิงซื่ออวี๋ยังคงห่างไกลจากความคล่องแคล่วแบบซ่งฉีหหยาง ดูท่าทางของนางค่อนข้างเงอะงะ
เมื่อทุกคนเห็นภาพฉากนี้ต่างพากันอดประหลาดใจมิได้
ทักษะเงอะงะเช่นนั้นหรือจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ?
“หุหุ นังนี่มันเล่นตลกหรืออย่างไร? ทักษะแบบนั้นหรือยังต้องการจะเอาชนะข้าให้ได้?”
ซ่งงฉีหยางระเบิดหัวเราะกับตัวเอง
ตึก! ตึก! ตึก!
นิ้วชี้เย่หยวนยังคงเคาะเป็นจังหวะต่อเนื่อง ทันทีทันใดท่าทางการเคลื่อนไหวของหนิงซื่ออวี๋ก็แปรเปลี่ยนไปทันที
ศาสตร์แห่งสวรรค์ที่ถูกสกัดออกมาจากโสมโลหิตสวรรค์อายุขัยเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่เครื่องคัดแยกเต๋าไม่หยุดหย่อน
แต่เดิมผู้ดูแลที่เป็นกรรมการท่านนั้นประเมินไว้ว่า หนิงซื่ออวี๋จะไม่สามารถผ่านรอบนี้ไปได้ ทว่าเวลาผ่านพ้นไป รูม่านตาดำของเขาพลันหดเล็กเท่ารูเข็ม จับจ้องหนิงซื่ออวี๋แสนเหลือเชื่อ
ผู้ดูแลคนนี้อยู่ใกล้กับหนิงซื่ออวี๋มากที่สุด จึงสัมผัสถึงกลิ่นอายของศาสตร์แห่งสวรรค์ที่ถูกสกัดออกมาได้ชัดเจน
ศาสตร์แห่งสวรรค์เหล่านี้มิได้กระจายสูญสลายออกมากนัก โดยส่วนใหญ่ล้วนถูกนำส่งเข้าเครื่องคัดแยกเต๋าโดยตรง
ตึก!
ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!
ตึก! ตึก! ตึก!
นิ้วชี้เย่หยวนยังคงเคาะไม่หยุดหย่อน บางครั้นคราวเปลี่ยนจังหวะต่างออกไป
หากมองจากมุมมองคนนอกจะดูเหมือนว่าเย่หยวนกำลังเคาะที่พิงเล่นอย่างเบื่อหน่าย
แต่หนิงซื่ออวี๋กลับเคลื่อนไหวตามจังหวะของเย่หยวน และเปลี่ยนท่าทางไปต่อเนื่องไม่ซ้ำ
ขณะเดียวกัน ระดับเกณฑ์ของเครื่องคัดแยกเต๋ายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง!
สี่คะแนน!
ห้าคะแนน!
หกคะแนน!
เมื่อตรงถึงหกคะแนนมันกลับพุ่งไม่หยุดตรงสู่เจ็ดคะแนนโดยตรง!
ทุกคนต่างตกตะลึง ทักษะแปลกๆของหนิงซื่ออวี๋
เจ็ดคะแนนมันคือระดับปรมาจารย์ยอดฝีมือ!
ฝีมือการสกัดศาสตร์แห่งศาสตร์แห่งสวรรค์ของหนิงซื่ออวี๋เหนือชั้นถึงขั้นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?
“อย่า…อย่าให้ถึงเจ็ดคะแนน! อย่าให้ถึงเจ็ดคะแนน!”
ซ่งฉีหยางร่ำร้องภายในใจด้วยความสิ้นหวัง หวังให้หนิงซื่ออวี๋หยุดมือโดยเร็ว
อย่างไรก็ตามแต่ หนิงซื่ออวี๋กลับมิได้มอบโอกาสให้แก่เขาเลย ระดับเกณฑ์วัดพุ่งไปถึงเจ็ดคะแนนโดยตรง!
อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่จบ!
หลังจากคะแนนพุ่งไปถึงเจ็ด ความเร็วก็เริ่มช้าลงจนเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า แต่มันยังคงไต่ขึ้นไปทีละนิด
ในที่สุดก็หยุดลงที่เจ็ดจุดสาม!
ทั้งบริเวณปราศจากสุ่มเสียงแสนเงียบงัน กินเวลานานกว่าห้าอึดใจค่อยมีเสียงอุทานไล่หลังตามมา
“เจ็ดจุดสาม! นี่มัน…วิปลาสเกินไป!”
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า…หนิงซื่ออวี๋จักไต่เต้าถึงขอบเขตปรมาจารย์แล้ว!?”
“นี่มันเหลือเชื่อเกินไป! จอมเทพโอสถสามดาวหรือจะสกัดศาสตร์แห่งสวรรค์ได้ถึงเจ็ดจากสิบส่วน?! แม้แต่จอมเทพโอสถสี่ดาวยังมีเพียงไม่กี่คนที่ทำได้!”
…
เกณฑ์ของเครื่องคัดแยกเต๋าคือ ยิ่งสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งขึ้นยากมากขึ้นเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ผ่านเกณฑ์ขีดที่หกขึ้นไป ขยับเพิ่มแม้แต่จุดเดียวนับว่ายากประดุจขึ้นสวรรค์
แม้บางคนที่ขึ้นกลายเป็นจอมเทพโอสถสี่ดาว และความเข้าใจต่อศาสตร์แห่งโอสถจะลึกซึ้งขึ้น แต่ก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะทะยานจากหกไปเจ็ดคะแนนทันตาเห็นเช่นนี้
แต่หนิงซื่ออวี๋กลับสามารถทำได้!
ความประหลาดใจถูกเขียนขึ้นทั่วทั้งใบหน้าของหรงซู แต่เดิมเขาเพียงต้องการพึ่งพาคะแนนที่สูงมากของซ่งฉีหยางเพื่อใช้ตบหน้าเย่หยวนกลางสาธารณชน
แต่ตอนนี้คะแนนของซ่งฉีหยางกลับกลายมาเป็นถังขยะต่อหน้าหนิงซื่ออวี๋ไปแล้ว!
ความตื่นตะลึงภายในใจของซวนอี้เองก็มิได้น้อยไปกว่าหรงซูเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...