จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1603

ตอนที่ 1603 ข่มเหงผู้คนมากเกินไป
Ink Stone_Fantasy
เย่หยวนลืมตาขึ้นทันทีและก้าวเข้าไปหาเล่งหยูในพริบตา

เขาจับคอของเล่งหยูและกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา “ไปกัน ออกไปกันเถอะ”

พูดจบเย่หยวนก็ก้าวเท้าเดินออกไปอีกครั้ง ตอนนี้พวกเขาก้าวเข้าสู่ห้วงโกลาหลแล้วเรียบร้อย

พื้นที่มิติรอบ ๆ ตัวของพวกเขากำลังพังทลายลงอย่างต่อเนื่อง ปล่อยคลื่นพลังอันรุนแรงที่ทำให้เล่งหยูใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

พลังเหล่านี้มันรุนแรงเกินบรรยาย หากตัวเขาไปสัมผัสกับมันเข้าสักนิด ร่างกายของเขาคงแหลกเหลวอย่างไม่มีอะไรให้กลบฝังแน่

แต่ทว่าเย่หยวนกลับสามารถพาเขาออกมาได้อย่างง่ายดายราวกับกำลังเดินอยู่ในสวนหลังบ้าน เดินหลบเลี่ยงพลังเหล่านั้นอย่างไม่บาดเจ็บตรงไหนเลยแม้แต่น้อย

แม้จะเห็นภาพรอบตัวค่อย ๆ แตกสลายลงเช่นนั้น แต่ตัวเขาทั้งสองคนกลับไม่ได้รับผลกระทบอะไรราวกับว่าพวกเขาอยู่อีกในอีกโลกหนึ่ง

หลังจากความตื่นเต้นจางหาย ตอนนี้เล่งหยูก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาจับใจ

เขาเข้ามาในห้วงมิติสืบทอดนี้ทำไมกัน?

ไม่ใช่ว่ามาเพื่อทำความเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติหรอกหรือ?

เมื่อไม่นานมานี้เขาเอาแต่หลงอยู่กับความโอหัง คิดว่าจะใช้พรสวรรค์ที่มีในการทำความเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติเพื่อกลายเป็นยอดคน

แต่ความเป็นจริงที่เขาต้องเจอกลับทำให้เล่งหยูได้ทิ้งความหวังลง

แนวคิดแห่งห้วงมิตินั้นไม่ใช่อะไรที่อัจฉริยะทั่ว ๆ ไปจะเข้าใจมันได้

จนเมื่อไม่นานมานี้เล่งหยูก็ยังเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่มีทางเข้าใจ คนเราไม่สามารถเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติในห้วงมิติสืบทอดนี้ได้เลย

เพราะฉะนั้นตอนที่เขาเห็นเย่หยวนเข้ามาเล่งหยูถึงได้ดูถูกดูแคลนเด็กหนุ่มอย่างเต็มที่ ว่ากล่าวว่าเขาประเมินตัวเองสูงเกินไป

แต่วันนี้เขาได้เห็นแล้วว่าเด็กหนุ่มคนนี้มันสามารถสำเร็จได้จริง ๆ

ที่สำคัญเขายังใช้เวลาแค่หนึ่งร้อยปีเท่านั้น!

นั่นมันทำให้เขาแทบต้องกระอักเลือด

เด็กคนนี้มันสัตว์ประหลาดชัด ๆ

เขานั้นเป็นผู้อาวุโสแห่งหอโอสถและยังสามารถทำความเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติได้

จะเก่งกาจอะไรขนาดนั้นกัน?!

ส่วนอีกด้านในเวลาหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมานี้มันเป็นชีวิตที่แสนลำบากของพวกเยวี่ยเมิ่งลี่

แม้ว่าพวกนางทั้งหลายจะได้รับการดูแลจากซวนอี้ผู้ที่เป็นผู้อาวุโสลำดับสอง แต่เขาก็เป็นถึงผู้อาวุโสลำดับสองผู้ยิ่งใหญ่ จะให้เขามาดูแลชีวิตประจำวันให้มันก็คงไม่ใช่เรื่อง

เมื่อเวลาผ่านนานเข้า ชีวิตของพวกนางทั้งหลายก็ยิ่งเจอแต่ปัญหามากขึ้น

ซวนอี้นั้นจัดที่พักขนาดใหญ่ให้พวกเขาในเมือง ปล่อยให้พวกลี่เอ๋อได้อยู่อย่างสบายใจ

ทั้งอาหารและเสื้อผ้าต่างไม่ใช่ปัญหาเลย

แต่เพียงแค่ว่าคำสั่งของซวนอี้มันก็เป็นได้แค่คำสั่งของเจ้านาย เมื่อมันมาถึงคนเบื้องล่างแล้ว เรื่องที่ว่าจะทำตามแบบไหนมันก็อีกเรื่องอย่างสิ้นเชิง

“ขี้เหนียวกันเสียจริง! ทุกวันนี้ผลึกปราณเทวะที่พวกเราได้รับมันมีแต่จะน้อยลง ๆ เป็นแบบนี้แล้วเราจะฝึกฝนบ่มเพาะวิชากันอย่างไร?” อิ้งหมัวหู่ตะโกนอย่างโกรธเคือง

ลี่เอ๋อจึงถอนหายใจและกล่าวขึ้น “พี่หยวนนั้นหายตัวไปได้หนึ่งร้อยปีแล้ว อำนาจที่เขาเคยมีมันได้จางหายไปจนหมด ตอนนี้ผู้อาวุโสที่สองยังจำบุญคุณเก่าก่อนได้และคอยดูแลเรา แต่ใครจะรู้ว่าบุญคุณนี้มันจะคอยอยู่ค้ำจุนเราไปอีกนานแค่ไหน”

อิ้งหมัวหู่จึงตอบกลับมาอย่างขุ่นแค้น “ไอ้เจ้าโจวเหว่ยนั่น มันจะข่มเหงผู้คนมากเกินไปแล้ว! ไม่ยอมล่ะ วันนี้ข้าจะไปหาผู้อาวุโสที่สอง!”

ลี่เอ๋อได้ยินแบบนั้นจึงรีบดึงตัวของอิ้งหมัวหู่ไว้ “หยุดเลย อย่าได้สร้างปัญหาอีก! ก่อนที่พี่หยวนจะกลับออกมาเราต้องไม่หาเรื่องให้ตัวเองเพิ่มอย่างเด็ดขาด! หากตอนนี้เจ้าไปหาผู้อาวุโสที่สอง แม้จะไม่นับเรื่องที่ว่าเขามีเวลาว่างมาพบเราไหม ต่อให้เจ้าได้พบเขาจริง เขาก็คงจัดการโจวเหว่ยให้แหละ แต่ต่อจากนั้นล่ะ? ในวันข้างหน้าจิตใจของโจวเหว่ยจะเปลี่ยนจากแย่กลายเป็นร้าย! บุญคุณที่พี่หยวนมีมันจะช่วยปกป้องเราได้ระยะหนึ่ง แต่หากบุญคุณนั้นถูกชดใช้จนหมดแล้วล่ะ หากพี่หยวนคิดจะอยู่ในนั้นเป็นพันปีล่ะ เจ้าคิดว่าผู้อาวุโสที่สองจะยังปกป้องเราไปได้นานขนาดนั้นรึ?”

ลี่เอ๋อนั้นสามารถมองสถานการณ์ภาพรวมในตอนนี้ได้อย่างเด็ดขาด

เดิมทีด้วยพลังของพวกนางทั้งหลาย มันไม่มีทางเลยที่จะได้เข้ามาอยู่เขตชั้นในของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ